3.เยียวยา 2
ทั่วทั้งห้องพลันเงียบเสียงในทันทีที่เอลิซ่ากล่าวจบ เธอกวาดสายตามองผู้คนก่อนที่จะรีบลุกขึ้นแล้วคุกเข่าลงกับพื้นต่อหน้าของแกรนด์ดยุคคามิล
"นะ..หนูพูดอะไรผิดไปรึเปล่าคะ? ขอโทษค่ะ"
เธอก้มหน้าลงไปจนเกือบติดพื้นพร้อมกับดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ฮาซานถอนหายใจพร้อมกับกะพริบตาถี่ๆเพื่อเก็บซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้
"ไม่เอลิซ่า เจ้ามิได้กล่าวผิดเพียงแต่มันมีบางอย่างที่ผิดพลาดเพราะว่าข้านั้นยังคุยกับเจ้าไม่เข้าใจและไม่ชัดเจนพอ ข้ามีคนรับใช้ สาวใช้ คนสวนหรือแม้แต่อัศวินมากพอแล้ว เพราะฉะนั้นข้ามิได้ต้องการคนงานเพิ่ม.."
เอลิซ่าเงยหน้าขึ้นมามองท่านแกรนด์ดยุคด้วยดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา
"...แบบนั้นท่านจะไล่หนูออกไปจากที่นี่อย่างนั้นหรือคะ?"
"ไม่..ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน เพราะว่าข้าจะไม่ไล่เจ้าไปไหน ข้ามิอยากได้คนงานแต่ทว่าข้าต้องการบุตรสาว..."
นี่มันเกินกว่าที่คาดคิดเอาไว้เยอะเลย เพราะคิดไม่ถึงว่าเขาจะรับเธอเป็นบุตรบุญธรรมไวขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าท่านแกรนด์ดยุคนั้นชอบเด็กที่ดูอ่อนน้อมถ่อมตน เช่นนั้นเธอควรจะแสดงท่าทีที่สมบูรณ์แบบต่อหน้าเขา ไม่ควร...แสดงท่าทีอันใดที่เป็นการทำให้เขารำคาญใจ
ควรจะเจียมตัวและเจียมตนอยู่เสมอเพราะสิ่งของรอบกายเหล่านี้และความรักของท่านแกรนด์ดยุคจะอยู่กับเธอเพียงแค่แปดปีเท่านั้น
หลังจากนั้นทุกอย่างจะพังทลายลงมาราวกับประติมากรรมที่ทำจากน้ำแข็ง มันจะว่างเปล่าและไม่หลงเหลือหลักฐานใดๆว่าครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นที่รักของทุกคน...
หลังจากนั้นเธอก็ลงมือทานอาหารจนอิ่ม
"นี่คือเซอร์คาเมรอน เขาจะมาเป็นผู้คุ้มครองลูกนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"
เอลิว่ามองใบหน้าของอัศวินที่นั่งลงเบื้องหน้าเธอ เขามีใบหน้าที่เรียกได้ว่าสะดุดตามากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นดวงตาที่ฉายแววอ่อนโยน จมูกโด่งเป็นสันกับริมฝีปากที่โค้งขึ้นเพื่อส่งมอบรอยยิ้มให้เธอ...
เขาบรรจงจุมพิตไปที่ด้านหลังฝ่ามือพร้อมกับกล่าวคำปฏิญาณเสียงดัง
"ด้วยเกียรติของคาเมรอน ข้าจะขอปกป้องและคุ้มครองท่านหญิงเอลิซ่า คามิลด้วยชีวิต..."
เธอส่งยิ้มจางๆให้เขา เซอร์คาเมรอนเป็นชายที่อายุราวสิบแปดปี เขาอยู่ในช่วงวัยที่เจิดจรัสสุดๆไปเลย ทั้งใบหน้ารูปลักษณ์ภายนอกและหน้าที่การงาน
ยามนี้เธอมิใช่เอลิซ่าลูกสาวของคนตัดฟืนอีกแล้ว แต่ทว่าเธอคือท่านหญิงเอลิซ่า คามิล บุตรีของแกนด์ดยุคคามิลผู้โหดเหี้ยม ฉายาของท่านพ่อบุญธรรมนั่นคือแกรนด์ดยุคปีศาจ เพราะในราชวงศ์ไอรีนีโอ ส่วนใหญ่จะเกิดมาพร้อมกับเวทที่เป็นสีขาวหรือว่าสีทอง แต่ทว่าสีเวทของท่านพ่อบุญธรรมมันคือสีดำสนิท แถมตอนที่องค์จักรพรรดิยกกำลังทหารมาบุกคฤหาสน์คามิลเพื่อมาชิงตัวคนรักของท่านพ่อบุญธรรมไป
ท่านแกรนด์ดยุคได้จัดการทหารนับหมื่นของพระราชวังด้วยตัวคนเดียว ความโหดเหี้ยมและทารุณสมกับพลังเวทที่ได้จากปีศาจ นั่นเป็นอีกเหตุผลว่าทำไมท่านพ่อบุญธรรมถึงได้ครองตนเป็นโสดมาอย่างยาวนานทั้งที่คามิลทรงอำนาจมากมายขนาดนี้ นั่นก็เพราะว่าไม่มีสตรีใดกล้าพอที่จะเข้าหาเขานั่นเอง...
รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูหล่อเหลานั่นมันจะจางหายไปในทันทีเมื่อท่านพูดออกมา
"งานพิธีแต่งตั้งจะจัดขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้าครับ เรื่องเกี่ยวกับพิธีการจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว"
พ่อบ้านคือชายชราที่ดูท่าทางจะดุแต่ทว่าเขาคือคนที่ใจดีมากๆกับเอลิซ่าในเนื้อเรื่อง เพราะว่าเขาเป็นคนที่จัดเตรียมบ้านพักและเงินจำนวนมากเอไว้ให้เอลิซ่าเมื่อถึงตอนที่นางถูกไล่ออกจากที่นี่
แต่เรื่องราวมันอาจจะมีจุดเปลี่ยนก็ได้เพราะว่าเอลิซ่าในต้นฉบับคือสตรีที่นิสัยเสียมากทีเดียว เพราะอำนาจทำให้นางหลงละเลิงกับมัน เอลิซ่าผู้อ่อนน้อมจึงเปลี่ยนไปเมื่อนางได้รับการตามใจจากทุกคน
แต่ว่าเธอจะไม่เป็นแบบนั้น และถึงเธอจะทำตัวดีขนาดไหนเธอก็ไม่คิดที่จะแย่งตำแหน่งนี้ไปจากนางเอกอย่างแน่นอน เพราะเมื่อถึงเวลา เธอจะเดินจากไปจากที่นี่
อาจจะหาชายดีๆสักคนเพื่อมาแต่งงานด้วย ใช้ชีวิตเรียบง่ายที่ชนบท...
เอลิซ่าหัวเราะเบาๆเพราะว่ายามนี้เธออายุสิบขวบ คงจะต้องรออีกสักสี่ห้าปีถึงจะสามารถหาคนที่รักได้ เพราะตอนนี้มันถือว่าเร็วไปมากทีเดียว
"เรื่องการเรียน บางที่อาจจะต้องส่งลูกไปเรียนที่อคาเด็มมี่ ต้องเหนื่อยหน่อยนะเอลิซ่าเพราะว่ามีเรื่องอีกมากมายให้ลูกได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นท่านหญิงคามิล แต่สิ่งแรกที่ลูกจะต้องพึงระลึกเอาไว้นั่นคือคามิลจะไม่ก้มหัวให้ใครทั้งนั้นแม้ว่าผู้นั้นจะเป็นองค์จักรพรรดิ อย่าได้ก้มหน้าหรือว่าคุกเข่าลงเพื่อขอร้องใครอีก..."
นั่นมันใช่เรื่องที่จะมาสอนเด็กสิบขวบอย่างนั้นเรอะ!
"ค่ะ หนูจะจดจำเอาไว้"
แต่จะทำได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่อง
และชีวิตของเธอในคฤหาสน์คามิลก็ไม่สงบสุขอีกต่อไป เพราะวันๆเอลิซ่าจะต้องเรียนรู้เรื่องมารยาทพื้นฐานอย่างหนัก แถมยังต้องจดจำรายชื่อของคนสำคัญๆในจักรวรรดิแห่งนี้ ต้องไปตัดชุดเพื่อเตรียมออกงาน ต้องเรียนหนังสือขั้นพื้นฐานเพื่อเตรียมเข้าอคาเด็มมี่
และต้องเรียนรู้วิธีการชงชาและไปทักทายอัศวิน...
เธอล้มตัวนอนลงบนเตียงโดยที่มีเกวนถอดชุดออกให้
"เหนื่อยใช่ไหมคะ พอทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางคุณหนูก็จะเหนื่อยน้อยลง"
เกวนคือสาวใช้ที่ท่านพ่อเลือกมาให้ อ่า..ตอนนี้เธอเรียกท่านแกรนด์ดยุคว่าท่านพ่อได้อย่างเต็มปากเต็มคำแล้วสินะ สองเดือนแล้วที่มาอยู่ที่นี่ สิ่งที่โชคดีที่สุดนั่นก็คือท่านพ่อพาเคนดี้มาที่นี่ด้วย
เจ้าหมาป่ายักษ์ตัวสีขาวแสนน่ารักของเธอ มันคือเพื่อนตัวเดียวที่เธอเล่นด้วยในยามเหงา โชคดีจริงๆที่ท่านพ่อพามันมาด้วย..
"เกวน เคนดี้ไปไหนเหรอ?"
"เซอร์คาเมลพามันไปนอนด้วยเจ้าค่ะ เห็นว่าวันนี้คุณหนูจะกลับมาช้า ท่านเซอร์จึงรับอาสาพามันไปนอนด้วย"
อีกอย่างที่ไม่น่าเชื่อเลยนั่นคือเธอสามารถเข้าใจมารยาททุกอย่างที่ท่านอาจารย์สอนได้เป็นอย่างดี สามารถชงชาได้เพียงแค่การมองเพียงครั้งเดียว มันราวกับว่าเธอนั้นเคยทำมันมาแล้วเป็นร้อยเป็นพันครั้ง ตัวหนังสือพวกนั้นก็เช่นกัน...
ทั้งที่ไม่น่าอ่านออกแต่ทว่าเธอกลับเข้าใจในทุกตัวอักษร..สามารถตอบคำถามที่ท่านอาจารย์ถามได้และสามารถจดจำประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ไอรีนีโอได้อย่างแม่นยำ
เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับที่เธออ่านนิยายมาเลย เพราะว่าชาติที่แล้วเธอเป็นเพียง...
นึกไม่ออก...ชาติที่แล้วเธอเป็นใครกันนะ เป็นคนแบบไหนกัน?
จำไม่ได้เลย แต่เธอกลับจำเนื้อเรื่องในนิยายได้อย่างแม่นยำราวกับว่าเธอเห็นมันกับดวงตาคู่นี้
"นี่คือนมอุ่นๆค่ะ รีบทานก่อนที่จะเย็นนะคะ พรุ่งนี้ต้องไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์เพื่อเตรียมตัว เรื่องนี้คุณหนูไม่ลืมใช่ไหมเจ้าคะ?"
เสียงของเกวนนั้นดึงสติของเธอกลับมา เอลิซ่าหยิบแก้วนมที่เกวนส่งให้มาดื่มก่อนที่นางจะล้มตัวนอนลงและเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วเพราะความเหนื่อยล้า