ตอนที่ 5 เมียผมมันงอน
“อะไรกันครับสองคนนี้ เฮียชักอยากจะรู้ด้วยคนแล้วสิ” เจตน์ว่าพลางมองหน้าทั้งคู่สลับไปมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นซะเต็มประดา
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมว่าเรารีบทานข้าวกันดีกว่านะ” เจ้าตัวรีบตัดบทก่อนที่จะสืบสาวราวเรื่องกันไปมากกว่านี้
ในระหว่างทานข้าวลูกพลับก็แอบเหล่ตามองแทนไทอยู่บ่อย ๆ จนพบว่าเขาได้เรียกผู้จัดการร้านมาคุยด้วย จากนั้นไม่นานผู้จัดการก็เปิดอะไรบางอย่างในแท็ปเล็ตให้ดู ไม่นานแทนไทก็กวาดสายตามองไปรอบร้านจนมาหยุดที่ลูกพลับจนได้
เอาแล้วไง! เจอแบบนี้มีทางเดียวที่จะเอาชีวิตรอดได้นั่นคือต้องเผ่น!
“เอ่อ...ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ พอดีว่ามีธุระด่วนมากกก” กล่าวกับชายสูงวัยกว่าทั้งสองแล้วหันไปเอ่ยกับเพื่อน “ฉันไปก่อนนะแก”
“เฮ้ย! จะรีบไปไหนวะพลับ”
ฮ่องเต้ตะโกนตามหลังไปทว่าไม่ทันเสียแล้วเพราะเพื่อนรักเร่งฝีเท้าจนพ้นประตูร้านออกไปเรียบร้อยแล้ว แม้จะเกิดความสงสัยแต่ก็ไม่คิดจะตามไป เพราะรู้ว่าเพื่อนคงต้องมีเหตุจำเป็นแน่นอน
“น้องพลับเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย” เจตน์เอ่ยแต่สายตายังคงจับจ้องมองตามหลังไป รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้นั่งคุยกันนาน ๆ อย่างที่คิด
“มันไม่เป็นไรหรอกครับเฮีย นิสัยมันก็อย่างนี้ล่ะอยากจะไปก็ไปอยากจะมาก็มา เรามาทานข้าวกันต่อดีกว่าครับ”
“แต่เฮียเป็นห่วงที่นา”
“งั้นเอาไว้เฮียค่อยโทร.ถามข่าวมันก็ได้ มีเบอร์แล้วไม่ใช่เหรอครับ”
ได้ยินอย่างนั้นเจตน์ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตัวเองมีเบอร์เด็กคนนั้นแล้ว ค่อยโทร.ถามอีกทีก็ไม่เห็นจะเป็นไร
เมื่อออกจากร้านมาแล้วลูกพลับก็ขึ้นรถเมล์เพื่อเดินทางกลับบ้าน ต้องไปถึงก่อนแล้วเก็บตัวอยู่ในห้อง ให้ป้าปิ่นช่วยโกหกว่าตนยังไม่กลับเข้าบ้าน อย่างน้อยก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับแทนไทไปได้สักระยะ
ทว่าวันนี้โชคกลับไม่เข้าข้างเขาเสียเลย เพราะรถดันติดซะแถวยาวเหยียด นั่นคงทำให้กลับถึงบ้านช้า จึงเปลี่ยนแผนโทร.หาพี่สาวสุดที่รักเพื่อจะขอไปค้างคืนด้วย
“ฮัลโหลครับพี่ดาว”
(ว่าไงพลับ แกมีอะไรหรือเปล่าโทร.มาช่วงนี้)
“คืนนี้ผมขอไปนอนค้างกับพี่ได้ไหมครับ”
(ทำไมล่ะ เกิดอะไรขึ้นกับแกหรือเปล่า เสียงไม่ค่อยดีเลย)
“คือ...ผมคิดถึงพี่ดาวน่ะครับเลยอยากไปค้างด้วย รอบที่แล้วก็ไม่ยอมกลับบ้านนี่นา”
(นึกว่าอะไร ได้สิตอนนี้พี่อยู่โรงพยาบาลมาเอากุญแจที่นี่ ถึงแล้วโทร.บอกด้วยนะพี่จะเอากุญแจลงไปให้)
“ครับพี่ดาว งั้นแค่นี้นะ”
(จ้า)
เมื่อจัดการปัญหาของตัวเองได้แล้วก็ถอนหายใจอย่างรู้สึกโล่ง อย่างน้อยคืนนี้ก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับนายนั่นแล้ว
“แล้วทำไมเราต้องกลัวขนาดนั้นด้วยนะ ในเมื่อเราแค่เอาคืน ไม่ได้เป็นฝ่ายหาเรื่องก่อนสักหน่อย” เจ้าตัวเอ่ยกับตัวเองแล้วโทร.บอกป้าปิ่นเพื่อไม่ให้ท่านต้องเป็นห่วง
เกือบครึ่งชั่วที่นั่งรถเมล์ตอนนี้ลูกพลับได้มาถึงหน้าโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เขายกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดโทร.หาพี่สาว ทว่ากลับถูกมือใครบางคนแย่งมันไปต่อหน้าต่อตา พอเงยขึ้นมาก็ต้องเบิกตาด้วยความตกใจ
“คุณแทนไท! มาได้ไงเนี่ย”
“ก็ตามมึงมายังไงล่ะ คิดเหรอว่าจะหนีกูพ้น มึงแน่มากที่เอาน้ำในชักโครกมาสาดใส่หัวกู” แววตาวาวโรจน์บ่งบอกว่ากำลังโกรธแค้นมากเพียงใด ทว่าลูกพลับไม่ได้หวั่นกลัวเลยสักนิดเพราะตอนนี้ไม่ได้มีแค่เพียงเขาอยู่ตรงนี้ ยังมีอีกหลายชีวิตที่ยืนรอรถอยู่ และกำลังหันมามองอย่างสนใจ
“ผมแค่เอาคืน ถือว่าเราเจ๊ากันแล้ว เอามือถือผมคืนมาไม่งั้นผมจะร้องให้คนช่วยแน่”
“มึงคิดว่าใครจะมาสนใจงั้นเหรอ เอาเลย เอาสิ” แทนไทแสยะยิ้มยืนท้าทายอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย! ผู้ชายคนนี้ขโมยมือถือผมไป”
“โทษทีครับ พอดีว่าเมียผมมันงอน มาตามง้อก็ไม่ยอมคืนดี ไม่มีอะไรครับ”
ว่าแล้วแทนไทก็คว้าข้อมือน้อย ๆ ให้เดินตามมาที่รถซึ่งจอดรออยู่ ลูกพลับพยายามบิดข้อมือตัวเองเพื่อเรียกร้องหาอิสรภาพแต่มิอาจสู้แรงอันมหาศาลของเขาได้เลย