บทที่ 12 ใช้คำพูดหยั่งเชิง
กู้หนานเฉิงกำลังจะพยักหน้า อวี่เหวินเจี๋ยก็พูดว่า: "ข้าเป็นคนใจร้อนหน่อย จะช่วยเป็นลูกมือให้คุณหนูรองอยู่ที่ทางเข้าลานเอง คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?"
กู้ชิวเซียงตกตะลึงยิ่งนัก จึงรีบเอ่ยว่า:"น้องรองยังไม่ออกเรือน แถมฐานะของท่านอ๋องก็สูงศักดิ์ จะไปเป็นลูกมือให้น้องรองได้อย่างไรกัน?เช่นนี้จะได้อย่างไร? "
อวี่เหวินเจี๋ยพูดอย่างไม่สนใจเลยว่า:"ไม่เป็นไร เพียงแค่ช่วยถือของเท่านั้น ข้าจะยืนอยู่ที่ทางเข้าลานไม่เข้าไปแน่"
กู้ชิวเหลิ่งสงสัยไปกว่าเดิม หากความสัมพันธ์ของอวี่เหวินเจี๋ยและกู้ชิวเหลิ่งนี้ดีมากจริงๆ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าการทำเช่นนี้คือการหาเรื่องใส่ตัวนาง?
กู้ชิวเซียงเป็นคนขี้หึงเหมือนฮูหยินใหญ่ เพื่อท่านอ๋องรองแล้ว กู้ชิวเซียงจะต้องพยายามหาวิธีที่ทำให้ชื่อเสียงของนางเสื่อมเสียให้ได้
สายตาของกู้หนานเฉิงกวาดไประหว่างกู้ชิวเหลิ่งและอวี่เหวินเจี๋ย เขาหลงลืมลูกสาวคนนี้ไปสิบปีแล้ว ในความทรงจำของเขา กู้ชิวเหลิ่งเป็นลูกสาวที่ขี้ขลาด ธรรมดาไม่มีที่โดดเด่น หน้าตาไม่สวยแถมไร้ความสามารถของผู้หญิงคนนั้นสักนิดเลย
เขาไม่ใช่ไม่รู้การกระทำลับหลังที่ฮูหยินใหญ่นั้นแอบทำเอาไว้ เพียงแค่เขาไม่อยากสนเท่านั้น แต่หลังจากกลับจากการสำรวจที่เจียงซีในครานี้ ลูกสาวคนที่สองนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนไปมากนัก แม้ว่าจะดูขี้ขลาดเหมือนเดิม แต่สามารถเอ่ยปากพูดได้ก็ทำให้เขาตกตะลึงไปมากแล้ว และสิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงมากที่สุดก็คือรูปลักษณ์ของกู้ชิวเหลิ่งนั้นคล้ายกับผู้หญิงคนนั้นอย่างมาก
ทันทีที่เขาเข้ามาในเมืองหลวงในวันนี้ ก็ได้ยินข่าวลือมากมายเกี่ยวกับท่านอ๋องหกอวี่เหวินเจี๋ยเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกับกู้ชิวเหลิ่งจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ หากอวี่เหวินเจี๋ยไม่ชอบกู้ชิวเหลิ่งจนถึงขั้นถอนหมั้น และถ้าหากอวี่เหวินเจี๋ยชอบกู้ชิวเซียง งั้นการจับคู่ให้กู้ชิวเซียงและอวี่เหวินเจี๋ยนั้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายอะไรนัก
เมื่อนึกถึงเช่นนี้ กู้หนานเฉิงก็ได้เอ่ยปากพูดขึ้นว่า:"ข้าได้ยินมาว่าท่านอ๋องรองมีการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการประดิษฐ์ตัวอักษรและภาพวาด พอวันนี้เห็นแล้วคิดไม่ถึงว่าจะยิ่งกว่าในข่าวลืออีก แต่ให้ท่านอ๋องมาเป็นลูกมือเช่นนี้แล้วก็ช่างล่วงเกินไปยิ่งนัก......ฮูหยิน เจ้าแบ่งลานอะไรให้เหลิ่งเอ๋อร์? "
ฮูหยินใหญ่เข้าใจความคิดของกู้หนานเฉิงไม่ได้ในชั่วขณะนั้น ดังนั้นจึงตอบตามความจริงว่า: "สวนยีชุ่ย"
กู้หนานเฉิงปรบมือแล้วพูดว่า:"เช่นนี้ก็เชิญท่านอ๋องรองไปที่ห้องโถงดอกไม้ดีหรือไม่? ตรงนั้นอยู่ใกล้กับสวนยีชุ่ย บรรยากาศก็ดี ลูกสาวสองคนของกระหม่อมก็ค่อนข้างชอบการประดิษฐ์ตัวอักษรและการวาดภาพนัก หากได้รับการชี้แนะจากท่านอ๋องโดยตรง พวกนางคงต้องเต็มใจเป็นอย่างยิ่งแน่"
อวี่เหวินเจี๋ยเงยหน้าขึ้นมองกู้ชิวเหลิ่ง เห็นเพียงกู้ชิวเหลิ่งกำลังขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่มีความท่าทีที่จะพูดแทรกเลย ราวกับว่ากู้หนานเฉิงจะตัดสินใจยังไง นางก็รับได้
ในใจของฮูหยินใหญ่เริ่มรู้สึกกังวล นางกับกู้หนานเฉิงเป็นสามีภรรยากันมาหลายปีแล้ว นางจะไม่รู้ความคิดของกู้หนานเฉิงได้อย่างไร? วันนี้ให้อวี่เหวินเจี๋ยไปที่ห้องโถงดอกไม้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการจะดูว่าอวี่เหวินเจี๋ยคิดอย่างไรกับกู้ชิวเหลิ่งกันแน่
กู้ชิวเหลิ่งยิ้มอย่างเย็นชา กู้หนานเฉิงเป็นคนี่เจ้าเล่ห์มากจริง เขาอยู่ในราชสำนักมาหลายปี เรื่องการสังเกตสถานการณ์นั้นแหลมคมกว่าฮูหยินใหญ่อยู่แล้ว มองเพียงแวบเดียวก็สามารถมองบรรยากาศความสัมพันธ์ที่ไม่แน่ชัดระหว่างอวี่เหวินเจี๋ยและกู้ชิวเหลิ่งออกได้ คราวนี้ให้อวี่เหวินเจี๋ยไปที่ห้องโถงดอกไม้ เห็นได้ชัดเจนว่าเขาต้องการดูปฏิกิริยาที่อวี่เหวินเจี๋ยมีต่อนาง หากอวี่เหวินเจี๋ยไม่ชอบนาง ยังสามารถใช้กู้ชิวเซียงมาช่วยกอบกู้พลิกสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตามลูกสาวสองคนในตระกูลนี้ ต้องมีคนหนึ่งที่สามารถตีสนิทกับคนรวยและมีอำนาจเยี่ยงอวี่เหวินเจี๋ยได้แน่นอน
บรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย อวี่เหวินเจี๋ยไม่ได้แสดงความเห็นอะไร หากอวี่เหวินเจี๋ยไม่ไปก็ยังดี แต่ถ้าหากเขาเห็นด้วยกับข้อเสนอของกู้หนานเฉิง เช่นนั้นกู้ชิวเซียงและฮูหยินใหญ่ก็คงต้องอิจฉาและคิดเล่นงานนางอย่างแน่นอน
ในขณะที่อวี่เหวินเจี๋ยกำลังจะอ้าปากพูด สีหน้าของกู้ชิวเหลิ่งก็ซีดขาวลง รายละเอียดนี้ถูกกู้ชิวเยว่ที่อยู่ตรงข้ามเห็นเข้าพอดี
"เอ๊ะ! พี่รองเป็นอะไร? มีตรงไหนไม่สบายหรือเปล่า? "
เดิมทีหลายคนที่กำลังรอคำตอบของอวี่เหวินเจี๋ยอยู่ กลับถูกประโยคนี้ของกู้ชิวเยว่ดึงดูดความสนใจไป
กู้หนานเฉิงขมวดคิ้ว และกล่าวอย่างไม่พอใจมาก: "เหลิ่งเอ๋อร์ เจ้ามีตรงไหนไม่สบายรึ?"
กู้ชิวเหลิ่งรีบคุกเข่าลงบนพื้น ก้มหัวลงและพูดว่า:"ลูก......ลูกเพียงแค่อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับการเขียน จึงขอพู่กันและหมึกกับพี่ใหญ่ และไม่ทราบเลยว่าท่านอ๋องรองก็ชอบสิ่งนี้มากเช่นนี้ แต่ลูกเขียนหนังสือไม่เป็นจริงๆ! ดังนั้น......"
"ข้าก็เพียงแค่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้น คุณหนูรองไม่ต้องกลัว งั้นก็ให้คนรับใช้ส่วนตัวไปกับคุณหนูรองเถอะ"
พูดจบ อวี่เหวินเจี๋ยก็หยิบถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นอีกครั้ง จิบไปคำหนึ่ง และไม่หันมองกู้ชิวเหลิ่งอีกเลย
กู้ชิวเหลิ่งพูดว่า:"ถ้าเช่นนั้นลูกจะไปเอามาเดี๋ยวนี้"
กู้หนานเฉิงพยักหน้า มองดูแผ่นหลังของกู้ชิวเหลิ่งและครุ่นคิดอยู่ เขามองคนแม่นยํามาโดยตลอด เมื่อครู่อวี่เหวินเจี๋ยได้แสดงปฏิกิริยาที่สนใจกู้ชิวเหลิ่งจริง แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นไม่สนใจเท่าไหร่นัก ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก
ส่วนลูกสาวคนที่สองของเขา......กู้หนานเฉิงส่ายหัว แม้จะสามารถพูดได้ แต่ก็ยังขี้ขลาดเกินไป เพียงไม่กี่คำก็กลัวจนเป็นสภาพนี้ ซึ่งแตกต่างกับแม่ของนางมากเกินไป
เมื่อกู้ชิวเหลิ่งเดินออกจากห้องโถง ก็มีชายคนหนึ่งที่สวมชุดสีดำเรียบง่ายกอดดาบเล่มหนึ่งเอาไว้แล้วเดินตามหลังนาง
ชายคนนั้นมีใบหน้าที่อัปลักษณ์ ดวงตาคู่นั้นซึ่งยังถือว่าพอดูได้ ส่วนผิวหนังและเนื้อบนใบหน้านั้นถูกไฟเผาจนเสียไปหมดแล้ว เสียงของเขาแหบแห้งและไม่น่าฟังยิ่งนัก: "ท่านอ๋องสั่งให้ข้าน้อยไปเอาพู่กันและหมึกกับคุณหนูรอง"
ชาติก่อนกู้ชิวเหลิ่งอยู่ในสนามรบ คนอะไรก็เคยเห็นมาก่อนแล้ว จึงไม่ได้รู้สึกกลัวนัก เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย
หลังเดินไปครึ่งทางและแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่รอบๆนี้ กู้ชิวเหลิ่งจึงค่อยถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า:"เจ้าชื่ออะไร?"
"ข้าน้อยญาชิง"
แม้ว่าน้ำเสียงของชายคนนี้จะปกติ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกแปลกใจกับการที่กู้ชิวเหลิ่งถามคำถามยิ่งนัก
กู้ชิวเหลิ่งจำได้ว่าเสื้อผ้าที่อวี่เหวินเจี๋ยสวมใส่นั้นก็เป็นสีดำอมเขียวนี่นา แม้แต่องครักษ์คนสนิทยังเรียกว่าญาชิง หรือว่าเขาชอบสีดำอมเขียวมาก?
เมื่อกู้ชิวเหลิ่งก้มหน้าลงมาก็เห็นนิ้วมือของญาชิงกำลังขยับไปมาซ้ายขวาโดยจิตใต้สำนึก กู้ชิวเหลิ่งก็หยุดเดิน ในดวงตานั้นมีความเย็นชา: "เจ้ากำลังจดจำอะไร?"
ญาชิงตอบตามความจริงว่า:"ท่านอ๋องสั่งให้ข้าน้อยจดจำเส้นทางที่อยู่อาศัยใหม่ของคุณหนูรอง"
"เจ้าช่างซื่อสัตย์นัก"
ญาชิงกล่าวว่า:"ท่านอ๋องมีคำสั่งว่า คำสั่งของคุณหนูรองก็เหมือนคำสั่งของท่านอ๋อง ข้าน้อยไม่กล้าขัดขืน"
กู้ชิวเหลิ่งถามอีกว่า:"หากท่านอ๋องของเจ้าสั่งว่าห้ามให้ใครรู้ แต่ข้าต้องรู้ให้ได้ เจ้าจะตอบอย่างไร?"
ญาชิงตอบโดยไม่ลังเลว่า:"ท่านอ๋องบอกไว้ว่า คำสั่งทั้งหมดเอาของคุณหนูรองเป็นหลัก คุณหนูรองไม่ใช่คนอื่น"
กู้ชิวเหลิ่งหรี่ตาลงเล็กน้อย คำตอบของญาชิงก็ชัดเจนมากแล้ว นางไม่เพียงแต่รู้จักกับอวี่เหวินเจี๋ย แถมความสัมพันธ์ยังไม่ธรรมดาด้วย ท่านอ๋องที่มีอำนาจในราชสำนัก กลับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองเชื่อฟังคำสั่งของบุตรีอนุภรรยาตัวเล็กๆคนหนึ่ง หากบอกว่าระหว่างทั้งสองคนนั้นไม่เกี่ยวอะไร ไม่มีใครเชื่อแน่นอน
กู้ชิวเหลิ่งเผยรอยยิ้ม: "ในเมื่อทุกอย่างเอาข้าเป็นหลัก ถ้างั้นสิ่งที่ข้าพูดไปในเมื่อครู่นั้น ห้ามให้คนที่สองรู้เข้า เจ้าเข้าใจหรือไม่?"
"ข้าน้อยเข้าใจขอรับ"