บทที่ 2 ท่านอ๋องฉินกวง
ฟางหลินเฉินรู้ตัวอีกที เขาก็พบว่าตัวเขาถูกผูกมัดไว้กับบางสิ่งที่ทั้งเย็นและนุ่มมาก แต่เขาไม่เห็นสิ่งใดมัดเขาทั้งสิ้น และไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดออกไปได้
เขามองไปรอบๆ และพบกับบุรุษรูปงามผู้หนึ่ง ชายผู้นั้นคล้ายอายุมากแล้ว แต่กลับยังคงงดงามยิ่งกว่าสตรี ใส่ชุดโบราณรุ่ยร่ายสีดำมืดมิด ในมือถือพู่กันสีทองกำลังนั่งขีดเขียนบางอย่างในพื้นที่ว่างเปล่า และด้านข้างของบุรุษรูปงามนั้นยังมีกระจก หรือจะเรียกให้ถูกคือแอ่งน้ำที่ใสและนิ่งมากจนแทบไม่มีอะไรกระเพื่อม
“เอ่อ..คุณครับ” ฟางหลินเฉินเอ่ย
“อืม..มาแล้วหรือ” ชายรูปงามตอบโดยไม่มองหน้าเขา
“ช่วยแก้มัดได้ไหม ถ้าคุณ..อยากได้เงิน ผมพอมี..แต่ถ้าอยากได้ร่างกาย ..ผมให้ได้มากสุดแค่หอมแก้ม”
“...”
“ผมสาบานว่าจะไม่บอกใคร” ฟางหลินเฉินพยายามต่อรอง เขาคิดว่าตัวเองถูกแฟนคลับประหลาดที่ใส่ชุดคอสเพลย์จับตัวมาเรียกค่าไถ่ หรือไม่ก็หลงใหลเขาจนทนไม่ได้จึงทำเช่นนี้
“สาบานหรือ? ..เจ้าแน่ใจหรือว่าจะไม่พูด?” ในที่สุดบุรุษงดงามก็เงยหน้ามองเขา
“ผมไม่พูดแน่นอน” ฟางหลินเฉินรีบยืดยกรับคำ ทั้งที่ในใจคิดไว้ว่าถ้าหลุดออกไปได้จะต้องรีบแจ้งตำรวจให้มาจับคนโรคจิตนี่ให้เร็วที่สุด
“ดี..เช่นนั้นก็ดี ข้ากำลังกลุ้มใจว่าจะทำเช่นไรดี แต่ในเมื่อเจ้าบอกว่าสาบานจะไม่พูด เช่นนั้นก็แก้ปัญหาได้ง่าย”
“เอ่อ..คุณ..” ฟางหลินเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขารู้สึกว่าชายประหลาดตรงหน้าคงเสียสติหรือไม่ก็อาจป่วยจิต
“มีคนตั้งใจจุดไฟเพื่อฆ่าเจ้า เดิมทีคนเห็นแก่ตัวเช่นเจ้าควรรีบหนีออกจากกองเพลิง แต่วันนี้เจ้ากลับคิดโง่งม ช่วยชีวิตผู้อื่นจนตัวตาย ข้าจึงไม่รู้จะทำเช่นไร” บุรุษรูปงามชี้ไปยังแอ่งน้ำ
แอ่งน้ำที่เคยใสนิ่ง ยามนี้กลับปรากฏภาพคนมากมายกำลังไปงานศพของฟางหลินเฉิน เจ้าของงานศพได้แต่มองภาพในแอ่งน้ำแล้วรู้สึกทรมาน เขาค่อยๆ จำเรื่องราวก่อนเขาหมดสติได้
ที่แท้..เขาตายแล้ว..
“คุณ..คุณคือ..” ฟางหลินเฉินพูดไม่ออก เขาตายแล้วจริงๆ หรือเขาแค่ป่วยหนักและฝันไปเอง ถ้างั้นแล้วภาพในแอ่งน้ำคืออะไร นั่นมันงานศพของเขาแน่ๆ ยังมีแฟนๆ ที่ร้องไห้และวางดอกไม้มากมายนั่นอีก เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ หรือนี่จะเป็นเทคโนโลยีแบบใหม่ที่คนร้ายใช้หลอกลวงเขา
“ข้าคืออ๋องฉินกวง “ บุรุษรูปงามแนะนำตัวเอง
“..!” ฟางหลินเฉินเงียบ เขาขมวดคิ้วมุ่น พยายามคิดว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ คนประหลาดตรงหน้าเป็นใต้เท้าคุมนรกจริงเหรอ
“เหตุใดเจ้าไม่หนี เจ้าควรเห็นแก่ตัวและหนีจากกองเพลิงไม่ใช่หรือ เจ้าไม่กลัวตายหรือ” อ๋องฉินกวงถามอย่างสงสัย
“เอ่อ..ผม ผมแค่ไม่อยากเห็นคนสวยทุกคนที่ยอมสนุกกับผมต้องได้รับอันตราย” ฟางหลินเฉินเอ่ยออกไปตามจริง ทั้งที่เขาไม่ได้มีความรู้สึกอยากพูด ตอนนั้นเขาแค่ไม่อยากเห็นสาวๆ ได้รับบาดเจ็บหรือตาย เขาจำได้ว่าในหัวของเขามีแต่คิดว่าต้องช่วยทุกคนให้ได้
“เฮ้อ เพื่อสตรีที่เจ้าชื่นชม เจ้าถึงขั้นยอมตาย นี่ข้าต้องมาตัดสินให้คนสารเลวที่เห็นแก่เรื่องโลกีย์เช่นเจ้าเป็นบุรุษผู้มีคุณงามความดีมากหรือ ไร้สาระสิ้นดี! มีคนสิ้นคิดเช่นเจ้า งานของข้าจึงยากขึ้นอีก” ท่านอ๋องฉินกวงบ่น
“ไร้สาระเหรอ ผมไม่มีวันยอมให้เหล่านางฟ้าต้องบาดเจ็บ เรื่องนี้ไม่ไร้สาระ แค่พวกเธอปลอดภัย ผมตายก็ถือว่าคุ้ม ว่าแต่พวกเธอปลอดภัยใช่ไหม” ฟางหลินเฉินคล้ายจะยอมรับความตายของตนได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเพื่อสาวอวบที่เขาบูชา
“ใช่แล้ว ผู้อื่นปลอดภัย แต่เจ้ากลับโง่งมสูดควันไฟไปมากจนตาย เฮ้อ..” ท่านอ๋องกลอกตา ไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนโง่ขนาดนี้จริง
“...” เขาตายจริงๆ สินะ ความกลัวสายหนึ่งวิ่งผ่านใจเขา..
“เจ้าทำชั่วไว้มาก แต่คุณงามความดีที่ช่วยชีวิตมากมายในคราเดียวก็ไม่อาจตัดทิ้ง ส่งไปรับโทษในนรกไม่ได้ ยิ่งส่งไปสวรรค์ไม่ได้ ข้าจึงคิดว่าจะส่งเจ้ากลับไปยังโลกมนุษย์ เสพสุขให้หมดกรรมดีของเจ้า แล้วค่อยมารับโทษ
โดยปกติ หากจะลงไปจุติในโลกมนุษย์ เจ้าจำเป็นต้องได้ดื่มน้ำแกงยายเมิ่ง แต่เจ้ายังไม่ถึงคราวตาย ทั้งยังทำความดีไว้มาก ข้ากำลังกลุ้มใจทีเดียวว่าจะทำเช่นไรดี แต่ในเมื่อเจ้ายอมรับปากสาบานไม่พูด ข้าจะร่ายเวทสัตย์สาบานและส่งเจ้าไปในที่ที่สมควรอยู่”
“สัตย์สาบาน?..”
“บอกมา เจ้าอยากได้ชีวิตมีความสุขเช่นไร” อ๋องฉินกวงถาม
“ห๋า?..” ฟางหลินเฉินทำท่าไม่แน่ใจว่าในนรกเช่นนี้ เขาสามารถขอได้ตามต้องการจริงหรือ หรือเขาเพียงถูกคนประหลาดหลอกลวงอยู่เท่านั้น
“รีบพูดมา!” ท่านอ๋องเริ่มโมโห ในมือเขายกพู่กันทองคำออกมาเขียนบางสิ่งกลางอากาศเป็นคำว่า สัตย์สาบาน และคำนั้นก็ค่อยๆ ปรากฏในกระดาษซึ่งลอยอยู่กลางอากาศ
ฟางหลินเฉินตกตะลึง แม้เขาจะไม่อยากเชื่อ แต่บางอย่างในอกทำให้เขาทรมานจนต้องพูดความต้องการออกไป
“เอ่อ..ผมไม่อยากเป็นเด็กอีก แค่ไม่เจ็บไม่ป่วย ร่ำรวยโดยไม่ต้องทำงานหนัก หล่อและรูปร่างดี มีเวลาว่างทำสิ่งที่ชอบเยอะๆ มีสาวๆ หุ่นอวบอ้วนแบบที่ผมชอบรายล้อม และมีอิสระไม่ต้องคอยปกปิดตัวตน อ้อ..ผมอยากมีความรักจริงใจกับคนอื่นเขาสักครั้ง คนที่จะรักผม คลั่งผม บูชาผม และขอให้ผมได้..”
“พอ!! โลภมากเสียจริงเจ้ามนุษย์!!” ท่านอ๋องฉินกวงด่าก่อนที่ฟางหลินเฉินจะได้พูดความต้องการของเขาออกมาได้หมด
จากนั้นท่านอ๋องก็หยิบแผ่นกระดาษกลางอากาศยัดใส่ปากเขาและบังคับอย่างหยาบคายให้เขากลืนลงไป
“อื้อ!!..แค่กๆ สารเลว! จะฆ่ากันเหรอ!” ฟางหลินเฉินประท้วง แต่เขาก็กลืนแผ่นกระดาษลงไปแล้ว ไม่นานเกินสามวินาทีชายหนุ่มก็รู้สึกเวียนหัวจนแทบทรงตัวไม่อยู่ และหลับไปทันที
