บทที่ 3 สาวบ้านไร่
“ตากำนันขา อยู่หรือเปล่าคะพูลเอากล้วยบวชชีมาให้ค่า” เสียงใสดังมาจากใต้ถุนบ้านทั้งๆที่เห็นท่านแล้วเด็กสาวก็ยังเรียกเสียงดัง
“วันนี้ไม่ไปเรียนเหรอหนูใบพลู” ป้าคิดแม่บ้านของกำนันถามเด็กสาวที่เห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยจนโตเป็นสาวน้อยหน้าตาน่ารักหากแต่งเนื้อแต่งตัวหน่อยจะสวยมากทีเดียว
“หยุดหนึ่งอาทิตย์ค่ะป้าคิด นี่ค่ะกล้วยบวชชีค่ะ พลูขอไปหาตากำนันก่อนะคะ” ใบพลู หรือ อัยยา สาวน้อยน่ารักรูปร่างสูงโปร่งผิวสีน้ำผึ้งนัยตาสีน้ำตาลคมเข้มเอวบางสะโพกผายรับกันเหมาะเจาะหน้าอกหน้าใจสมวัยเด็กมหาลัยเพราะแม่ให้มาเยอะสูงร้อยหกสิบแปดเป็นหลานสาวของ สิงหา กรพัฒนะ เพื่อนของกำนันเทิด เจ้าของไร่ผลไม้แม่บุญมี ที่ทุกคนเรียกจนติดปากเพราะเมียของสิงหาชื่อบุญมี และไร่แม่บุญมีก็อยู่คนละฝั่งถนนกับฟาร์มโคนมทัพพ์พญา
อัยยาเป็นลูกสาวคนโตของ อาชัญ บุราพินันท์ อดีตนายอำเภอและตอนนี้ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคอีสาน อาชัญเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เด็กจึงทำให้เขาต้องมาอาศัยอยู่กับหลวงตาที่วัด ซึ่งเป็นตาของเขาจริงๆท่านบวชตั้งแต่ยายเสีย พอพ่อแม่ของเขาเสียตอนอาชัญอายุสิบขวบเขาก็มาอยู่กับหลวงตาที่วัดเพราะท่านเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ อาชัญเป็นเด็กขยันมีแต่คนรักและเขาก็เรียนเก่งสอบชิงทุนได้ตลอดพอโตขึ้นก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยจนจบปริญญาตรีก่อนจะสอบราชการได้เป็นนายอำเภอ หลวงตาก็เสีย และเขาก็ชอบพอกับสลิลรัตน์ลูกสาวของตาสิงหา เทียวจีบอยู่นานกว่าเธอตกลงใจแต่งงานด้วยและมีลูกด้วยกันสองคนคือ อัยยา บุราพินันท์ หรือ ใบพลูวัย20ปีกำลังเรียมหาลัยปีสองกับ อาชา บุราพินันท์ หรือ หมาก วัย17ปี อาชาไปอยู่กับพ่อแม่ที่จังหวัดนครพนมส่วนอัยยาอยู่กับตาแต่สองพี่น้องก็รักใคร่สนิทสนมกันดี
“ไหนล่ะกล้วยบวชชีของตา” กำนันตะโกนถามหลานสาวของเพื่อนที่ท่านรักเหมือนหลานเพราะวิ่งเข้าออกบ้านท่านตั้งแต่เด็ก
“มาแล้วค่ะตากำนันขาสวัสดีค่ะ พอดีพลูให้ป้าคิดเอากล้วยบวชชีไปใส่ชามมาให้ตากำนันค่ะ” เสียงหวานใสพูดเจื้อยแจ้วนั่งคุกเข่าตรงหน้าท่านยกมือไหว้ยิ้มหวานให้ ทำให้คนแก่ชื่นใจที่หลานสาวของเพื่อนยังคิดถึงทำขนมมาให้กินบ่อยๆทั้งที่ในบ้านท่านสั่งคำเดียวก็ได้กินแล้วแต่ไม่เหมือนหลานสาวคนสวยทำมาให้ส่วนหลานสาวหลานชายของท่านไปเรียนที่กรุงเทพกันทั้งสองคนจึงทำให้คนแก่เหงายังดีที่อัยยากลับมาบ้านทีไรก็มาหาท่านทุกครั้งบางทีก็มาช่วยท่านตรวจบัญชีในฟาร์ม
“ใบพลูมาก็ดีแล้วลูก ตากำลังอยากได้คนช่วยงาน รู้สึกว่าพักนี้หูตาฝ้าฟางตรวจบัญชีผิดๆถูกๆ เจ้าทัพพ์กับยัยลักษ์ก็ไม่กลับบ้านตาก็เลยไม่มีผู้ช่วย”
“ได้เลยค่ะ บ่ายนี้พลูว่าง ตากำนันจะให้พลูทำอะไรก็บอกมาเลยค่ะ” อัยยาเต็มใจช่วยตากำนันเพราะเธอรักและนับถือท่านไม่ต่างจากตาของเธอและเคยมาช่วยงานท่านบ่อยตั้งแต่หลานชายตัวแสบของท่านไปเรียนที่กรุงเทพตั้งแต่มัธยมปลายหลังจากป้าตาแสนใจดีของเธอเสียชีวิตจึงทำให้ไม่ค่อยได้เจอกัน เวลาทวิภาคกลับบ้านเธอก็ไปเรียนเวลาปิดเทอมของเขาก็ไปเรียนซัมเมอร์ที่อังกฤษส่วนเธอกับลักษิกาก็เจอกันทุกปิดเทอมหรือบางทีก็เสาร์อาทิตย์
“งั้นไปคุยกันที่ห้องทำงานตากันลูก” กำนันเทิดบอกหลานสาวของเพื่อนที่ท่านรักเหมือนหลานตัวเองและไว้ใจพอๆกับหลานๆของท่าน เดือนนี้ท่านยังไม่ได้ตรวจบัญชีที่มานพผู้จัดการฟาร์มคนสนิทเอามาให้ดูเลยถึงแม้ท่านจะไว้ใจคนสนิททั้งสองแต่ก็ต้องตรวจดูความผิดพลาดเพราะมีรายรับรายจ่ายของฟาร์มที่ทางฝ่ายบัญชีส่งมาให้และท่านไม่ถนัดใช้คอมพิวเตอร์
เมื่อจัดแจงงานให้อัยยาแล้วท่านกำนันก็เข้าไปตรวจงานในฟาร์มตามปกติปล่อยให้สาวน้อยน่ารักทำงานในห้องทำงานของท่านคนเดียวอย่างเงียบๆ
“ตู้ดดๆๆ ตู้ดดๆๆ..”
อัยยาทำงานเพลินก็สะดุ้งเสียงไลน์ของตัวเองที่วางอยู่บนโต้ะทำงานตัวใหญ่ของตากำนันก็หยิบมากดรับสายเพราะเพื่อนรักโทรมา
“ว่ายังไงยัยลักษ์แกอยู่ไหนเนี่ย ทำไมไม่มาหาตากำนันบ้างล่ะ” อัยยาว่าเพื่อนทันทีที่รับสายมองหน้าเพื่อนที่ส่งยิ้มให้อย่างออดอ้อน
“เดี๋ยวๆ อะไรของแกยัยพลู ใส่มาเป็นชุดเลยไอ้เราอุตส่าห์คิดถึง” ลักษิกามองดูสถานที่เพื่อนั่งอยู่อย่างคุ้นเคย
“ก็แกไม่มางานของตากำนันกองเป็นภูเขาเลยอ่ะ” อัยยาหันกล้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ให้เพื่อนดู
“แกก็ช่วยทำให้ตาหน่อยสิพลู อีกหน่อยมันอาจจะเป็นของแก ถ้าแกแต่งงานกับพี่ชายลักษ์ คิกๆๆ.” ลักษิกาล้อเพื่อนเพราะรู้ว่าอัยยาแอบชอบพี่ชายแต่เรื่องนี้มีแค่เธอสองคนเท่านั้นที่รู้หลังจากที่พี่ชายของเธอไปเรียนที่กรุงเทพอัยยาก็ไม่ได้สนใจจะถามถึงอีกเลย
“เรื่องเก่าแล้วย่ะ พลูเลิกชอบพี่ชายแกไปตั้งนานแล้ว” ที่จริงเธอก็ชอบทัพพ์ตามประสาเด็กที่เห็นรูปหล่อกว่าใครเท่านั้นพอเขาไปเรียนกรุงเทพก็ห่างหายไปความรู้สึกมันก็เลือนลางไปด้วย
“จริงเหรอยะ” คนอยู่กรุงเทพทำหน้าล้อเพื่อน
“จริงสิ ว่าแต่แกเถอะเมื่อไหร่จะมากลางดงล่ะ”
“เทอมนี้ลักษ์เรียนหนักคงไม่ได้ไปหาตา แกช่วยงานตาหน่อยนะใบพลูนะ พี่ทัพพ์เขากำลังทำเรื่องไปเรียนต่อด้วยคงไม่ได้กลับไปช่วยตา ลักษ์ฝากดูตาด้วยนะใบพลู” ลักษิกาบอกเพื่อนหน้าละห้อยต้องโทษตากำนันที่มีลูกแค่สองคนและต้องโทษลูกของตาทั้งสองคนที่มีลูกกันคนเดียวทำให้ไม่มีใครช่วยงาน แม่ก็ต้องช่วยงานพ่อที่โรงโม่หินและบางทีก็ต้องกลับมาช่วยตา
“โอเคจ้ะ งั้นพลูทำงานก่อนนะเดี๋ยวจะไม่เสร็จ..” สาวน้อยบ้านไร่บอกเพื่อนที่ตอนนี้กลายเป็นสาวกรุงเทพไปแล้วแต่เธอชอบอากาศต่างจังหวัดมากกว่าทั้งที่เรียนเก่งและไม่อยากเลยหากจะสอบเข้าที่เดียวกับเพื่อนและเธอก็ทำงานให้เสร็ก่อนห้าโมงเย็นเพราะนัดลูกค้ามารับมะม่วงสุกต้องไปคัดให้
“โอเคจ้า ขอบใจแกมากนะเพื่อนรัก” สองสาวคุยกันเสร็จก็วางสายอัยยาก็ลงมือตรวจบัญชีอีกครั้ง ตั้งแต่ทวิภาคมาจัดระบบงานให้ตากำนันใหม่ทั้งหมดทำให้ทำงานง่ายขึ้นและสามารถเช็คได้ในคอมพิวเตอร์ที่ลิ้งค์จากเครื่องที่เธอกำลังใช้งานอยู่กับที่สำนักงานได้ทุกเครื่องและสามารถดึงข้อมูลมาดูได้แต่กำนันเทิดท่านไม่ถนัดฝ่ายบัญชีก็ปริ้นมาให้ท่านดูและคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ก็มีแค่สามคนคือทวิภาค ลักษิกา และอัยยาเท่านั้น อัยยาจมอยู่หน้าจอจนงานเสร็จก่อนตาจะปิดซบหน้าลงบนโต้ะทำงานของตากำนัน จนกระทั่งป้าคิดเอาขนมมาให้ยิ้มขำกับภาพที่เห็นจึงเดินออกไปจากห้องและปิดประตูไว้เหมือนเดิมปล่อยให้สาวน้อยนอนลับ
ทวิภาคขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปในฟาร์มและหยุดที่สำนักงานพร้อมกับดิษย์ แล้วสองหนุ่มก็ขับรถเอทีวีเข้าไปในฟาร์มโคนมที่คุ้นเคย
“มึงจะไปไหนวะไอ้ทัพพ์” ดิษย์ตะโกนถามเพื่อนเพราะไม่อยากให้มันของขึ้นอีก แค่กิติภพคนเดียวก็แย่แล้วไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
