บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 - คนเมา

เช้าวันเสาร์ร้อยรักไม่มีเรียน เธอจึงตื่นแต่เช้าเหมือนปกติที่ตื่นเป็นประจำมาช่วยงานแม่บ้านในบ้านทำความสะอาดแต่เช้า และก็ช่วยทำมื้อเช้าให้กับผู้มีพระคุณพร้อมกับลูกชายของท่าน เมื่อทำมื้อเช้าเสร็จเธอจึงกลับขึ้นไปบนห้อง เพราะเช้านี้เธอไม่พร้อมจะเจอหน้าของติณณ์ ด้วยภาพเมื่อคืนยังคงติดตรึงใจและความรู้สึก เขาเป็นจูบแรกของหล่อนด้วย เขาทำแบบนั้นทำไม ทั้งๆ ที่เขาเกลียดเธอ

ด้านปรางทิพย์ลงมาทานมื้อเช้าเห็นเด็กตักข้าวต้มปลามาให้ตัวเองจึงถามหาร้อยรักก็ได้ความว่าเช้านี้หญิงสาวไม่หิว นางก็ได้แต่พยักหน้ารับรู้แล้วมองไปยังทางหน้าห้องรับประทานอาหาร ที่ตอนนี้ลูกชายคนดีน้อยของนางเดินเข้ามา นางจึงสั่งให้เด็กตักข้าวต้มปลาให้ลูกชายตัวเองบ้าง

ติณณ์ไม่เห็นร้อยรักร่วมรับประทานอาหารด้วยจึงได้แต่กระตุกยิ้มมุมปากทานอาหารเช้าด้วยความอร่อยกว่าทุกวัน พร้อมกับชวนผู้เป็นแม่พูดคุยและชวนท่านไปเที่ยวพักผ่อน หรือว่าท่านอยากไปเที่ยวไหนกับเพื่อนๆ หรือเปล่าในช่วงนี้ เขาจะเป็นสปอนเซอร์ออกค่าใช้จ่ายให้แม่และเพื่อนๆ ของแม่เอง

“ทำไมลูกชายแม่ดูใจดีแปลกๆ” ปรางทิพย์เอ่ยถามลูกชายพร้อมกับตักข้าวต้มเข้าปาก

“ก็เห็นว่าช่วงนี้แม่ปรางอยู่บ้านเฉยๆ ผมกลัวแม่ปรางจะเบื่อเลยอยากให้แม่ได้เที่ยวครับ” เขาบอกเสียงเรียบและตักข้าวต้มเข้าปากเคี้ยวบ้าง

“อือ...ก็ดีนะ แม่อยากไปยุโรปช่วงนี้ อยากไปเยี่ยมน้าป้อมของลูกเหมือนกัน”

“งั้นก็ไปเลยครับแม่ปราง ผมจัดการให้เองเรื่องตั๋วเดินทาง ผมอยากให้แม่ปรางมีความสุขที่สุด อะไรที่เป็นความสุขและความต้องการของแม่ ผมยินดีจะหามาให้และทำเพื่อแม่ปรางครับ” เขาบอกแม่พร้อมกับหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม เมื่อตอนนี้ท้องของเขามันเริ่มแน่นแล้ว

“ทำตัวน่ารักแปลกๆ นะเนี่ยลูกคนนี้” นางยังคงสงสัยในความใส่ใจของลูกชายที่มีต่อตนเอง

“ก็ติณณ์รักแม่ปรางยังไงครับ สรุปจะไปเยี่ยมน้าป้อมนะครับ เดี๋ยวผมให้เลขาจัดการตั๋วให้ครับ”

“แม่อยากชวนหนูรักไปด้วย แต่หนูรักยังไม่ปิดเรียนเลย”

“เด็กนั่นอีกแล้ว แม่จะเอาเด็กนั่นไปทำไม เปลือง!” เขาพูดอย่างหงุดหงิด เพราะเขาจะจัดการกับเด็กนั่นแหละถึงอยากให้ผู้เป็นแม่ไปเที่ยวสักพัก เพราะเมื่อคืนเขาคิดทั้งคืนว่าจะทำยังไงกับร้อยรักดีและถ้ามีแม่ของเขาอยู่ในบ้าน เขาคงทำอะไรได้ไม่สะดวก ฉะนั้นเช้านี้จึงอยากให้แม่ไปเที่ยวพักผ่อนสักพักยังไงล่ะ

“ดูพูดเข้าลูกคนนี้ ปากร้าย”

“ก็จริงครับ เปลือง แค่ผมหาเงินมาให้ยัยนั่นใช้จ่ายทุกวันก็มากพอแล้ว อีกอย่าง...เธอเป็นแค่กาฝากนะแม่ปราง” เขาเริ่มหงุดหงิดเมื่อแม่ของเขามักใส่ใจเด็กในอุปการะ

“ลูกไม่สงสารน้องเหรอลูก หนูรักน่ะน่าสงสาร แล้วมาอยู่กับเรา ลูกก็ควรจะให้ความอบอุ่น ตาติณณ์น่ะเกลียดน้องมากเกินไปแล้ว สงสารน้องบ้างเถอะ”

“ผมจำเป็นต้องสงสารเด็กที่เข้ามาแย่งพื้นที่ความรักของผมด้วยเหรอครับ”

“แม่กับพ่อรักติณณ์กว่าใครทั้งนั้น ความรักของพ่อกับแม่ที่มีให้ติณณ์ มันต่างจากความรักที่แม่และพ่อมีให้หนูรักนะลูก ยังไงลูกก็เป็นที่หนึ่งเสมอ”

หึ...

“ที่หนึ่งเสมอ ไม่อยากพูดเรื่องเด็กกาฝากให้เสียอารมณ์ สรุปแม่ปรางจะไปหาน้าป้อมไหมครับ ถ้าไป ผมจะให้เลขาจัดการให้ แต่ถ้าจะรอเด็กนั่นก็ตามใจครับ ตอนนั้นผมอาจจะไม่ได้ใจดีเป็นสปอนเซอร์ออกเงินให้เหมือนครั้งนี้นะครับ”

“เงินแม่ก็มีเยอะ ไม่เห็นต้องแคร์เงินลูกเลยตาติณณ์ แม่เหนื่อยจะพูดกับลูกแล้ว แม่ขึ้นไปหาหนูรักดีกว่า” นางคว้าแก้วน้ำข้างๆ มือขึ้นมาดื่มด้วยความหงุดหงิดลูกชายตัวดี ไม่รู้ปากจะร้ายไปไหน และก็คิดอะไรไม่เข้าท่า คิดได้ยังไงว่าร้อยรักเข้ามาแบ่งความรักจากนางและพ่อของตนไปจากตนเอง โตแต่ตัวจริงๆ ลูกนาง

“ครับ ผมแตะต้องไม่ได้เลยยัยกาฝากของแม่ปราง ผมจะออกไปข้างนอกแล้ว”

“ไปเลย วันหยุดลูกก็ไม่เคยอยู่บ้านเหมือนคนอื่นเขาหรอก ไปหาแม่จูลี่ของลูกเลยไป”

“ครับ ก็ผมมันเป็นลูกไม่ดีของแม่นี่ครับ”

เฮ้อ!

ปรางทิพย์ได้แต่ถอนหายใจลุกขึ้นเดินจากโต๊ะอาหารไปโดยไม่สนใจลูกชาย คำพูดของติณณ์แต่ละคำช่างทำให้นางหงุดหงิดและอารมณ์เสียจริงๆ อารมณ์เสียแต่เช้าเลย ถึงแม้จะปากร้าย นิสัยไม่ดี แต่ติณณ์ก็ทำงานดีมาตลอด เพราะผลกำไรของโชว์รูมนั้นเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี และยังได้รับรางวัลนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอีกต่างหาก แถมกับผู้หญิงคนอื่น ลูกเขาทำตัวน่ารัก เทคแคร์ใส่ใจดีเสมอ แต่กับร้อยรักทั้งๆ ที่อยู่บ้านเดียวกัน ลูกชายกลับชังน้ำหน้า ชังชนิดที่ไม่อยากร่วมโต๊ะทานข้าวกันเลย เพราะเหตุผลนี้แหละ นางจึงไม่อยากทิ้งให้ร้อยรักอยู่บ้านกับลูกชายของตนเอง กลัวว่าร้อยรักจะโดนรังแก ยิ่งอ่อนแอและไม่สู้คนอยู่ด้วย

ติณณ์บอกแม่ว่าจะออกไปข้างนอกแต่แล้วก็ไม่ไป เขากลับขึ้นมานอนอ่านหนังสือเศรษฐกิจบนห้องนอนของตัวเองพร้อมกับอ่านรายงานการขายของพนักงานขายที่ส่งเข้ามาในเมล์ให้ตนเอง โดยไม่สนใจว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว และฝนก็ตกหนักด้วยข้างนอก เขาจึงหยุดทำงานแล้วนอนพักผ่อนให้สมกับเป็นวันหยุดพักผ่อนของตัวเอง พอเอนตัวนอนได้ไม่นานกำลังจะหลับก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“ประตูไม่ได้ล็อกเข้ามาสิ” น้ำเสียงทุ้มอนุญาตผู้รบกวนหน้าห้องพร้อมกับมองไปยังบานประตูที่ถูกผลักเปิดเข้ามา และก็เห็นร่างเล็กของร้อยรักเดินแทรกเข้ามาในห้องของตนเอง

“คือหนูมาเก็บผ้าไปให้...”

“ฝนตกยังคิดจะซักผ้าอีกเหรอ ซักตอนนี้ก็เหม็นอับสิ” หญิงสาวยังพูดไม่จบความ เขาก็โต้สวนตอบกลับพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นเดินก้าวลงจากเตียงนอนไปหาคนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องของตนเองที่เพิ่งปิดสนิท

“ที่บ้านมีซักแห้งค่ะ ไม่ต้องตาก” เธอบอกเขาแล้วเดินผ่านหน้าเขาเข้าไปในห้องเพื่อเก็บเสื้อผ้าของชายหนุ่ม หากว่าทุกคนว่าง เธอคงไม่ต้องขึ้นมาเก็บเสื้อผ้าที่ห้องเขาแทนหรอก เพราะเธอยังไม่อยากเจอเขา แต่ก็ต้องมาเพราะพี่ส้มขอร้องให้ขึ้นมาช่วย เนื่องจากพี่ส้มติดเก็บของอยู่ข้างล่างหนีฝนอยู่

ว้าย!

แล้วก็ต้องตกใจเมื่อถูกคว้าเอวเล็กไว้

“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว มาต่อเมื่อคืนให้เสร็จดีกว่าว่าไหม” เขาเคลื่อนโน้มหน้ามากระซิบข้างหูของคนตัวเตี้ยกว่าพร้อมกับรัดเอวเล็กกระชับเข้าหาตัวเอง

“ปล่อยหนูเถอะค่ะ” เธอขืนตัวเองในอ้อมแขนแข็งแรงพร้อมกับพยายามแกะมือใหญ่ที่รัดเอวตัวเองออก

หึหึ

“ปล่อย...ปล่อยแบบไหน ปล่อยบนเตียงดีไหม” พูดจบก็อุ้มร่างเล็กขึ้นทันที

ว้าย!

ด้วยความตกใจ เมื่อถูกอุ้มจึงตวัดเรียวแขนทั้งสองเกี่ยวลำคอหนาของอีกฝ่ายไว้ด้วยกลัวว่าตัวเองจะตกลงไป

ตุ้บ!

ร่างเล็กถูกเหวี่ยงโยนไปบนเตียงนุ่มอย่างรวดเร็วเมื่อก้าวเดินมาถึงเตียง ติณณ์มองร่างเล็กวันนี้ที่สวมใส่เพียงเสื้อยืดแขนสั้นตัวเก่าๆ และกางเกงขาสั้นอวดเรียวขาขาวเนียนให้เห็น เขาเพิ่งได้มองร่างเด็กเฉิ่มก็วันนี้เองว่ามันไม่ได้เฉิ่มอย่างการแต่งตัวของหล่อน แต่มันกลับเย้ายั่วน่าสัมผัสเมื่ออยู่ในชุดนี้ ยิ่งตอนนี้อยู่บนเตียงของเขาด้วย

ร้อยรักตั้งตัวได้ก็ถีบเท้าถอยหนีลงจากเตียงใหญ่ แต่ก็ถูกมือหนาคว้าดึงข้อเท้ากระตุกดึงรั้งกลับไป

ว้าย!

“คุณติณณ์อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ”

“ฝนตกแบบนี้ เราควรหาอะไรทำกันดีกว่าไหม...หึหึ”

เปรี้ยง!

เสียงฟ้าข้างนอกก็ร้องดังน่ากลัวจนเธอสะดุ้งกอดตัวเองแน่น

หึหึ

เขาขันในท่าทางของเด็กสาวตรงหน้า แล้วก็ลูบมือหนาหยาบกร้านของตัวเองไล้จากข้อเท้าเล็กที่จับขึ้นไปยังต้นขานวลเนียนพร้อมกับตัวเขาเคลื่อนไปคร่อมทับกักร่างน้อยไว้ใต้ร่าง แม้ว่าเธอจะดิ้นขัดขืนและพยายามผลักดันตัวเขาออกห่าง แต่แรงแค่นี้มีหรือจะสู้แรงผู้ชายอกสามศอกอย่างเขาได้

“คุณติณณ์อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ คุณเกลียดหนูไม่ใช่เหรอ” เธอพยายามดันร่างใหญ่โตเหนือร่างออกห่าง แต่ก็ยากเหลือเกิน

“เกลียดกับอยากเอา มันต่างกันนะเด็กน้อย เมื่อคืนเธอทำฉันแสบมากยัยเฉิ่ม”

กัดฟันเอ่ยเสียงลอดไรฟันออกมาด้วยความปวดร้าวกลางกายแข็งแรงที่หว่างขา เพียงแค่ขึ้นคร่อมทับได้กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของร้อยรัก เขาก็ปวดร้าวและอยากกระแทกกายเคลื่อนไหวเร่าร้อนในร่างเล็กคับแน่นของหล่อนแล้ว และยิ่งเธอฉ่ำเพราะเขา เขายิ่งเสียวร้อนในช่องท้อง

“อ่า...ให้ตายสิ ยัยเด็กบ้า ฉันต้องการเธอ” เขาบอกออกมาอย่างไม่ปิดบัง ตอนนี้เขารู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วสรรพางค์กาย อยากจ้วงลึกไหวโยกแอ่นกระแทกเข้าหาร่างน้อยใต้ร่างให้ครวญครางไม่ได้ศัพท์

“มะ...ไม่นะคะคุณติณณ์ หนูไม่ต้องการแบบนี้ ยะ...อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ อ่ะ...อื้อ...”

แล้วเสียงพูดก็ถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอระหงเมื่อปากหนาอุ่นร้อนของชายร่างใหญ่เหนือร่างประกบปิดบดขยี้ลงมาพร้อมกับเรียวลิ้นสากของเขาสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของเธอ หล่อนพยายามเบี่ยงลิ้นน้อยตัวเองหลบหนีปลายลิ้นของเขา แต่แล้วก็พ่ายแพ้เมื่อถูกต้อนจนมุมยอมให้เขาดูดดึงรั้งลิ้นตัวเองเล่น

“อ่า...อื้อ...”

เสียงครางดังลอดออกมาจากปากทั้งสองที่บดจูบกันอยู่ มือใหญ่ของติณณ์เคลื่อนไหวสัมผัสมายังไหล่มนแล้วเคลื่อนมายังเรียวแขนเล็กที่อ่อนระทวยของสาวเจ้า ก่อนจะเคลื่อนมาบีบเคล้นขยำสองเต้าที่แอ่นยกเร่าดิ้นรนขัดขืนตามเจ้าของร่าง แต่ยิ่งเธอบิดกายดิ้นหนีก็ยิ่งเป็นการปลุกเร้าอารมณ์ของเขา

“อ่า...หวานเหลือเกินยัยกาฝาก อ่า...ฉันมองข้ามเธอไปได้ยังไง อืม...” ผละออกมาไล้ปลายลิ้นเลียแก้มนวลอมชมพูของร้อยรักแล้วก็กัดเม้มด้วยความมันเขี้ยว

“อ่ะ...เจ็บ!”

“อ่า...แค่กัดเอง อ่า...” ครางพร่าเมื่อมือใหญ่ที่วางนาบบีบเคล้นทรวงที่อยู่ใต้เสื้อยืดตัวเก่านั้นช่างเต็มไม้เต็มมือจนติณณ์ไม่อยากอดทนอีกต่อไป เขาอยากสัมผัสเนื้ออวบหยุ่นนุ่มแน่นของเจ้าหล่อน

“ปล่อยหนูไปเถอะคุณติณณ์ อ่ะ...อื้อ...” หล่อนห้ามเสียงตัวเองไม่ได้ เมื่อมือใหญ่ของเขาบีบขยำทรวงทั้งสองข้างของเธอ หล่อนพยายามถีบเท้าดิ้นหนี แต่ยิ่งดิ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเพิ่มแรงบีบของมือหนาที่สองเต้ามากขึ้น

“อ่า...บรรยากาศมันได้ขนาดนี้ยังคิดว่าฉันจะปล่อยเธออีกเหรอยัยกาฝาก ถึงเวลาตอบแทนเงินที่ฉันหามาให้ใช้แล้ว เธอควรจะตอบแทนฉันนะ” เขาพูดเสียงนุ่มทุ้มลึกพร้อมกับเคลื่อนกายผละลุกขึ้นไปถลกดึงเสื้อยืดตัวเก่าๆ ของเจ้าหล่อนออกทางหัว เมื่อเสื้อถูกถลกดึงทิ้งแล้ว เขาก็มองสองเต้าที่เบียดอัดอยู่ในยกทรงสีชมพูหวานของหล่อนแล้วก็เผลอตวัดปลายลิ้นแตะริมฝีปากตัวเองอย่างไม่รู้ตัว

ภาพของคนที่นั่งคร่อมทับเธอมันทำให้เธอสั่นกลัว เธอไม่เคยรู้เลยว่าการได้เห็นอีกมุมนี้ของเขามันน่ากลัวแค่ไหน สายตาของเขามันน่ากลัว ติณณ์จ้องมองเธอราวกับโจรหื่นห้าร้อย ให้ตายเถอะ เขาด่าว่าเธอยังไม่กลัวเท่ากับตอนที่สายตาหื่นกระหายของเขาจ้องมองเธอตอนนี้เลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel