ตอนที่ 5 ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน
ในห้องทำงานของญาณวดี
ญาณวดีนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำ มองดูขวดแก้วสีแดงที่บรรจุยาเสน่ห์สีดำขลับ เธอรู้สึกโกรธแค้นและผิดหวัง
ยาเสน่ห์ที่เธอคิดว่าจะช่วยให้เธอเอาชนะใจของเอกวัฒน์ กลับกลายเป็นว่าไร้ผล เอกวัฒน์ไม่ได้หลงรักเธอ แต่เขากลับหลงรักชัญญา เลขาสาวของเขา
“ทำไมมันถึงไม่ได้ผล ฉันใช้ยาเสน่ห์ชั้นดี แต่ทำไมคุณเอกถึงไม่หลงรักฉัน” ญาณวดีกำขวดยาเสน่ห์แน่น
ญาณวดีนึกย้อนเหตุการณ์ในอดีต เธอเคยใช้ยาเสน่ห์กับผู้ชายมากมาย และทุกครั้งมันก็ได้ผล ผู้ชายทุกคนหลงรักเธอ หัวปักหัวปำ แต่ทำไมกับเอกวัฒน์ ยาเสน่ห์ถึงไม่ทำงาน
“ชัญญา เธอต้องชดใช้ ฉันจะไม่ยอมแพ้ ฉันจะต้องเอาชนะเธอให้ได้” ญาณวดีคำรามในลำคอเบาๆ
ญาณวดีลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบขวดแก้วอีกขวดหนึ่งขึ้นมา ขวดแก้วนี้บรรจุยาเสน่ห์สูตรใหม่ที่เธอเพิ่งได้รับจากหมอทำเสน่ห์ที่มีชื่อเสียงแถวภาคกลาง
“ยาสูตรนี้แรงมาก ไม่จำเป็นต้องหยดใส่ให้ไอ้หนุ่มนั่นกิน แต่เธอต้องเป็นคนกินเอง ว่าแต่เธอจะกล้ากินหรือเปล่า?”
คำพูดของหมอทำเสน่ห์ดังก้องในหัว
“ก็เอาสิ ลองดูกันสักตั้ง”
ญาณวดีเทยาเสน่ห์ลงในแก้วน้ำ และยกขึ้นจิบ รสชาติของยาเสน่ห์ช่างขมขื่น แต่เธอไม่สนใจ เธอคิดเพียงแค่ว่า ยาเสน่ห์นี้จะต้องช่วยเธอได้
เวลาพักเที่ยง
อาคิรากำลังนั่งทานข้าวกับณัฐรินีย์ภายในห้องอาหารของบริษัท อาคิราเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้ณัฐรีนีย์ฟังทั้งหมด
“ฮึ่ย!! ไอ้ชั่ว 2 คนนั่น เธอจำหน้ามันได้มั้ย ?” ณัฐรินีย์ฟังจบก็ทุบโต๊ะด้วยความโกรธ
“ฉันจะให้พี่ชายจับพวกมันเข้าคุกไม่ให้ออกมาอีกเลย”
“มันมืด ฉันจำหน้าไม่ได้อะ” อาคิราบ่นด้วยความเจ็บใจ
“ไม่ต้องห่วง ของแค่นี้ พี่ฉันซะอย่าง เดี๋ยวก็เจอ” ณัฐรินีย์กล่าวอย่างมั่นใจ
ผู้กองคุณาวุฒิ พี่ชายเพียงคนเดียวของณัฐรินีย์ เป็นผู้ชายที่หล่อ ฉลาด และอนาคตไกล เข้าทำงานในกรมตำรวจไม่กี่ปี ก็ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้กอง ผลงานที่เขาทำล้วนเป็นข่าวใหญ่โตในหน้าหนังสือพิมพ์ทุกครั้ง ที่สำคัญ เขาหลงรักอาคิราอยู่ หากเป็นเรื่องของอาคิรา ณัฐรินีย์เชื่อว่า เขาต้องโกรธแค้น และพยายามจับตัวคนร้ายให้ได้แน่นอน
“ลำบากพี่วุฒิเปล่าๆ น่ะ” อาคิราส่ายหน้าจนผมกระจาย
“เอาน่า เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“ว่าแต่...เล่าเรื่องหนุ่มคนที่ช่วยเธอเมื่อคืนให้ฟังก่อนซิ” ณัฐรินีย์หรี่ตามองอย่างเจ้าเล่ห์ เธอเซ้นส์ไวกับเรื่องพวกนี้ เธอมั่นใจว่า ถ้าอาคิราชื่นชมหนุ่มคนนั้นมาก แปลว่าเธอต้องชื่นชอบเขาในระดับหนึ่งแน่นอน
“เอ้อ...ก็..แบบ...จะว่ายังไงดีล่ะ” อาคิราเอานิ้วจิ้มไปมากลบเกลื่อนความอาย
“นั่นแน่ะ เธอชอบเขาล่ะสิ” ณัฐรินีย์ตะโกนออกมา
“ชู่ว์ เบาๆ หน่อยสิ” อาคิรายื่นมือไปปิดปากเพื่อนทันที
“เล่ามาเลย” ณัฐรินีย์มองหน้าเพื่อนแกมบังคับ
“คือ...”
เธอคือคนที่ฉันเฝ้ารอ
“อ๊ะ รับโทรศัพท์ก่อนนะ” เสียงโทรศัพท์มือถือของอาคิราดังขึ้นขัดจังหวะพอดี ทำให้ณัฐรินีย์อารมณ์เสีย
“เอ๊ะ เย็นนี้เหรอคะ? รู้จักค่ะ แล้วเจอกันค่ะ”
“ใครอะ?” ณัฐรินีย์ถาม พลางแกะห่อขนมที่อยู่ตรงหน้า
“คุณกฤตน่ะ” อาคิรายิ้มหน้าแดง
“อ้ออออ หนุ่มเมื่อคืน...” ณัฐรินีย์ลากเสียงยาว
“เย็นนี้เขานัดทานข้าวแถวชิดลมน่ะ”
“ไว้ใจได้หรอ? ฉันไปด้วยมั้ย?” ณัฐรินีย์ขมวดคิ้ว
“ไม่ต้องหรอก ไว้ใจได้” อาคิรารีบส่ายหน้าปฏิเสธสีหน้าเป็นสีชมพูเรื่อ
“ฮืมมม...แปลว่าเธอต้องรู้จักเขาอยู่แล้วใช่มั้ย?” ณัฐรินีย์เดาเรื่องได้ทันที เพราะไม่อย่างนั้นอาคิราต้องปฏิเสธไปแล้ว
“ก็..ไม่รู้สินะ ฉันไม่บอกหรอกย่ะ” อาคิราย่นหน้าใส่ ก่อนจะหัวเราะสีหน้าของเพื่อน
“หนอย ยัยคนนี้นี่” ณัฐรินีย์กัดฟันกรอดๆ
“ไปทำงานกันเถอะ” อาคิราหัวเราะร่วน ก่อนจะเดินนำขึ้นตึกไป
ค่ำคืนในห้องนอนของชัญญา
กานต์รวีกำลังนั่งอยู่บนเตียง มองดูชัญญาด้วยความกังวล ชัญญากำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เธอกำลังจะย้ายไปอยู่กับเอกวัฒน์ที่คอนโดใจกลางเมือง
“ญ่า เธอแน่ใจแล้วเหรอที่ทำแบบนี้?” กานต์รวีถอนหายใจ
“อื้อ แน่นอนสิ เขาต้องการแบบนั้นนี่”
“แต่..เขามีเมียแล้วนะ เธอไปอยู่กับเขาแบบนี้ เธอก็เป็นเมียน้อยน่ะสิ” กานต์รวีทักท้วง
“แล้วไง? ไม่แน่ในอนาคตฉันอาจจะกลายเป็นเมียหลวงก็ได้” ชัญญายักไหล่ไม่แคร์
“ญ่า เธอคิดบ้าอะไรอยู่ จะเอาชีวิตไปทิ้งเหรอ? เธอทั้งสวย ฉลาด เลี้ยงดูตัวเองได้ แทนที่จะไปแย่งผัวชาวบ้าน ทำไมไม่หาผู้ชายดีๆ ซักคนแล้วแต่งงาน มีครอบครัวที่ดีล่ะ” กานต์รวีลุกขึ้นตะโกนเสียงดัง เธอโกรธมาก ทั้งโกรธ ทั้งหึงหวง
“รวี” ชัญญาเรียกเพื่อนเสียงอ่อนหวาน
“เธอเป็นห่วงฉัน หรือว่า.....”
“หึงฉันกันแน่” ชัญญากระซิบข้างหู ก่อนจะขบติ่งหูของกานต์รวีเบาๆ
“ญ่า !” กานต์รวีผงะออกอย่างรวดเร็ว หน้าแดง
“ฮะๆ ตกใจอะไร เมื่อก่อนเราก็สนุกด้วยกันอยู่นี่นา”
ชัญญาขำสีหน้าของเพื่อน เธอนั่งลงบนเตียงแล้วม้วนปลายผมเล่น จ้องมองกานต์รวีด้วยสายตาเย้ายวน
กานต์รวีจ้องหน้าชัญญาด้วยใจระทึก หัวใจเธอเต้นแรง
ใช่ เมื่อก่อนเธอและชัญญาเคยสนุกด้วยกันเสมอ อาจจะเป็นเพราะว่ายังเด็ก และมีความอยากรู้อยากเห็น พวกเธอสองคนจึงได้ทำเรื่องที่เกินเลยกว่าผู้ใหญ่จะเข้าใจได้
“ทำไม? อยากย้อนความหลังมั้ย?” ชัญญาเลียริมฝีปากและมองกานต์รวีอย่างมีความหมาย
“ญ่า...”
“มานี่สิ” ชัญญายื่นมือออกไปตรงหน้า ดวงตาสวยหวานจ้องมองกานต์รวี
“......”
“คืนนี้ฉันจะทำให้เธอลืมไม่ลงเลย รวี” ชัญญาดึงร่างกานต์รวีมากอด และกระซิบข้างหู กานต์รวีใจเต้นระรัว
ค่ำคืนสุดโรแมนติก
กฤตินนัดพบกับอาคิราที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งแถวย่านชิดลม เขาแต่งตัวเรียบง่าย แต่ดูเท่ และสง่างาม เสื้อเชิ้ตสีดำเข้ารูปกับกางเกงสแลคทรงเท่ เขากำลังยืนรออาคิราที่หน้าร้านอาหาร
กฤตินยิ้มออกมา เมื่อเห็นร่างของหญิงสาวในชุดเดรสสีขาวที่สวยน่ารักกำลังเดินตรงมาหาเขา
“ขอโทษนะคะที่ฉันมาช้า” อาคิราหอบเล็กน้อย ใบหน้าเป็นสีชมพูเรื่อ
“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็เพิ่งมาถึง” กฤตินยิ้มอ่อนโยน
“เข้าไปข้างในกันเถอะ” กฤตินแตะแผ่นหลังของอาคิราและเดินนำเข้าไปด้านในร้านอาหาร
อาหารค่ำมื้อนี้เป็นแบบโอมากาเสะ และเชฟเทเบิล พวกเขานั่งลงเคียงข้างกันที่หน้าเค้าเตอร์ เชฟที่อยู่ด้านหน้ากำลังจัดเตรียมอาหารให้กับพวกเขา
“โอ้โห ฉันเพิ่งเคยมาทานอาหารแบบนี้เป็นครั้งแรกเลยค่ะ” อาคิราประทับใจกับร้านอาหารมาก
“ดีใจที่คุณชอบครับ” กฤตินยิ้มให้อย่างอบอุ่น
“คุณคงมาทานบ่อยสินะคะ” อาคิราแอบใจเสีย
“ไม่หรอกครับ ผมเป็นพวกไม่ค่อยมีสังคมน่ะ”
กฤตินหัวเราะก่อนจะหยิบกาสไตล์ญี่ปุ่นที่อยู่ด้านข้างยกเทชาเขียวใส่ถ้วย และส่งให้อาคิรา
“ห๊ะ ไม่จริงมั้งคะ” ดวงตาสวยของอาคิราเบิกกว้าง
“จริงๆ” กฤตินอมยิ้ม
“คุณดู....ไม่เหมือนพวกไม่เข้าสังคมเลยค่ะ”
“ผมดูเป็นคนยังไงเหรอ?” ดวงตาคมเข้มของหนุ่มมาดหล่อจ้องมองอาคิราอย่างกรุ้มกริ่ม
“เอ่อ...ก็ดู..เป็นผู้ชายประเภทที่ผู้หญิงคลั่งรักน่ะค่ะ” อาคิราตอบแบบเกรงใจ
“หืม ?แล้วมันแปลว่าอะไรน่ะ?”
“ก็...เป็นผู้ชายที่ผู้หญิงตกหลุมรักง่ายน่ะค่ะ”
“เพราะอะไรล่ะ?”
“ก็คุณทั้งหล่อ เท่ บุคลิกก็ดี ไม่มีทางที่จะเป็นพวกไม่มีสังคมหรอกค่ะ” อาคิรายืนยันหนักแน่น
“ฮึฮึ” กฤตินหัวเราะด้วยความเอ็นดู
“แปลว่า..คุณก็ตกหลุมรักผมแล้วสินะ” กฤตินยื่นหน้าไปกระซิบข้างหูอาคิรา ลมหายใจร้อนรดที่ใบหู
“เอ้อ..เอ่อ...คือ..”
(ใกล้ไปแล้วค่า ใจเต้นจะหลุดออกมาแล้ว)
“ระวัง”
อาคิราผงะออกห่างอย่างรวดเร็ว ทำให้เธอเกือบตกเก้าอี้ โชคดีที่กฤตินคว้าเอวของเธอเอาไว้ทัน
“ขอบคุณที่ช่วยค่ะ” อาคิราก้มหน้างุด ใบหน้าแดงก่ำ
“อ๊ะ อาหารมาแล้ว”
อาคิรารีบเปลี่ยนเรื่องทันที เธอรู้สึกเขินอายต่อสายตากรุ้มกริ่มของกฤติน ชายหนุ่มได้แต่อมยิ้ม
ในขณะเดียวกัน
ในห้องนอนอันหรูหรา แสงไฟสลัว บรรยากาศอบอวลไปด้วยความโรแมนติก ชัญญานอนอยู่บนเตียง เธอสวมชุดนอนสีแดงสด เผยให้เห็นผิวขาวเนียน ใบหน้าของเธอสวยหวาน ดึงดูดสายตา
กานต์รวี นั่งอยู่ข้างเตียง มองเธอด้วยความหลงใหล เธอสวมชุดนอนสีดำ เรียบหรู แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์
ชัญญายิ้มให้กานต์รวี ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความปรารถนา กานต์รวีลุกขึ้นยืนเดินไปหาเธอ โน้มตัวลงมาจูบเธออย่างดูดดื่ม เร่าร้อน
ริมฝีปากของพวกเธอสัมผัสกันอย่างนุ่มนวล เต็มไปด้วยความรู้สึก ชัญญาโอบกอดกานต์รวี ดึงเธอเข้ามาใกล้ ร่างกายของพวกเธอแนบชิดกัน ความร้อนระอุแผ่ซ่านไปทั่ว
กานต์รวีถอดชุดนอนของชัญญาออก เผยให้เห็นผิวขาวเนียน ไร้รอยตำหนิ เธอจูบไล่ไปตามร่างกายของชัญญา ปลุกเร้าความรู้สึกของเธอ ชัญญาครางเบาๆ ด้วยความสุข เธอรู้สึกตื่นเต้น และลุ่มหลง
กานต์รวีถอดชุดนอนของตัวเองออก ร่างกายของพวกเธอนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ ชัญญามองกานต์รวีด้วยความปรารถนา
กานต์รวีขึ้นคร่อมชัญญา เริ่มต้นบทรักอันเร่าร้อน เสียงครางระงมไปทั่วห้อง พวกเธอจมดิ่งไปกับความสุข ลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปชั่วขณะ
ภายในสวนสาธารณะ
หลังจากทานอาหารเสร็จ กฤตินก็พาอาคิราไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ สถานที่ที่พวกเขาพบกันครั้งแรก
บรรยากาศยามค่ำคืนสวยงาม อากาศเย็นสบาย ทั้งคู่เดินคุยกันไปเรื่อยๆ
“อากาศเย็นสบายดีนะ” กฤตินชวนคุย
“ค่ะ ทั้งๆ ที่ตอนกลางวันร้อนจะแย่”
“จริงสิ เมื่อวานนี้ทำไมคุณถึงมาช่วยฉันได้ล่ะคะ?” อาคิราเริ่มถามสิ่งที่เธอสงสัยในใจ
“บ้านผมอยู่ในซอยถัดบ้านคุณไปน่ะ” กฤตินยิ้ม
“เอ๊ะ?”
“เมื่อวานผมกำลังจะกลับบ้าน ได้ยินเสียงร้องให้ช่วย ก็เลย...”
“อ้อ...มิน่าล่ะ” อาคิราก้มหน้าพึมพำเบาๆ
“ทำไมเหรอ?” กฤตินยื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอ
“เอ่อ..ใกล้ไปแล้วค่า” อาคิราเขินอายรีบดันตัวเขาออกห่าง กฤตินกลับจับมืออาคิราเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“เอ่อ..”
“โชคดีที่คุณไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้น...” กฤตินมองอาคิราด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
“เอ้อ สงสัยฉันต้องไปเรียนเทควนโด้ไว้มั่งแล้วล่ะ” อาคิรากลบเกลื่อนและพยายามดึงมือออก
“อยากเรียนเหรอ? ผมสอนให้ได้นะ” กฤตินยิ้ม ก่อนจะจับมืออาคิราให้เดินต่อไปเรื่อยๆ
“คุณเป็นเทควนโด้เหรอ?” อาคิราตาโต
“อืม...จะว่าไงดีล่ะ ผมเป็นหลายอย่างเลยน่ะ”
“ห๊า อะไรมั่งอะ?”
“ก็มี มวยไทย ไอคิโด้ เทควนโด้ ศิลปะป้องกันตัวเกือบหมดทุกอย่างล่ะมั้ง”
“โอ้โห คุณเก่งเกินไปมั้ยเนี่ย” อาคิราทึ่ง
“ว่าไง ถ้าสนใจเรียน ผมสอนให้ได้นะ”
“ฟรีใช่มะ?” อาคิราย้อนถามทันที
“ไม่ฟรี”
“อ้าว??”
“ถึงบ้านคุณแล้ว” กฤตินยิ้มพร้อมกับปล่อยมืออาคิรา
“ค่าเรียนเท่าไหร่อะ?” อาคิรายังคงติดใจ
“อืม....ขอคิดดูก่อน” กฤตินหรี่ตามองอาคิราด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“ก็ได้ แต่อย่าแพงนะ” อาคิราบ่นอุบอิบ
“จริงสิ ค่าอาหารเท่าไหร่น่ะ” อาคิรานึกขึ้นได้จึงทวงถาม
“ฟรี”
“ไม่ได้นะ ฉันเป็นคนบอกจะเลี้ยงคุณ ต้องให้ฉันจ่ายนะ” อาคิราปฏิเสธขึงขัง เขาอุตส่าห์มาช่วยเธอจากอันตราย จะให้เขาจ่ายเงินเลี้ยงข้าวเธอได้อย่างไรกัน
“ถ้างั้น...”
กฤตินนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมองอาคิราด้วยสายตากรุ้มกริ่ม เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้อาคิรา
“.......”
กรี๊ดดด ไม่จริงใช่มั้ยยยย นี่เขาจะจูบฉันเหรอ
อาคิราใจเต้นแรง ใบหน้าสุดหล่อเคลื่อนเข้ามาใกล้ เธอยืนนิ่งไม่กล้าขยับ ก่อนจะหลับตาลงอัตโนมัติ
“ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีนะ”
กฤตินดึงตัวอาคิราเข้ามาจูบที่เปลือกตาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะปล่อยตัวเธอ แล้วเดินจากไป ทิ้งให้อาคิรายืนสตั๊นอยู่ตรงนั้น
“อ้าว เฮ้ย! ค่าข้าวล่ะ”
อาคิราเพิ่งนึกขึ้นได้หลังจากสตั๊นไปประมาณ 3 นาที