ดูเป็นเดือดเป็นร้อน
วันต่อมา
@ร้านเหล้า
"ทำไมนานั่งคนเดียว" นำทัพหย่อนก้นนั่งลงฝั่งตรงข้ามหญิงสาวที่เป็นคนโทรเรียกเขาให้ออกมา
"เบื่อ" พลางยกแก้วเหล้ากระดกลงคอ
"ไอ้ครูซไม่อยู่?"
"อืม" นัยน์ตาคมลอบมองหญิงสาวตรงหน้า มิเกลยกเหล้าดื่มพลางมองไปรอบ ๆ ร้าน
"ทะเลาะกันหรือไง" นำทัพเอนตัวพิงโซฟา เขาจะนอนอยู่แล้ว แต่มิเกลดันตามให้ออกมาเสียก่อน
"เกลไม่รู้ว่าทำไมครูซถึงเปลี่ยนไป" มิเกล ตัดพ้อถึงเหตุการณ์เมื่อวานตอนไปหาครูซที่บ้าน เธอตั้งใจไปหาเขา แต่อีกคนกลับเมินเฉยราวกับว่าเธอเป็นเพียงอากาศ ความน้อยใจเข้าเล่นงานจนเธอไม่อยากไปเหยียบบ้านหลังนั้นอีก
"เช่น?" ก็เห็นว่าครูซเหมือนเดิมทุกอย่าง ตรงไหนที่บอกว่าเพื่อนเขาเปลี่ยนไป
"ครูซเริ่มเมินเกล ไม่อยากอยู่ด้วยกันหรือไปไหนกันสองต่อสองเหมือนเมื่อก่อน" ไม่ใช่เธอหรอกเหรอที่เอาแต่เก็บตัวไม่ออกมาเจอเพื่อนฝูง เขาเข้าใจแบบนั้นนะ
"อืม.." นำทัพครุ่นคิด แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ครูซไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล ทุกอย่างที่เพื่อนเขาทำ เขามั่นใจว่าอีกคนไตร่ตรองมาดีแล้ว
"เกลควรทำยังไงดีทัพ" หญิงสาวสบตากับเพื่อนตัวสูงเพื่อขอความเห็น เธอควรทำยังไงให้ครูซกลับมาเป็นเหมือนเดิม ทว่าวูบหนึ่งที่นำทัพเห็นแววตาอีกคนแปลกไป มุมปากยกยิ้มก่อนจะเอ่ยขึ้น
"ลองคุยกับมันตรง ๆ ดูสิ" ยังไงซะทั้งสองก็เป็นเพื่อนของเขาทั้งคู่ เขาไม่อยากออกตัวแรงเกินไปว่าอยู่ข้างใคร ขอเป็นกลางดีสุด
"...." มิเกลก้มมองมือตัวเอง
"ถามมันดูว่าเป็นอะไร" ถ้าไม่คุยกันก็จะเป็นอยู่แบบนี้
"ครูซแทบไม่เปิดโอกาสให้เกลเลย"
"มันคงเครียด" ช่วงนี้ที่โกดังครูซเองก็มีปัญหา เพื่อนเขาคงเครียดกับงานด้วย ครูซเป็นคนที่เวลามีปัญหาอะไรมักไม่พูดหรือขอความช่วยเหลือจากใคร ทุกอย่างที่วิ่งเข้าหาเขาจัดการเองหมด แม้ว่ามันจะหนักหนาสาหัสแค่ไหนเขาก็เลือกไม่ร้องให้ใครช่วย นำทัพที่เป็นเพื่อนกับครูซมานาน เรื่องบางเรื่องยังไม่รู้เกี่ยวกับครูซเลย และเขาก็ไม่คิดเซ้าซี้ ถ้าเพื่อนอยากบอกคงบอกเองนั่นแหละ
"หรือครูซมีคนใหม่" เธอสงสัยแต่ไม่กล้าถามแฟนหนุ่มต่อหน้า
"ไม่รู้" เรื่องของคนสองคนปล่อยให้เขาจัดการกันเอง
"ทัพช่วยเรา.."
"ไปเคลียร์กันเอง" ไม่อยากยุ่ง ลำพังตัวเองก็จะตายห่าอยู่ละ
"ทำไมล่ะ เราไม่ใช่เพื่อนทัพเหรอ" แววตาใสซื่อแฝงความน้อยใจเอ่ยถามเพื่อนสนิท นำทัพเองก็ไม่ต่างจากครูซ ทำราวกับว่าเธอไม่ใช่เพื่อน
"อย่ามาใช้คำพูดนี้กับฉัน" น้ำเสียงนำทัพแข็งกร้าวจนมิเกลหน้าถอดสี สมกับเป็นเพื่อนครูซ สองคนนี้เหมือนกันตรงที่ไม่แคร์ใครทั้งนั้น เกลียดพวกพูดจาไม่รู้เรื่อง อย่างเช่นมิเกลตอนนี้ เธอกำลังออกนอกประเด็นเรื่องเธอกับครูซ แล้วมากดดันเขาแทน
"ขะ ขอโทษ"
"กลับละ" บรรยากาศมันเสียไปแล้ว ให้อยู่ต่อคงไม่สนุก
"ละ แล้วเราล่ะ" ปรายตามองหญิงสาวเล็กน้อย
"มายังไงก็กลับแบบนั้น" นี่แหละตัวตนเขา ความอ่อนโยนมีให้เฉพาะคนที่ควรได้รับมันเท่านั้น
"...." มิเกลสะอึกคำตอบเพื่อนตัวสูง ปกตินำทัพก็ไม่ค่อยสนใจเธออยู่แล้ว ใครจะคิดว่าอีกคนจะเย็นชาได้ถึงขนาดนี้ แววตาที่เหมือนจะอ่อนโยนมองตามเพื่อนไปสุดสายตา มือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาใครบางคน หลังจากอีกฝ่ายตอบกลับมาเธอจึงลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเดินออกจากร้านไปสีหน้านิ่งเรียบ
"อยู่ไหน"
(โกดัง)
"เดี๋ยวกูเข้าไป"
(อืม) นำทัพโทรหาครูซเมื่อพาตัวเองขึ้นมานั่งบนรถ ขณะที่กำลังจะออกรถ สายตาเขาไปปะทะเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่ง มิเกลกำลังขึ้นรถไปกับใครสักคนที่เขาไม่สามารถมองเห็นได้ นำทัพส่ายหัวเล็กน้อยหลังจากรถคันนั้นเคลื่อนตัวออกไป มือหนาเข้าเกียร์ก่อนจะขับตามไป เพื่อไปหาครูซที่โกดังทันที
@โกดัง
Part : ครูซ
ตึกตึก..
"...." ผมปรายตามองไอ้นำทัพขณะที่มันเดินล้วงกระเป๋ามานั่งโซฟาข้างผม มันมองไปที่ลูกน้องผมนิ่ง ๆ
"เอาไปไหนวะ" มันคงสงสัยว่าลูกน้องผมเคลื่อนย้ายสินค้าไปไหน
"ส่ง" ตอบมันสั้น ๆ ขี้เกียจพูด
"ไหนตอนแรกมึงบอกช่วงนี้หยุดส่ง" มันคงแปลกใจที่อยู่ ๆ ผมกลับคำมาส่งของเหมือนเดิมทั้งที่เพิ่งคุยกับมันไปวันก่อนว่าช่วงนี้ตำรวจกำลังจับตามอง ทำให้ผมขยับตัวทำอะไรได้ไม่มาก แต่ไอ้ไมเนอร์มันเสือกอาสาเข้ามาช่วย ซึ่งตอนแรกผมปฏิเสธมันไป เพราะไม่อยากให้เพื่อนมาเดือดร้อนด้วยเวลาเกิดเรื่อง แล้วคิดว่ามันจะฟังผมไหมล่ะ สุดท้ายก็ต้องยอมให้มันอยู่ดี เอาจริงมันมาช่วยก็ดีเหมือนกัน ถ้าผมไม่ได้ส่งแน่นอนว่าความเสียหายมหาศาล
"ไอ้ไมเนอร์ช่วย"
"ไอ้ขี้เก็กนั่นน่ะเหรอ" เหมือนมันไม่เก็กอย่างนั้นแหละ
"อืม" มันชอบเรียกไอ้ไมเนอร์ว่าขี้เก็ก ทั้งที่มันสองตัวก็พอ ๆ กัน
"เอาเรื่องว่ะ"
"แล้วมึงมีอะไร" มันต้องมีเรื่องแหละ ไม่งั้นคงไม่ลากสังขารมานั่งเสนอหน้าอยู่ตรงนี้
"มิเกลโทรให้กูไปหา" อ่า เหมือนเริ่มเข้าใจมากขึ้น
"...." รอฟังว่ามันจะพูดอะไรต่อ
"มาปรึกษากูเรื่องมึง"
"...." ผมยังคงเงียบ ไม่รู้ว่าต้องออกความเห็นอะไร
"มึงจะทำแบบนี้จริงดิ"
"...." ไม่ได้อยากเป็น รอแค่เวลาเท่านั้น
"กูไม่อยากให้ความเป็นเพื่อนต้องแตกหักเพราะเรื่องนี้นะ แต่กูก็เข้าใจมึง"
แอดด
"นาย คุณไซลอนมาครับ"
"อืม" มันมาทำไม
"ใครวะ" มันเคยเจอนะ แต่มันไม่จำ
"...." ขี้เกียจตอบ มันเคยจำอะไรได้บ้างนอกจากเรื่องเอา
"เด็กมึง?" เด็กบ้านป้ามึงสิชื่อแมนขนาดนี้ ยังไม่ทันที่ผมจะได้ด่ามันไป ไอ้ไซลอนผลักประตูเข้ามาเสียก่อนพร้อมกับเอ่ยประโยคที่ทำผมขมวดคิ้วทันที
"คืนนี้อย่าเพิ่งส่ง"
"ทำไม?"
"เชื่อกู"
"ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว" จะให้ผมมาล้มเลิกกลางคันได้ยังไง อีกไม่กี่ชั่วโมงผมต้องส่งแล้ว หากเลื่อนอีก ครั้งนี้ผมต้องเสียลูกค้ารายใหญ่อีกคนแน่นอน ถึงมันจะทำให้ขนหน้าแข้งผมไม่ร่วงก็ตาม แต่เราควรรักษาลูกค้าเอาไว้
"เรื่องนั้นกูเคลียร์ทางแล้ว" ลืมบอกว่ามันก็มีส่วนร่วมในครั้งนี้ แต่นาน ๆ มันจะสนใจทำกับผม ไม่รู้ว่าคึกอะไรถึงอยากทำ
"ให้เดาคงหนีไม่พ้นพวกสวะ" ทั้งผมและไอ้ไซลอนมองไปที่ไอ้นำทัพพร้อมกัน
"ประมาณนั้น"
"ไหน ๆ ก็ไม่ได้ไปแล้วมาแดกเหล้ากับกูหนิ"
"ดูมึงว่างนะ" ผมว่าให้มัน
"แน่นอน"
"กูกลับละ มาแค่นี้แหละ"
"วันหลังโทรมาก็ได้ไอ้เวร" มันจะมาให้เสียเวลาตัวเองทำไม โทรเข้ามาก็จบ
"ทางผ่าน" แล้วมันก็หมุนตัวออกจากห้องไปเลย
"เพื่อนมึงแต่ละคนดูเย็นชากันจังวะ"
"เลิกสนใจมันเถอะ"
"สรุปเอาไง"
"มันพูดขนาดนี้กูคงไปมั้ง"
"เออ อีกเรื่องที่กูยังไม่บอกมึง" จ้องหน้ามันไป
"กูเห็นน้องสาวเพื่อนมึง"
"ที่ไหน" ผมยิงคำถามกลับไปทันควัน แล้วมันไปเจอเธอได้ยังไง
"แล้วบอกไม่สนใจ" กวนตีนนะมึง
"อย่ากวนตีน"
"แถว ๆ โรงแรมมึง เห็นขึ้นรถไปกับผู้ชายคนหนึ่ง"
"เมื่อวาน?"
"อืม"
"...." ต้องเป็นวันนั้นแน่นอน จำตอนที่ผมออกไปสูบบุหรี่ตรงระเบียงแล้วบอกว่าเจอใครบางคนได้ไหม นั่นแหละ..ผมเจอฮันน่า พอไอ้นำทัพบอกว่าเจอเธอกับผู้ชาย ทำผมแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ นี่น่ะเหรอคนที่มาสารภาพรักกับผม น่าสมเพช
"ดูมึงเป็นเดือดเป็นร้อนนะ" พล่ามอะไรของมัน ผมก็ปกติ จะไปเดือดร้อนทำไม อยากไปไหนกับใครก็เรื่องของเธอสิ สนใจทำไม
"หุบปาก"
"หึ~ อย่าเหี้xเยอะ ถึงวันนั้นแล้วจะมาเสียใจทีหลัง"
"อย่ามาสอนกู"
"เตือนในฐานะคนระยำเหมือนกัน"
"จะแดกไหมเหล้า"
"พอเตือนก็เปลี่ยนเรื่อง ไอ้ฉิบหาย"
"ถ้าจะพล่ามก็ไสหัวกลับไป"
"เหี้xเหมือนกันไม่มีสิทธิ์ไล่ครับ"
"สัส" เบื่อจะเถียงกับมันเลยลุกไปเอาเหล้ามานั่งดื่มแก้เบื่อ พรุ่งนี้ต้องเข้าไปคุยงานกับไอ้วาฟิกซ์ที่บริษัทแต่เช้า หนีจากไอ้เวรนี่ก็ไปเจอมัน ทำไมชีวิตผมต้องมาเจอพวกมันด้วย น่ารำคาญ พวกผมนั่งดื่มกันไปกระทั่งตีสองกว่าจึงแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน
End : ครูซ
1 คอมเมนต์ = 1 กำลังใจ
Thanks for following me?❤️