บทที่ 1 ถูกทำโทษ
สิ้นเดือนสำหรับคนอื่น สถานะชั้นกลางอาจจะใช้คำว่าเหมือนจะสิ้นใจ แต่สถานะระดับผู้บริหารอย่างคุณคอป หนึ่งในหุ้นส่วนของตระกูลใหญ่จรัญทิพย์ วันนี้คือวันเครียดและยุ่งเหยิงที่สุดเท่าที่เขาเจอะเจอมา
“ แล้วยังไง มันไม่ยอมออกอย่างนั้นหรือ...”
ร่างใหญ่ยืนเท้าสะเอวตระหง่านอยู่หน้าบานกระจกซึ่งกั้นตรงกลางระหว่างภายในห้องกับระเบียงนอกสายตาทอดยาวไปไกลลิบ ในสมองคิดหาทางออก ถึงบุคลากรคนหนึ่งซึ่งมีพฤติกรรมแย่มาโดยตลอด ทั้งแหกกฎวินัยของบริษัท ทั้งสร้างความเดือดร้อนแก่เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ไม่ว่างเว้น ก่อนหน้านี้เขาได้สั่งฝ่ายบุคคลให้รายงานเขา และสังเกตอยู่ตลอด แต่ช่วงนั้นมันอยู่ในช่วงกลางเดือนของเดือนที่แล้ว เลยได้แต่แจ้งใบเตือน จนกระทั่งวันนี้ ถึงเวลาแจ้งใบไล่ออกตามกฎของบริษัทสักที ทว่า เจ้าตัวกลับไม่ยินยอม แถมโวยวายอาละวาดจนได้เรื่อง
(ครับบอส ทำลายข้าวของในออฟฟิศ และชกหน้าเพื่อนร่วมงานปากแตกไปอีกสองคน)
“ บ้าชิบ! ไอ้หมอนี่มันชักจะเหิมเกริมกับกูมากไปแล้ว.. ตอนนี้มันอยู่ไหน? “
ข่มเสียงต่ำ ประโยคหลังขมวดคิ้วถาม รอฟังเลขาพูดไปด้วย สวมนาฬิกาข้อมือไปด้วย
(อาละวาดใส่ตำรวจที่ผมแจ้งมาข้างนอกครับ แถมตอนนี้นักข่าวเริ่มจะแห่กันมาแล้วด้วย)
“ ให้ตายสิ! นายแม่รู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง “
(เอ่อ..ผมกำลังแจ้ง)
“ ไม่ต้อง! กูกำลังไป!! “
จบประโยคคำสั่ง สายถูกตัดเพราะมือคอปทันที เขาหยิบกุญแจรถขึ้นมาเป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนพรวดพราดออกไป ทั้งๆที่ใส่เสื้อผ้ายังไม่เรียบร้อย
คอนโดหรู ย่านใจกลางเมือง ข้างผับใกล้วัด! ยังมีหญิงสาวร่างบางคนหนึ่ง เพิ่งกลับมาจากวัดจริงๆ หล่อนพักอยู่ในที่แห่งนี้ เดินก้มหน้างุดเสมือนปกปิดอะไรสักอย่างในเครื่องหน้านั่นไม่ให้ใครเห็น รีบเดินดุ่มๆ ไม่สนใจสิ่งแวดล้อมรอบๆ พลันมาจอดฝีเท้าก็ตอนจะต้องกดลิฟต์ ยืนรออยู่อึดใจนึงเนื่องจากลิฟต์กำลังลงมาจากชั้นบน ที่เป็นชั้นเดียวกันกับที่ตัวเองกำลังจะขึ้นไป และเมื่อมาถึง บานประตูลิฟต์เปิดออก
ติ๊ง...! พลั่ก!!!
“ โอ๊ย!! “
ร่างบางถอยหลังล้มไม่เป็นท่า นั่นเพราะถูกใครบางคนในนั้นชนเข้าอย่างจัง และแทนที่เขาจะหยุดมาพยุงหล่อน เปล่าเลย ไม่ผันแล... แถมรีบเร่งฝีเท้าอีกด้วย
“ โทษที ผมรีบ! “
ปล่อยหล่อนลุกเองตามอัธยาศัยซะงั้น!
“ รีบไปไหนกันนะ คนทั้งคนไม่เห็นรึไง...”
เสียงเล็กบ่นอุบ ส่ายหน้าเอือมระอากับสังคมสมัยนี้ เธอแทบจะยอมแพ้แล้ว ถ้าไม่ติดว่ายังมีน้องชายอีกสองคนที่ต้องดูแล ในขณะที่คนเล็กเป็นเจ้าชายนิทรา ส่วนอีกคนหนึ่ง...
ติ๊ดๆๆ
“ ฮัลโหล ...”
(บลูแกอยู่ไหนน่ะ)
“ อยู่ห้อง..”
(อีกชั่วโมงนึงไปเจอฉันที่โรงพักนะ)
“ ห๊ะ ทำไม...”
(บอลก่อเรื่องอีกแล้ว..)
เสียงปลายสายทำขาเล็กที่เดินใกล้จะถึงห้องแทบทรุด พลันคิดวันนี้มันเป็นวันซวยอะไรของเธอ ทำไมถึงได้มีแต่ปัญหาไม่จบไม่สิ้น ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมา เธอยังไม่ได้กินข้าวเลย
“ จ๊ะ... อย่าเพิ่งโทรไปบอกแม่นะลี ฉันยังไม่อยากหูชาตอนนี้...”
(โอเค แล้วเจอกัน)
หลังจากอาจารย์ประจำชั้นนักเรียนช่างกลของสถาบันหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนกับหล่อนวางสาย
วินาทีแรกที่หล่อนทำ ก็คือการถอนหายใจ เธอนั่งลงหลังเข้ามาถึงห้อง ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ แล้วถึงจะร้องไห้
ปัญหาคาราคาซัง ยุ่งเหยิงเบอร์นี้ จะจบลงได้ก็ต่อเมื่อมีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เข้ามาเกี่ยวข้อง คุณคอปถึงขั้นกุมขมับ ปวดกบาลตั้งแต่ตอนเริ่มจนถึงตอนท้าย กว่าจะไกล่เกลี่ยกินเวลาเขาไปครึ่งค่อนวัน
" กูไม่เข้าบริษัทแล้วนะ มึงไปเคลียร์แทนละกัน "
พ่นคำหยาบออกมาอย่างนี้ อย่าได้เรียกว่าเลขาเลย ยกระดับขึ้นแท่นเพื่อนสนิทสหายรับใช้นายน่าจะดีกว่า
" ครับบอส " กวินพยักหน้า " ว่าแต่บอสกลับยังไง "
" ทิ้งรถไว้ให้กู ส่วนมึงขึ้นแท็กซี่ไป "
" ห๊า! "
' อ่าวบอส ตอนมา มาด้วยกัน ตอนกลับไหงทำงี้ล่ะครับ '
สายตากวินที่มองนายคงคิดแบบนี้อยู่ ทว่า...
" มีปัญหาเรอะ! "
" เปล่าครับได้ ได้ครับ ได้เสมอ "
ปากกลับไม่ตรงกับใจ กวินหุนหันเดินคอตกออกไปทางฝั่งถนนใหญ่ เพื่อไปโบกแท็กซี่อย่างคุณคอปบอกจริงๆ ขณะเจ้าตัวตอนนี้ยืนพ่นควันบุหรี่ตุ้ยๆ เสมือนอดยากมานานแรมปี ไม่เกรงกลัวใครจะเอ็ดเนื่องจากทำถูกกฎมายืนดูดตรงที่ให้ดูดแล้ว ในสมองครุ่นคิด จะทำยังไงกับนักข่าวที่เก็บภาพเขาตอนชกหน้าไอ้หมอนั่นไปได้ ยอมรับว่าอารมณ์ ก็คนมันโมโหนี่หว่า แต่สำหรับนายแม่ มีรึจะยอมฟังใคร
" ระยำ"
กัดฟันสบถ หลังพ่นควันเทาครั้งสุดท้าย ทุ่มมันลงพื้นแล้วขยี้อย่างคนเสียนิสัย เสยผมปรกหน้าขึ้นด้วยอารมณ์หงุดหงิด ทว่า ต้องชะงักเพราะภาพนี้
" อะไรวะนั่น"
ผู้หญิงร่างบางถูกผลักจนล้มก้นคะมำ ด้วยนักเรียนชายชุดช่างกลสีกรมเข้ม ในขณะผู้หญิงนั่งร้องไห้ ส่วนคนทำวิ่งหนีไปแล้ว ร่างสูงขมวดคิ้วตั้งแต่ต้นจนจบ พลันทำได้เพียงส่ายหน้าหน่ายเท่านั้น นึกไม่ถึง หน้าโรงพักขนาดนี้ ยังไม่ว่างเว้น
" เฮอะ เป็นคู่ผัวเมียวัยรุ่นที่ถ่อยจริงๆ "
บ่นอุบ ก่อนเดินตรงไปยังรถของตัวเอง
18.00 น.
..คฤหาสน์จรัญทิพย์..
พลั่ก!
หนังสือพิมพ์ทั้งดุ้นแหวกอากาศพุ่งเข้ากลางกบาลคุณคอปเต็มๆ ด้วยความแรงของมือคุณนายอารีย์ ความไม่พึงพอใจที่มีถึงขั้นฉีกเนื้อคนเป็นชิ้นๆ ได้ในตอนนี้ ทำเขาต้องยืนนิ่ง ก้มหน้างุนรับชะตากรรม
" แผนกตัวเองแท้ๆ ฮึ.. ทำให้เรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่จนได้ "
" ....."
" แกรู้ไหม พรุ่งนี้หนังสือพิมพ์จะพาดหัวข่าวว่าอะไร "
"....."
" คงหนีไม่พ้น ผู้ว่าจ้างทำร้ายพนักงาน แกชกมันไปขนาดนั้น แถมฟาดเงินให้ตำรวจ มันหนักขนาดไหน ทำไมชอบใช้กำลังมากกว่าสมอง "
" ผมขอโทษครับนายแม่ "
" อารมณ์ร้อนแบบนี้ จะฝากบริษัทไว้กับแกได้ยังไง พรุ่งนี้เตรียมแถลงข่าวด้วย "
" ครับ.. "
" ไป ไปได้ "
จบประโยคเสียดสี คุณคอปเดินคอตกออกมาแทบไม่ทัน อารมณ์ร้อนที่คุณนายอารีย์เพิ่งว่า ตอนนี้ถ่าโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน พลุกพล่านล้นใจชายร่างสูง เสี้ยมให้เครื่องหน้าหล่อเหลาในตอนนี้บูดบึ้งห่างไกลโครงสร้างเดิม ก่อนจะรุดหน้าออกไปยังลานจอดรถ มุ่งสู่คอนโดตัวเอง
..และเพราะความโกรธปนน้อยใจ คงทำให้เขาต้องนอนที่นั่นในคืนนี้เช่นเคย