5 ก้าวแรกในบ้านหลังใหม่
5
ก้าวแรกในบ้านหลังใหม่
เมื่อตัดสินใจแล้วหญิงสาวก็เก็บข้าวของที่จำเป็น เดินทางมายังบ้านของธรรมสรณ์ โดยที่คืนนี้ เธอยังจะมีกานดาน้าสาวที่เหลือเพียงคนเดียวของเธอมานอนด้วย ก่อนที่พรุ่งนี้เย็น น้าสาวจะเดินทางกลับอเมริกา
“ยินดีต้อนรับนะหลานสาว” ธรรมสรณ์ยืนกอดอกคอยปาลิดาอยู่ที่หน้าประตูบ้าน
“และนี่เขมกร ลูกชายคนเดียวของลุง”
ปาลิดายกมือไหว้ ชายหนุ่มที่หน้าตาดีกว่าคนเป็นพ่ออยู่มาก
“เขมนี่คุณน้ากานดา”
ชายหนุ่มยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม แสดงถึงการที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี
“มากันแล้วเหรอจ๊ะ”
ภาวินีหญิงเดียวของบ้านนี้ ส่งเสียงทักทายมาก่อนตัว เพราะเธอมัวแต่จัดแจงเรื่องห้องพักของปาลิดา
“สวัสดีค่ะพี่ภาวินี”
กานดาคุ้นเคยกับภาวินีเป็นอย่างดี เพราะเธอคือเพื่อนสนิทของพี่สาวของเธอ และเป็นยังเป็นแม่สื่อแม่ชักให้พี่สาวของเธอกับนิรัช จนทั้งคู่ได้แต่งงานกัน
“เขมพาน้องขึ้นไปที่ห้องหน่อย ช่วยยกกระเป๋าให้น้องกับน้ากานดาด้วย”
ธรรมสรณ์หันไปสั่งลูกชาย เพื่อต้องการคุยกันสามคนแบบผู้ใหญ่ ไม่อยากให้เด็กๆอยู่ด้วย ซึ่งทั้งเขมกรและปาลิดาก็เข้าใจ
“พี่เข้าเรื่องเลยนะกานดา” ภาวินีเป็นคนเปิดเรื่อง
“ค่ะ ดาก็อยากรู้อะไรที่มากกว่านี้เหมือนกัน ตอนนี้งงไปหมด”
กานดาเองรู้สึกเป็นกังวล จนไม่อยากกลับไปทำงานที่อเมริกาแล้ว แต่เธอก็จำเป็นต้องกลับไป เพราะไหนจะสามีของเธออีก
“พี่ไม่ไว้ใจอัสมา พี่คงไม่สบายใจแน่ๆ ถ้าต้องทิ้งปาลิดาไว้กับแม่นักร้องเมียใหม่ของพี่นิรัช ” ภาวินีบอกความในใจ
“ส่วนเรื่องบ้านกับที่ดินนั้น ความจริงๆแล้วตอนที่พี่นิรัชมาขอยืมเงินจากพี่ธรรมสรณ์ เขาไม่ได้เอาสิ่งใดมาจำนอง แต่สัญญานี้ ถูกทำหลังจากวันที่เขาเดินทางกลับจากงานรับปริญญาของปาลิดา”
ภาวินีทำหน้าที่อธิบายทุกอย่างแทนสามี เพราะเธอเชื่อว่า ความสนิสนมคุ้นเคยของเธอกับกานดา จะทำให้กานดาเชื่อในสิ่งที่เธอพูด
“บ้านกับที่ดิน เราสองคนไม่ขายหรอก จะเก็บไว้จนกว่าลิดาจะหาเงินมาใช้คืนได้ ดอกเบี้ยสักบาทเราก็จะไม่คิด”
“ขอบคุณพี่สองคนมากนะคะ ที่ยังเมตตาปาลิดา”
กานดาเมื่อได้ฟัง ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจอีกหลายอย่าง แต่อย่างน้อย เธอก็สบายใจ ในเรื่องความปลอดภัยของหลานสาว ที่ไม่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับอัสมาตามลำพัง
“จำพี่ได้ไหม พี่จำชื่อเราได้ แต่จำไม่ได้ว่าน่ารักแบบนี้”
เขมกรอายุมากกว่าปาลิดาเกือบสี่ปี ชายหนุ่มพอจำชื่อเธอได้ แต่ปาลิดาจำเขมกรไม่ได้เลย เพราะตอนที่เจอกัน เธอยังเด็กมาก
“ จำไม่ได้เลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ที่หิ้วกระเป๋ามาส่ง” หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มแบบไร้ความรู้สึก
“ขาดเหลืออะไรก็บอกพี่นะ”
เขมกรส่งยิ้มหวานอย่างใจดี ให้สาวน้อยคนใหม่ของบ้าน ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปที่ห้องนอนที่อยู่ข้างๆของปาลิดา
ยังไม่ทันที่จะจัดการกับข้าวของเสื้อผ้า ที่ขนมาจากบ้าน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
“หนูลิดา น้าอัสมาเองนะ”
“น้าเอาเบอร์ลิดามาจากไหนคะ”
หญิงสาวจำได้ ว่าเธอไม่เคยให้เบอร์โทรศัพท์แม่เลี้ยง และอัสมาเองก็ไม่เคยขอเธอเลย
“น้าอยากจะโทรมาบอกหนูว่า อย่าให้ทางครอบครัวนู้นรู้ ว่าหนู้รู้เรื่องที่เขาหักหลังพ่อหนู หาโอกาสเอาทุกอย่างคืนมาให้ได้นะ พ่อจะได้นอนตายตาหลับ น้าคงช่วยอะไรหนูไม่ได้มาก ดูแลตัวเองดีๆ”
อัสมาวางสายไปแล้ว แต่คำพูดของเธอยังดังอยู่ในหัวใจของปาลิดา เธอจะต้องเอาทุกอย่างคืนมาให้ได้
“พ่อคะ ต่อให้เขาทำดีกับลูกมากแค่ไหน ลูกจะไม่มีวันให้อภัยพวกเขา ”
ปาลิดาถูกอัสมาฝังความแค้น ว่าสาเหตุที่พ่อของเธอต้องเมาจนไปขับรถชน เป็นเพราะความเสียใจที่โดนเพื่อนอย่างธรรมสรณ์หักหลัง
ถึงแม้ตอนนี้เธอจะยังคิดไม่ออก ว่าต้องทำอย่างไร แต่ที่แน่ๆเธอต้องทำดีกับครอบครัวนี้ให้มากๆ เพื่อให้ทุกคนตายใจ และไม่ระวังตัว
เมื่อคุยธุระตามประสาผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว กานดาก็เดินตามหลานสาวขึ้นมาบนห้อง ด้วยสีหน้า ที่ดูดีกว่าตอนที่มาถึง
“คุยอะไรกันคะ ทำไมคุณน้าดูยิ้มแย้มกว่าตอนมาถึง”
ปาลิดาถามตรงๆ เพราะสีหน้าและท่าทางของน้าสาวเธอมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
“ก็คุยเรื่องลิดาแหละลูก น้าอุ่นใจ ว่าหนูอยู่ที่นี่น่าจะปลอดภัยกับการอยู่ที่บ้านนู้น”
“ปลอดภัยกว่าอย่างไงคะ ลิดาไม่เข้าใจ”
“ถ้าต้องอยู่บ้านนู้น ลิดาต้องอยู่กับอัสมา ซึ่งเราไม่รู้ได้เลย ว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี น้าเองก็คงกลับไปอเมริกาอย่างไม่สบายใจ”
กานดาไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องทุกอย่างที่คุยกัน ให้หลานสาวฟัง เพราะธรรมสรณ์ขอไว้ และตัวกานดาเองก็คิดว่าถ้าพูดไป ลิดาจะคิดว่าเธออยู่ฝ่ายข้างนู้น
ทุกคนเดินทางไปส่งกานดาที่สนามบิน ลิดาใจคอห่อเหี่ยว เธอใช้ชีวิตเกือบห้าปี กับการอยู่อเมริกากับน้าสาวเพียงสองคน แต่ตอนนี้ เธอต้องอยู่ที่เมืองไทยเพียงคนเดียว พ่อก็ทิ้งเธอตามแม่ไปอีกคน หญิงสาวรู้สึกอ้างว้าง เหมือนถูกลอยทิ้งไว้กลางทะเล
“ดูแลตัวเองดีๆนะลิดา มีอะไรโทรหาน้าได้ตลอด”
คนเป็นน้า น้ำตาไหลก่อนหลานสาวเสียอีก เพราะเธอทั้งเป็นห่วงและคิดถึง
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ลิดาจะดูแลตัวเองอย่างดี คุณพ่อคงกำลังมองความสำเร็จของลูกสาวคนนี้อยู่ ลิดาจะไม่ทำให้คุณพ่อกับคุณน้าผิดหวังค่ะ”
ถ้ากานดารู้ความหมายของสิ่งที่หลานสาวพูด เธอคงตัดสินใจไม่กลับไปอเมริกาแน่ๆ