ว่าที่เจ้าสาว
ปัก! ปัก! ปัก!
“อื้อออ อ่า”
“อ๊ะ อืมมม”
เสียงร้องครางด้วยความเสียวซ่าน ดังระงมไปทั่วบริเวณห้อง ชายหนุ่มถาเอวสอบสอดใส่แก่นกายเข้าออกในร่องหญิงสาวด้วยความหนักหน่วงตามอารมณ์พลุ่งพล่านในตอนนี้
“อึก! เปรม เบาๆ หน่อย” ริมฝีปากบางสั่นระริกเมื่อถูกคนตัวโตที่อยู่ด้านบนโหมแรงกระแทกใส่เธออย่างบ้าคลั่ง แต่ถึงอย่างนั้น เธอกลับติดใจในลีลารักร้อนบนเตียงที่เขามอบให้
“…..” ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ฟังในสิ่งที่เธอร้องขอ ตรงกันข้ามเขากลับยิ่งทำมันแรงกว่าเดิม
ร่างกายของหญิงสาวสั่นคลอนตามแรงกระแทกที่เขามอบให้ สำหรับเธอแล้วก็เป็นแค่เครื่องระบายความใคร่ที่เขาใช้แก้ขัดก็เท่านั้น
‘เปรม ปกรณ์ จิรวนนท์’ นักธุรกิจหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรงอายุยี่สิบแปดปี ซึ่งพ่วงด้วยตำแหน่งทายาทหมื่นล้านของตระกูล ทางครอบครัวของเขามีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ระดับต้นๆของประเทศและมีธุรกิจอื่นๆอีกมากมาย
“จะกลับแล้วหรอคะ ไม่อยู่ทานข้าวเย็นกับเพลงก่อนหรอ?” เสียงหวานเอ่ยถามพร้อมกับก้าวขาลงจากเตียงไปสวมกอดในขณะที่ชายหนุ่มกำลังสวมใส่เสื้อผ้าอยู่หน้ากระจก ดวงตากลมโตไล่สายตามองสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เพียงได้เห็นแค่แผ่นหลังก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขานั้นดูดีจนเธอไม่อยากละสายตา
“…..”
“เมียคุณไม่รู้หรอกค่ะ นังทอฝันมันโง่จะตาย อยู่ทานข้าวกับเพลงก่อนนะคะ”
“อย่ามาเซ้าซี้ เรื่องของเรามันจบตั้งแต่ที่น้ำฉันแตกแล้ว!” พูดจบเขาก็แกะมือของเธอออกจากการเกาะกุมด้วยความรำคาญ
“แล้วเมื่อไหร่คุณจะมาหาเพลงอีกล่ะคะ?”
“ฉันไม่ชอบกินอะไรเดิมๆ”
“แค่เอากันเฉยๆ ก็ได้นิคะ เพลงสัญญาว่าจะเก็บเรื่องของเราให้เป็นความลับไม่บอกใคร โดยเฉพาะยัยทอฝัน” เพลงขวัญมองผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความออดอ้อน เขาจะแวะมาหาเธอก็ต่อเมื่ออยากหลับนอนด้วยแค่นั้น แล้วมันก็ค่อนข้างคุ้มสำหรับค่าตอบแทนที่เขาจ่ายให้มา
“ก็ลองบอกสิ รับรองว่าเธอไม่ได้มายืนเสนอหน้าอยู่ตรงนี้แน่ๆ”
“…..”
“ปิดปากของเธอให้สนิท ถ้าฝันรู้เรื่องนี้ ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่!”
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ทั้งสองละสายตาหันไปมองยังบุคคลที่เข้ามาใหม่
“ได้เวลาแล้วครับนาย” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยบอกผู้เป็นนาย
“พวกมึงไปเตรียมรถเลย เดี๋ยวคุณฝันจะรอนาน” เปรมตอบกลับก่อนจะรีบแต่งตัวด้วยความรีบร้อนแล้วเดินตามลูกน้องออกมา
ร้านอาหาร…
ดวงตาคู่คมกวาดสายตามองไปรอบๆ บริเวณร้านอาหารอิตาลีทันทีที่มาถึง ก่อนจะเห็นร่างบางที่เขามองหา นั่งรออยู่ในชุดเดรสสีชมพูดูน่าทะนุถนอม เมื่อเห็นดังนั้น เขาจึงรีบเดินตรงเข้าไปหาเธอในทันที
“เปรมมาช้าอีกแล้วนะ ปล่อยให้ฝันรอมาเป็นชั่วโมงแล้ว” ทอฝันบ่นงุบงิบในลำคอเมื่อเห็นแฟนหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามา เขาและเธอคบกันแบบเปิดเผยมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ถ้าจะนับก็เกือบสิบปีแล้ว
“พอดีเอกสารงานมีปัญหาน่ะ เลยต้องแก้อีกนิดหน่อย” เปรมตอบกลับก่อนจะโน้มริมฝีปากไปจุมพิตที่หน้าผากของเธอเพื่อเป็นการทักทาย
“แบบนี้ก็แย่เลยสิคะ ฝันรบกวนเวลาทำงานคุณหรือเปล่า?” เมื่อได้รู้ถึงเหตุผลหญิงสาวจึงถามด้วยความรู้สึกผิด
“สำหรับฝันผมมีเวลาให้เสมอแหละ”
“ปากหวานแบบนี้ สาวๆ ไม่ติดแย่หรอคะ?”
“ผมรักฝันคนเดียว ฝันก็น่าจะรู้”
“ฝันก็รักเปรมค่ะ รักมากด้วย” ทอฝันตอบกลับ พร้อมกับดึงมือหนาของชายหนุ่มเข้ามาจูบเบาๆ โดยที่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด จะมีก็แต่สายตาหวงแหนที่เขาใช้มองเธอ ทอฝันคือผู้หญิงหัวอ่อนบอบบางน่าทะนุถนอมมากที่สุด
“งั้นก็แต่งงานกับผมสักทีสิ ผมนี่อยากแต่งงานกับคุณจะแย่อยู่แล้ว”
“ฝันขอเวลาอีกนิดนะคะ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่เราจะแต่งงานกัน”
“แล้วผมจะรอวันนั้นนะ” สำหรับเขาแล้วทอฝันคือผู้หญิงคนเดียวที่เขารักและอยากจะแต่งงานด้วย ส่วนผู้หญิงคนอื่นมันก็เป็นเหมือนของเล่นสำหรับเขา
“…..”
“เดี๋ยวฝันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
“ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหม?”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณทานต่อเถอะ เดี๋ยวฝันรีบไปรีบมา”
“ถ้างั้นก็ได้ครับ”
ห้องน้ำหญิง…
พลั่ก! ตุบ! ร่างบางถึงกับเซถลาออกไปเมื่อบังเอิญเดินไปชนกับใครคนนึงที่หน้าห้องน้ำ ความจริงคือเธอคนนั้นต่างหากที่เป็นฝ่ายเดินมาชนเธอ
“ขะ…ขอโทษค่ะ” ทอฝันรีบก้มหัวขอโทษอย่างรู้สึกผิด ไม่ว่าจะถูกหรือผิดเธอมักจะเป็นฝ่ายขอโทษก่อนเสมอ
“เดินประสาอะไร ไม่ดูตาม้าตาเรือ!” หญิงสาวที่อยู่ในเดรสสีดำตัวจิ๋วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ก่อนจะถอดแว่นดำกรอบหนาออกจากใบหน้าเพื่อจ้องมองใบหน้าของทอฝันให้ชัดเจน
“ขอโทษอีกครั้งนะคะ”
“นึกว่าใคร ที่แท้ก็เธอนี่เอง”
“คุณรู้จักฉันด้วยหรอคะ?” ทอฝันจ้องมองเธอกลับด้วยความสงสัย เพราะรู้สึกไม่คุ้นหน้าเธอเอาเสียเลย
“ทำไมจะไม่รู้จักล่ะ ก็เรามีผัวคนเดียวกัน!”
“…..”