บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 รักอันตราย ผู้ชายคนนั้นที่ฉันตามหา

"จริงสิครับ นั่นยังไงละครับพูดถึงก็มาพอดี"

"ไหนคะ" วิเวียนมองตามนิ้วชี้ของบาร์เทนเดอร์ก่อนจะเห็นแผ่นหลังของชายสองคนที่มีรูปร่างคล้ายกันเดินขึ้นบันไดไปแต่เพราะแสงไฟที่สาดส่องกะพริบไปกะพริบมาทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นได้ชัดว่าสองหนุ่มนั่นหน้าตาเป็นยังไง ใครเห็นชัดก็บ้าแล้วแทนที่พ่อหนุ่มบาร์เทนเดอร์จะบอกให้เร็วกว่านี้เสียหน่อยดูสิ! ขึ้นไปชั้นบนเห็นแต่แผ่นหลังไว ๆ นั่น แล้วเธอจะทำยังไงต่อละทีนี้วิเวียนยกแก้ว Dry Martini ที่พี่กล้ามโตวางไว้ก็หยิบจิบแก้กระหายก่อนจะกลืนลงคออย่างยากลำบากใบหน้าสวยตอนนี้เหยเกทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกไม่คิดว่าไอ้ที่ชี้ไปแบบมั่ว ๆ นี่จะแรงบาดคอถึงขั้นกระเดือกไม่ลงเลยทีเดียวคิดไม่ผิดที่เธอค่อย ๆ จิบเมื่อกี้นี้ไม่อย่างนั้นได้มีพ่นออกมาตรงนี้แน่ ๆ

"ไง เมื่อกี้เห็นชัดมั้ย!" แก่นแก้วกระซิบถามเพื่อนสาวพร้อมกับยกน้ำส้มจิบไปด้วย สายตาก็ยังมองไปทิศทางเดียวกับที่วิเวียนมองไปเมื่อกี้นี้

"ตัวคิดว่าไงล่ะ" วิเวียนกระซิบตอบพร้อมกับมอบรอยยิ้มส่งไปให้พี่กล้ามโตที่ยังมองพวกเราไม่วางตาหรือจะหลอกถามพี่มันดีนะ

"พี่สุดหล่อคะ ข้างบนนั้นทำยังไงถึงจะได้ขึ้นไปเหรอคะ" วิเวียนเอ่ยถามเสียงหวานพร้อมรอยยิ้มพิชิตใจที่เคยมอมเมาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มานักต่อนักแล้วรวมถึงพี่กล้ามโตนี่ด้วย

เข้มมองรอยยิ้มที่เหมือนรอยยิ้มของปีศาจสาวแสนสวยที่กำลังล่อลวงหนุ่มให้เข้าไปในกองไฟแค่เห็นรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์ปรากฏเขี้ยวน้อย ๆ ที่ส่งมาก็ทำเอาเข้มหัวใจสั่นรัวมือไม้อยู่ไม่สุขพูดตอบสาวสวยอย่างคนละเมอ

"ข้างบนเหรอครับ ต้องเป็นเมมเบอร์เท่านั้นครับและส่วนมากก็จองเต็มทุกคืนไปจนถึงปีหน้านู่นแล้วครับ"

"ว่าแย่จังเลยค่ะถ้าอย่างนี้น้องก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ขึ้นไปเยือนด้านบนถึงปีหน้าเลยสินะคะ เฮ้อ..เสียดายจังเดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็ต้องบินกับแล้ว" วิเวียนทำท่าเสียดายพร้อมกับเสียงพูดที่เศร้าสร้อยเกินจริง ฉายานางจิ้งจอกนั่นไม่ได้มาง่าย ๆ ถึงเธอเป็นลูกสาวดารารุ่นใหญ่แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอแสดงเก่งตามแม่เธอได้เพราะมันไม่ได้ตกทอดตามมาตามพันธุกรรมแต่เพราะว่าเป็นพรแสวงของเธอล้วน ๆ ทั้งเรียนบัลเล่ต์ทั้งเรียนการแสดงทั้งร้องเพลงเธอผ่านการฝึกฝนนั่นมาตั้งแต่เด็กและยังมีผ่านงานเล็ก ๆ น้อย ๆ มาบ้างแต่เพราะพ่อผู้เคร่งครัดของเธอที่ไม่ยอมให้เธอออกไปเจริญรอยตามความฝันอย่างคนเป็นแม่ แต่ชอบยัดเยียดงานด้านธุรกิจมาให้ทั้ง ๆ ที่เธอเองเกลียดการทำงานแบบใช้สมองเป็นที่สุด ถึงเธอจะสวยแต่เธอก็โง่นะและก็ขี้เกียจด้วย

นี่ถ้าคุณแม่ยังอยู่เธอคงโดนหยิกจนเนื้อเขียวแน่ ๆ

"เอ่อ เอาอย่างนี้ไหมครับพอดีผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งที่จองเอาไว้คืนนี้เหมือนกันแต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะติดธุระด่วนมาไม่ได้ให้ผมลองติดต่อขอซื้อเมมเบอร์สำหรับคืนนี้ให้ไหมครับ" เข้มสงสารสาวน้อยที่นั่งทำหน้าเศร้าทำให้หัวใจดวงโตสั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนจะส่งข้อความหาเพื่อนที่เป็นสมาชิกที่นี่จริงไม่ได้พูดขึ้นเองเล่น ๆ เอาใจสาวและที่มันมาไม่ได้คืนนี้ก็เพราะเมียมันคลอดลูกวันนี้นั่นเอง

"อุ๊ย! ได้จริงเหรอคะ" วิเวียนตื่นเต้นตาโตที่ได้ยินหนุ่มกล้ามโตพูดขึ้น ถ้าอย่างนั้นเธอก็มีสิทธิ์แล้วนะสิ! อร้ายย กรี๊ดดดด

"ยินดีครับ แล้วเพื่อนผมก็ตอบตกลงแล้วด้วย ส่วนอันนี้ยอดเงินที่จะต้องโอนให้มันนะครับมันใจดีลดให้ด้วย"

"ได้เลยค่ะสุดหล่อ" วิเวียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสแกนหน้าคิวอาร์โค้ดที่พี่กล้ามโตส่งมาโดยมีใบหน้าของแก่นแก้วชะเง้อมามองยอดที่จะต้องโอนพร้อมกับหยิบหมับเข้าที่เอวคอดกิ่วของเพื่อนตัวดีในตอนที่กดโอนสำเร็จพอดี

"เรียบร้อยค่ะ" วิเวียนโชว์สลีปให้พี่กล้ามโตก่อนจะหันมาหาเพื่อนสาวที่นั่งทำตาเขียวที่ดูน่ากลัวอย่างกับลูกแมวขู่แย่งอาหารกัน

"แล้วตัวจะมาหยิกเค้าทำไมเนี่ยะ มันเจ็บอ่ะ" วิเวียนโอดครวญ

"ก็เค้าตกใจยอดตัวเลขที่ตัวโอนน่ะสิ นั้นมันหลายหมื่นเลยนะ" แก่นแก้วพูดด้วยความเสียดายเงินทองไม่ได้หามาง่าย ๆ แล้วยิ่งคนที่ยังไม่ได้ทำงานทำการอะไรอย่างพวกเราอีก

"โถยัยคุณหนูร้านเพชรจะมาเสียดายอะไรกับเงินแค่นี้เค้ายังไม่เสียดายเลย การลงทุนคือความเสี่ยงแต่ถ้าไม่อยากพลาดการหาสามีในครั้งนี้ก็สมควรจะเสี่ยงจ้า" วิเวียนบอกเพื่อนสาวที่ฐานะไม่ด้อยไปกว่ากันในตอนที่พี่บาร์เทนเดอร์ไปรับออเดอร์คนอื่นด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเสียดายดูก็รู้ว่าพ่อหนุ่มนั้นคงอยากจะบริการแค่ตรงนี้แต่ก็ดีฉันจะได้รีบพาเพื่อนขึ้นไปยังชั้นบนที่อุตส่าห์ลงทุนซื้อเมมเบอร์ตั้งหนึ่งคืน นี่ถ้าคุณพ่อรู้ว่าเธอลงทุนกับผู้ชายมากขนาดนี้รู้คงอกแตกตายส่วนยัยผู้หญิงสองคนแม่ลูกนั่นคงจะกรี๊ดกันบ้านแตก

"ไปยัยแก้วเรามีที่นั่งดี ๆ แล้ว" วิเวียนกระดก Dry Martini ที่เหลือเพียงก้นแก้วจนหมดก่อนจะลุกยืนแต่เพราะความที่ลุกไวหรืออะไรก็ไม่ทราบทำให้เธอถึงกับเซยังดีที่แก่นแก้วดึงไว้ไม่อย่างนั้นเธอคงหัวทิ่มลงพื้นก่อนจะได้ไปเจอผู้แน่ ๆ

"ตัวเมาแล้วเหรอ" แก่นแก้วกระซิบถามตอนที่ฉันกำลังจะออกเดิน

"บ้าเหรอเอาอะไรมาเมายะเพิ่งดื่มไปแค่แก้วเดียวเอง" ถึงฉันจะพูดอย่างนั้นแต่ดูเหมือนว่าอาการที่เป็นนั้นต่างจากคำพูดอย่างชัดเจนดูจากการเดินที่ขาไขว้ไปไขว้มาอย่างกับนางแบบที่เดินบนแคทวอล์กนั่น

"แต่เค้าว่าตัวไม่ไหว" แก่นแก้วที่พยายามรั้งเอวเพื่อนที่ตัวสูงกว่าตัวเองตั้งหลายคืบทั้งยั้งใส่รองเท้าส้นสูงแหลมปรี๊ดไม่เกรงใจคนตัวเตี้ยอย่างเธอเลย

"เอาน่าเดินหาห้องหมายเลข 69 ตามที่พี่กล้ามโตบอกก็จบเรื่องแล้วที่เหลือเค้าจัดการเอง"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel