ตอนที่ 6 เธอคือใคร
ตอนที่ 6 เธอคือใคร
ณ.ห้องทำงานของ ลี่เฉิน ประธานแห่ง NK GROUP
ลี่เฉินอยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม นั่งเคาะโต๊ะทำงานเบาๆ อย่างใช้ความคิด ก่อน ปิดจอ Notebook ลงอย่างไม่สบอารมณ์
เพราะเมื่อเขากลับไปที่โรงแรม ก็พบว่าหญิงสาวคนนั้นได้หนีออกไปแล้ว
ย้อนไป ตอนเช้า ทันทีที่เขากลับออกมาจากโรงแรมนั้น ประธานหม่า ก็โทรมาขอโทษเรื่องเมื่อคืน ที่ไม่ได้ส่งนางแบบสาวเข้าไปบริการเขา หากเพราะว่าเธอเข้าห้องผิด
จริงๆ แล้ว ลี่เฉินก็ไม่ได้ชอบวิธีการที่เอาผู้หญิงมาเพื่อต้อนรับหรือเอาใจเขาสักเท่าไหร่ เขาไม่ใช่ผู้ชายประเภทนั้น เขาได้ดุประธานหม่าว่าไม่ชอบวิธีการต้อนรับแบบนี้ และสั่งห้ามทำอะไรพลการแบบนี้อีก
แต่ทว่า.....
สาวน้อยเมื่อคืน ทันทีที่เขาเห็นเธอ นอนอยู่บนเตียงนั่น มันเป็นความรู้สึกแปลกประหลาด เธอทำให้เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้
ที่สำคัญตอนนี้เขาว่า เขาหลงเสน่ห์สาวน้อยคนนี้ไปซะแล้ว
หากว่า เช้านี้ ลี่เฉินไม่ได้มีประชุมกับเหล่าบรรดาผู้บริหารสำคัญ เขาคงปลุกเธอขึ้นมาเพื่อสอบถามรายละเอียด ว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่ห้องเขา
-เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถ้าเธอไม่ใช่หญิงบริการและเธอคือใครกัน-
แต่เมื่อเช้า ดูท่าเธอจะไร้เรี่ยวแรง เขาทรมานร่างเล็กเกือบทั้งคืน กว่าที่เขาจะยอมปล่อยตัวเธอ ก็ปาไปจนเกือบเช้า เขาแค่อยากปล่อยให้เธอนอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ทันได้รอเธอตื่นขึ้นมา ตั้งใจว่าจะกลับไปถาม เธอก็หนีไปจากเขาเสียแล้ว
คิดถึงสาวน้อยที่อยู่ในอ้อมออกเขาเมื่อคืน ลี่เฉินก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้ เขามั่นใจว่าสาวน้อยไร้เดียงสาคนนั้น ยังคงบริสุทธิ์ และเขาเป็นคนแรกของเธอ
นึกถึงช่วงเวลาได้สัมผัสกันและกัน ลี่เฉินยิ้ม ภาพที่เขาเอามือสัมผัสปลายผมสีดำเงางาม ที่ปกปิดอยู่บนใบหน้าของเธออย่างแผ่วเบา ช่างเป็นใบหน้าที่ขาวนวลเนียน ราวกับผิวเด็ก
ปากอมชมพูเรียวเล็ก ขนตางามงอน ประดับอยู่บนใบหน้าขาว ลี่เฉินเพ่งมองหญิงสาวที่ตกอยู่ในอ้อมกอดเขา ยิ่งมองยิ่งหลงใหล
เธอเป็นใครนะ หรือ เธอคือนางฟ้าตัวน้อย ที่มีเวทมนตร์สินะ ที่ทำให้เขารู้สึกและปรารถนาเธอเพียงนี้
ลี่เฉิน กดโทรศัพท์ อีกครั้ง หาบอดี้การ์ดทันที
“ไปตามสืบมาว่าเธอเป็นใคร แล้วตรวจสอบกล้องวงจรปิดด้วย ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น”
“ได้ครับ นายท่าน”
----------------------------------------
มิรินร้องไห้จนขอบตาบวมช้ำ ในที่สุดเธอก็คิดได้ ร้องไห้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ครั้นจะไปแจ้งความ ก็เกรงว่า คุณพ่อของเธอจะอับอายและเสียชื่อเสียง
เธอนั่งทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ภายในใจยังคงเต็มไปด้วยความสับสน
เขาถึงขนาดให้คนมาเฝ้าเธอไว้ที่หน้าห้อง แสดงว่าเขาคงจะไม่ปล่อยเธอไปแน่
ถ้าเขาว่าชายคนนั้นเกิดตามหาเธอล่ะ .....
หรือถ้าเขาเกิดมีภรรยาแล้ว..... แล้วภรรยาเขาตามมาหาเรื่องเธอล่ะ
โอยยยย....มิรินเอามือกุมขมับ ไม่ได้การแล้ว เธอควรจะหนีไปจากที่นี่
ยังไงซะการแต่งงานระหว่างเธอกับวัฒน์มันก็คงไม่เกิดขึ้น
มิรินรีบหยิบโทรศัพท์ โทรหาแอนนา เพื่อนรักเธอทันที แอนนาเป็นเพื่อนรักของเธอตั้งแต่ประถมจนจบมัธยม ด้วยว่าแอนนาทางบ้านมีธุรกิจที่เมืองจีน เธอจึงไปเรียนต่อปริญญาตรีและจบที่นั่น แต่ก็ยังติดต่อพูดคุยกับมิรินเสมอๆ
"แอนนา นี่ฉันเองนะมิริน"
"เป็นไงบ้างริน คิดถึงจัง" แอนนาตอบรับน้ำเสียงดีใจ
แต่แค่เพียงถามสารทุกข์สุกดิบ น้ำตามิรินก็เริ่มเอ่อไหล
"คิดถึง อยากไปหา ให้ฉันไปหาเธอ อยู่กับเธอสักพักได้ไหม" มิรินพูดปนสะอื้น
"ริน... รินแกเป็นอะไรหรือเปล่า น้ำเสียงแกดูแปลกๆ นะ แกร้องไห้อยู่หรือเปล่า"
"..........." ปลายสายไม่ตอบ มีเพียงเสียงสะอื้นที่สอดแทรกเข้ามาแทน
"ไม่ร้องนะริน ไม่ร้องนะ เกิดอะไรขึ้น บอกฉันมา แกรีบไปจองเครื่อง แล้วบินมาหาฉันเลยนะ”
ฮึก ฮึก เสียงกลั้นสะอื้นร้องไห้ของมิรินดังขึ้น
“มาเลยแกเดี๋ยวนี้! ตอนนี้! เกิดอะไรขึ้นกับแก มิริน แกเป็นอะไรอย่าร้องไห้นะแก แกร้องไห้แล้วฉันจะร้องตาม” แอนนารัวคำถาม แต่ปลายสายยังคงส่งเสียงสะอื้นไห้
"เอาไว้ถึงแล้วฉันจะเล่าให้ฟังนะ" มิรินตอบกลับเสียงสั่นเครือ
“ได้ๆ แกรีบมาเลยริน ฉันเป็นห่วงแกมากนะเว้ย”
แอนนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงและนั่นก็ทำให้มิรินรับรู้ได้ แอนนาคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ
มิรินวางสายก่อนกดโทรศัพท์ เพื่อค้นหาเที่ยวบินที่จะบินไป เมืองซูโจวที่แอนนาพักอาศัยอยู่
อย่างน้อย ในเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เธอก็ยังมีมิตรภาพดีๆจากแอนนา ที่เป็นกำลังใจให้เธออยู่
มิรินยิ้มทั้งน้ำตา
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เธอก็เก็บเอกสารสำคัญ และเสื้อผ้า ลงกระเป๋าใบโต
มิรินไม่แน่ใจว่า เธอพร้อมจะกลับมาเผชิญเรื่องราวที่นี่ได้มากแค่ไหน อย่างน้อยถ้าเธอไปอยู่กับแอนนาเธออาจจะหางานทำ และใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองจีน สักระยะ หรือไม่ก็ตลอดไป
เพียงครู่ใหญ่ มิรินก็หิ้วกระเป๋าเดินทางลงมา เจอผู้เป็นพ่อนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
"รินลูก" ศาสตรามองกระเป๋าเดินทางของมิริน
"นี่...หนูจะไปไหนลูก"
โชคดีที่ คุณนายมินตราแม่เลี้ยงของเธอไม่อยู่ในเวลานี้ หากแม่เลี้ยงอยู่ เธอมักจะส่งสายตาชิงชัง จนทำให้มิรินไม่อยากเข้าใกล้คุณพ่อ
มิรินวางกระเป๋า ก่อนเดินตรงเข้าไปโอบเอวพ่อ ซุกหน้าลงกับอก ราวกับเธอยังคงเป็นเด็กตัวน้อยคนหนึ่ง
"รินขอโทษนะคะ รินไม่อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ แต่คุณพ่อเชื่อใจรินใช่ไหมคะ ว่ารินไม่ได้ทำตัวอย่างนั้น" มิรินเริ่มตาแดงน้ำเสียงสั่นเครือ
"ลูกพ่อ พ่อต้องเชื่อใจลูกสิ ไม่ว่าใครจะพูดยังไง รินยังเป็นลูกสาวตัวน้อยของพ่อ ที่พ่อรักเสมอ"
ศาสตราเอามือลูบหัวลูกสาวอย่างแผ่วเบา
"ไหนๆ งานแต่งงานสำหรับริน คงไม่เกิดขึ้น รินคงสู้หน้าใครไม่ได้ค่ะ ตอนนี้รินขอไปพักจิตใจสักระยะนะคะ คุณพ่อ ขอรินทำใจสักพัก แล้วรินจะกลับมาเป็นคนเดิมของคุณพ่อค่ะ"
ศาสตราไม่พูดอะไร เขาเข้าใจและสงสารลูกสาวมาก ครั้นจะทำอะไรที่มากกว่านี้ ก็กลัวจะเป็นข่าวใหญ่โต
ทั้งมิรินเองและวงศ์ตระกูลก็จะยิ่งอับอายมากไปกว่านี้
ศาสตราโอบกอดลูกสาว พลางเอามือลูบหัวด้วยความสงสาร
ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้เรื่องอะไร
แต่ทั้งนี้ ลิญาตัวต้นเรื่องก็คือลูกสาวเช่นกัน
ถึงลิญาจะอธิบายแบบนั้น แต่เขาก็เชื่อมั่นในตัวของมิริน ไม่ว่าลูกสาวจะพูดอะไรหรือใครจะเป็นอย่างไรแต่ลูกก็คือลูก
การตัดสินเข้าข้างใดข้างหนึ่งก็เกรงว่าอีกคนจะเสียใจเขาจึงเลือกที่จะจัดการทุกอย่าง อย่างเงียบๆ เขาทำอะไรไปได้ไม่มากกว่านี้
มิรินกอดลาผู้เป็นพ่อ ก่อนให้คนรถไปส่งที่สนามบิน
-----------------------