บทที่ 9 เงินที่ส่งมาถูกใช้จนหมด
“เดือนมกราคมปี 2021 วันนี้พี่อารัณย์รู้ความจริงแล้วว่า ดาวเป็นน้องสาวพี่ภพ เราไปนั่งทานข้าวกัน พร้อมกับน้องไอริณตัวน้อย เด็กหญิงที่น่ารักเหมือนพ่อของเธอ และพี่รัณย์จะรู้ไหมนะว่าดาวแอบรักเขามาเก้าปีแล้ว” หญิงสาววางปากกาในมือลง เลื่อนสายตามองภาพของอารัณย์เมื่อเก้าปีที่แล้ว ไม่ได้แตกต่างจากตอนนี้เท่าไหร่นัก เขายังคงเป็นชายหนุ่มแสนอบอุ่นและใจดีเสมอไม่เปลี่ยนเลย เธอปล่อยยิ้มออกมาก่อนปิดสมุดบันทึกนั่นแล้วเก็บเข้าลิ้นชักดังเดิม
เครื่องบินร่อนลงสู่สนามบินสุวรรณภูมิ ดาริกาหอบหิ้วเสื้อผ้าหนีสามีโหดอย่างไมเคิล กลับเมืองไทยทันที ที่มารดาส่งข่าวไปบอกว่าอารัณย์ยังไม่ลืมเธอ หลังจากเท้าแตะพื้นดิน หญิงสาวน้ำตาไหลอาบแก้ม ด้วยเพราะคิดถึงเมืองไทยอย่างมาก ที่สำคัญเธอคิดถึงอารัณย์จับหัวใจ หญิงสาวแต่งตัวดูดีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เดินดุ่ม ๆ มุ่งตรงไปยังเบื้องหน้าโดยไม่สนใจผู้ใด
“อีดาทางนี้” เสียงของมารดาเรียกอย่างไม่เกรงใจใคร ดาริกาหันมองไปยังต้นเสียง พลางเห็นมือไหว ๆ ของหญิงกลางคนแสดงเป็นสัญลักษณ์ จึงปั้นหน้าไม่พอใจเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปหา
“แหม...แต่งตัวอย่างกับคุณนาย แต่ดีละหากอารัณย์เขามาเห็นจะได้ตะลึงกับความงามของแก”
“เลิกเรียกหนูว่าอีดา เสียทีได้ไหมคะ”
“อ้าวอีนี่ ก็เรียกมาแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไร” หญิงกลางคนเท้าเอวพูดเสียงดัง เมื่อเห็นลูกสาวทำท่าไม่พอใจ
“ถ้าแม่อยากให้หนูกลับมาดีกับอารัณย์ ก็ช่วยเปลี่ยนคำพูดคำจาให้เหมือนคนอื่นบ้าง”
“เออ ๆ จะพยายามละกัน” หญิงกลางคนพูดเบี่ยง พลางปัดไม้ปัดมืออย่างรำคาญ แล้วพาลูกสาวคนสวยกลับมาบ้านเช่าหลังเก่าที่ดาริกาเคยอาศัยมาตั้งแต่เด็ก เมื่อดาริกาเดินมาถึงปากทางเข้า ก็เจอกับบรรดาแม่ค้าพากันเข้ามาสอบถามถึงเรื่องชีวิตความเป็นอยู่
“อีดา สวยจังเลย เป็นไงบ้างเมืองนอก”
“อีดาเก็บเงินได้เยอะเลยล่ะสิ เมื่อไหร่จะซื้อบ้านให้แม่เสียที”
“โห ไม่เจออีดานานมาก ๆ มันสวยขึ้นนะ แต่ผอมไปหน่อย ตกลงมีผัวฝรั่งจริงไหม” คำถามของเหล่าแม่ค้า เอ่ยถามขึ้นเมื่อเธอเดินผ่าน ทว่าดาริกาไม่ใส่ใจ ยังคงเดินลากกระเป๋ากลับเข้ามายังบ้านเช่าหลังเก่าที่เคยอาศัย หญิงสาวหันมองดูทุกอย่างด้วยความเจ็บปวด
“หนูส่งเงินให้แม่ แม่ไม่คิดซื้อตู้เย็นใหม่เลยเหรอคะ” เธอหันไปเห็นตู้เย็นสมัยก่อนที่ยังคงเป็นหลังเดิม
“ก็มันยังใช้ได้อยู่” มารดาตอบส่ง ๆ
“ทีวีก็ยังเครื่องเดิม” ดาริกาพูดพลางมองรอบ ๆ เมื่อสภาพทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“หนูส่งเงินให้แม่ถ้ารวมเงินแล้ว สามารถซื้อบ้านใหม่ได้เลย ทำไมแม่ยังอยู่เหมือนเดิม แม้กระทั่งตู้เย็นและทีวี” เสียงของดาริกาสั่นเครือพลางหันมายังมารดาพร้อมความอัดอั้น
“ก็...มันยังใช้ได้ไง จะซื้อใหม่ทำไมให้เปลืองเงิน” ป้าสายใจ ใช้วาจาหลบหลีก
“ในเมื่อแม่ไม่เอาเงินไปซื้อของใช้ แล้วเงินที่ดาส่งให้ล่ะคะแม่เก็บได้เท่าไหร่แล้ว” หญิงกลางคนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พลางกลอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด
“แม่ไม่มีเงิน แม้กระทั่งจ่ายค่าเช่าบ้านสับปะรังเคนี้ เพราะอะไรคะ” ดาริกาถามย้ำด้วยเสียงสั่นเครือ หญิงกลางคนแสร้งทำหน้าเศร้า เพราะเงินที่ดาริกาส่งให้ทั้งหมดเป็นระยะเวลาหลายปีนั้น เธอเอาไปลงกับการพนันจนหมดสิ้น
“ดาส่งเงินให้แม่ทุกเดือน ดาแทบไม่ได้ใช้เพราะห่วงกลัวว่าแม่จะลำบาก ดาให้แม่ไปซื้อบ้านใหม่ แม่ก็อ้างนั่นอ้างนี่ ดาไม่รู้เลยนะคะว่าเงินที่ดาหามาทั้งหมด มันไม่พอแม้กระทั่งซื้อตู้เย็นหรือทีวีเครื่องใหม่ ที่ผ่านมาดาเสียเวลาเพื่ออะไรคะ”
“เงินทั้งหมด ก็ถือว่าเป็นค่าน้ำนม ที่แม่เลี้ยงดูแกมาก็แล้วกัน” หญิงกลางคนพูดปัดตามประสา ทำไม่รับรู้ความผิดของตัวเอง ในขณะที่ดาริกาได้ฟังดังนั้นจึงทิ้งตัวลงนั่งด้วยความผิดหวัง เธอกลับมาเห็นสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ได้เปลี่ยนจากเดิมเลยแม้แต่น้อย
