หมดสภาพ
รักลับสัมพันธ์สวาท
ตอนที่ 6-หมดสภาพ
(อารียา)
"อี๋ ไอ้ผู้ชายบ้า ทำไมฉันต้องมาเจอคนทุเรศ ๆ แบบนี้ด้วยนะ.....คุณท่านไม่น่ามีลูกชายแบบนี้เลย ไอ้บ้า! กล้ามาจูบปากของฉัน เบ้าหน้าอย่างกับเทพบุตร แต่นิสัยนี่เลวสุด ๆ ไปเลย" นึกแล้วก็เจ็บใจกับการที่ผู้ชายคนนั้นกล้าขโมยจูบของฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต อยากจะด่าให้หลังคากระเจิง แต่ฉันก็เกรงใจคุณเชรคที่ยืนอยู่ตรงนั้น ฝากไว้ก่อนแล้ววันหลังฉันจะเอาคืน รู้จักคนอย่างอารียาน้อยไปซะแล้ว
"แล้วถ้าฉันต้องมาอยู่ร่วมชายคากับเขา จะไม่ตีกันตายหรือไงวะเนี่ย...โอ๊ย!! ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจอกับผู้ชายเฮงซวยแบบนี้ด้วยนะ แถมยังหน้าหม้ออีกต่างหาก นี่ถ้าไม่ติดว่าคุณท่านดีกับฉันอุปภัมภ์ส่งฉันเรียนนะ ฉันจะไม่อดทนกับคนแบบนายขนาดนี้หรอก" ฉันก็ได้แต่บ่น ๆ แล้วก็บ่น เพราะคนอย่างฉันจะไปทำอะไรได้ในตอนนี้ เพิ่งมาถึงวันแรกและไม่คุ้นเคยกับสถานที่ และนี่ก็ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนที่จะไปไหนตามอำเภอใจได้ อดทนไว้อารียาอดทนเอาไว้ "เฮ้อ ถ้าฉันเก็บเงินได้มากพอ รับรองเลยว่าฉันจะย้ายไปอยู่ข้างนอก ไอ้แก่ลามก!"
"อาบน้ำดีกว่า จะได้ดับอารมณ์หัวร้อนของฉันลงบ้าง" ฉันคิดได้ดังนั้นอย่างทำใจ แม้จะรู้สึกเหนื่อนอ่อนกับการที่ต้องมาต่อกลอนกับตาแก่บ้ากาม แต่ฉันก็ต้องพยายามอยู่ให้ได้ เพื่อตอบแทนพระคุณที่คุณท่านอุปการะส่งเสียฉันเรียนจนจบขนาดนี้
ฉันถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายด้วยความคุ้นเคย การอยู่คนเดียวจนชินทำให้ฉันไม่อายที่จะแก้ผ้ากลางห้อง จากนั้นจึงเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ขาวสะอาดตา ที่ถูกวางไว้อย่างเป็นระเบียบ พันรอบอกแล้วเดินเข้าห้องน้ำ อ่างน้ำใบใหญ่ที่เห็นแล้วทำฉันต้องยกมือกุมหัว ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นอ่างจากุชชี่มาก่อน แต่ตอนนี้สิ่งที่ฉันเห็นตรงหน้ามันหรูหราเอามาก ๆ ซึ่งที่ผ่านมาฉันไม่เคยใช้อ่างที่มันมีระบบมากมายแบบนี้ แล้วอีอารียาจะทำไงวะ!
"คนรวยนี่ทำไมต้องใช้อะไรที่มันยุ่งยากด้วยนะ" ฉันยืนมองอ่างจากุชชี่ที่มีปุ่มมากมาย ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน ปุ่มมันเยอะแยะไปหมดจนคนฉลาด ๆ แบบฉันไปไม่เป็น ได้แต่ยืนเกาหัวมือเท้าสะเอวอย่างงุนงง "ไม่ลองผิดลองถูกแล้วรู้ได้ไงเนาะยัยรียา" จะให้ฉันเดินออกไปด้วยสภาพนี้เพื่อหาตัวช่วยก็จะกระไรอยู่ เดี๋ยวอีตาแก่หัวงูได้ล้อฉันแน่ ๆ เขายิ่งปากจัดอยู่ด้วย
ฉันเปิดและกดปุ่มที่มันมากมายอย่างคาดเดา กดแม่งให้หมดอันไหนติดก็คงจะเป็นอันนั้นแหละมั้ง พยายามอยู่นานก็ยังไม่เห็นมีน้ำไหลออกจากสักนิด
"มันก็น่าจะเป็นตรงนี้นี่หว่า แล้วทำไม่น้ำมันไม่ออกวะ!....ว้าย!!"
เพล้ง! ด้วยความหงุดหงิดทำให้ฉันจิ้มปุ่มอะไรก็ไม่รู้ และโยกก๊อกที่คิดว่ามันต้องใช่ แต่แล้วมันก็เกินคาด น้ำมากมายพุ่งทะยานอย่างแรงใส่หน้าฉันจนแสบไปหมด เลอะตามพื้นและสุดท้ายฉันที่ตกใจกับการมาของน้ำในก๊อก มันทำให้ฉันลื่นล้มกับพื้น มือก็ไม่รู้ปัดโดนอะไรตกแตก แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกเจ็บร้าวไปถึงแผ่นหลังจนลุกไม่ไหว ไอ้สบู่เหลวกลิ่นหอมกุหลาบก็หกคว่ำขวดแตกกระจาย จนมันเลอะชุ่มไปทั้งตัวของฉัน
"ชะ ช่วยด้วย อ๊ะ!" ฉันที่พยายามจะหยัดตัวลุก ก็ต้องร้องโอดครวญ จะยกคอมองก็ต้องนอนราบกับพื้นอย่างเดิม เหมือนคอจะเคล็ดและขาก็แพลง...รียาผู้หญิงมั่นหน้าอย่างฉันจะมาตายในสภาพนี้ไม่ได้นะ ไม่!! สภาพที่แทบเปลือยโป้ผ้าขนหนูหลุดจากอก นอนหงายขางออย่างทุเรศ
ฉันพยายามยกแขนข้างที่ไม่เจ็บดึงผ้าขนหนูให้ปกคลุมส่วนสงวนไว้ ดึงลงไปปิดให้ได้มากที่สุด
"บ้านก็รวยหาผ้าผืนใหญ่กว่านี้ไม่ได้หรือไงกัน...ปิดบนปิดล่างของฉันแทบไม่มิดอยู่แล้วเนี่ย" ฉันได้แต่นอนบ่น เสียงที่ดังขนาดนี้ทำไมไม่มีใครได้ยินแล้วมาช่วยฉันบ้างล่ะ โอ๊ย! รียานะรียาทำไมต้องมาเจออะไรที่เฮงซวยแบบนี้ตั้งแต่วันแรกที่มามอสโก เพราะนายนั่นที่ทำฉันซวยแบบนี้
"อารียา...อารียาฉันได้ยินเหมือนเสียงของแตก เธอ...!!" เสียงเรียกดังก้องเข้ามา นั่นทำเอาฉันหน้าเสียและเริ่มกังวล เสียงที่คุ้นหูเพิ่งจะฟาดฟันกับฉันไปไม่นาน เขาเข้ามาในนี้ได้ยังไงกัน ทั้งที่ฉันคิดว่าล็อกประตูแล้วนะ
"อย่ามองนะ!" เขาเดินมาหยุดตรงประตูพร้อมสายตาที่จ้องมองมายังฉันที่อยู่แบบหมดสภาพ สายตาเจ้าเล่ห์นั้นจ้องมองฉันไม่วางตา เหมือนเขาตกตะลึงกับฉันที่เป็นตอนนี้ สีหน้าดูหื่นกามอย่างไม่น่าไว้วางใจ "บอกว่าอย่ามองไงเล่า!"
"ไปนอนเล่นอะไรตรงนั้น ทำไมไม่ลงอาบในอ่างดี ๆ อารียา" เขาพูดอย่างยียวนแล้วเดินไปปิดอะไรสักอย่างแถวอ่างน้ำ
"สาบานว่าคุณคิดแบบนั้นจริง ๆ คุณอา"
ดูเขาสิโคตรจะกวนตีนยั่วโมโหฉันเลย คนเจ็บจะตายอยู่แล้วยังมาเอ้อละเหินลอยชายอยู่ได้ ยืนยิ้มไหล่พิงประตูคิดว่าหล่อนักหรือไงวะ ฉันเอือมระอากับผู้ชายตรงหน้าตอนนี้เสียจริง อย่าไม่ติดว่าเจ็บนะ แม่จะฟาดให้จำทำอะไรไม่ถูกเลยเชียว
"อ้าว...ไม่ใช่เหรอ แต่ปากก็ยังดีอยู่นี่ก็นึกว่าอยากลองอาบน้ำแบบใหม่"
"ฉันเจ็บนะคุณ...ยืนพูดมากอยู่ได้ มาช่วยฉันหน่อยเซ่"
เขายังมีหน้ามาพูดเล่น ทั้งที่ฉันเริ่มจะหัวร้อน อายก็อายผ้าขนหนูก็หลุดหลังที่สัมผัสกับกระเบื้องเย็นจนขนลุก อยากจะลุกก็ลุกไม่ไหว ฉันอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีจริง ๆ เลย
"ขอร้องสิแล้วอาจะช่วย" เขายืนมือกอดอกจ้องมาทางฉันด้วยสีหน้ากะล่อน นั่นทำฉันถึงกับขบฟันแน่น อย่าให้ฉันได้เหนือกว่ารับรองเลยว่าจะเอาคืนเขาให้สาสมกับสิ่งที่เขาทำตอนนี้
"ช่วยหน่อยฉันเจ็บ" ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดฟอดใหญ่ ก่อนจะเอ่ยปากขอร้องเขาไป
"พูดหวาน ๆ น่าฟังกว่านี้ น้ำเสียงห้วนแบบนี้ใครจะไปอยากช่วย อีกอย่างอาก็เป็นผู้ปกครองของเธอควรจะเคารพกันมากกว่านี้"
"ทำตัวน่าเคารพตายล่ะ" ฉันพูดเป็นภาษาไทยที่คิดว่าเขาคงไม่เข้าใจแน่ จะให้เคารพลงได้ยังไง ฉันมาวันแรกเขาก็ทำเรื่องบัดสีกลางวันแสก ๆ อย่างน่าไม่อาย
"ว่าอะไรนะ พูดภาษาที่ทำให้อาเข้าใจสิ" เขาย้อนถามด้วยสีหน้างุนงง "งั้นไปละ" เขาตั้งท่าจะเดินจากไป
"เดี๋ยว ๆ ....คุณอาขาช่วยหนูหน่อยนะคะ พอดีว่าหนูลื่นล้มขาแพลงคอเคล็ดลุกไม่ไหว" ฉันรีบเรียกเขารั้งไว้ แล้วตัดสินใจพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วแสนสะอิดสะเอียน ตั้งแต่โตมาจนเรียนจบ ไม่เคยพูดอะไรทำนองนี้สักครั้ง นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่ต้องมาพูดด้วยความออดอ้อนมารยาแบบนี้ มันไม่ใช่อารียาเลยสักนิด
"ค่อยน่าฟังหน่อย...มาครับเดี๋ยวอาช่วยนะ...มองใกล้ ๆ นี่หลานอาก็สวยดีนะ" เขาพูดขึ้นแล้วเดินเข้ามาอุ้มฉันขึ้น สายตาที่เขามองตอนนี้ สายตาที่ดูแล้วมีเสน่ห์แต่คนอย่างฉันไม่หลงเสน่ห์อันแพรวพราวของคนเจ้าชู้หรอกนะ
"ขอบคุณค่ะ...อันนั้นรู้ตัวดี"
"แต่มองอีกทีไม่มองจะดีกว่า"
"นี่! ไอ้เฒ่าหัวงู ไอ้คนปากเสีย ไม่อยากแก่ตายหรือไงห๊ะ"
ความยียวนของเขามันทำเอาฉันหัวร้อนอีกครั้ง ตวาดเสียงดังลั่นด่าเขาเป็นภาษาไทย แต่เขาก็ได้แต่ขมวดคิ้วงุนงงมองหน้าฉันอย่างเป็นคำถาม
"พูดอะไรไม่รู้เรื่อง" ก็ด่านี่นาจะให้พูดแล้วฟังรู้เรื่องเขาก็ด่าฉันคืนสิ จากนั้นเขาก็อุ้มฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้ววางฉันลงบนเตียงดึงผ้าหุมคลุมไว้ให้ แล้วเรียกคนรับใช้เข้ามาดูแลจัดการกับฉัน ก็นึกหวาดหวั่นว่าเขาจะทำอะไร แต่นับว่าดีหน่อยที่เขายังมีความเป็นลูกผู้ชายพอที่จะไม่ฉวยโอกาสกับร่างกายฉัน ทั้งที่ภาพลักษณ์แบดบอยของเขาไม่น่าจะปล่อยให้คนสวย ๆ แบบฉันหลุดลอยไป...