รักร้ายนายเพื่อนรัก (กองทัพ vs ลลิล) 18+

85.0K · จบแล้ว
Summer_M
33
บท
8.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

แนะนำตัวละคร วิรชัช อธิพัฒน์เดชากร (กองทัพ) หล่อ หน้านิ่ง หยิ่ง และโคตรร้าย (ถ้าคืนนั้นผมห้ามใจตัวเองได้มากกว่านี้ คำว่าเพื่อนของเราที่ผมพยายามรักษามาตลอด 3 ปี มันก็จะไม่เปลี่ยนไป) . . . ลลิลทิพย์ ไตรวิชญ์สกุล (ลลิล) สวย เซ็กซี่ เฟรนด์ลี่กับทุกคน (ทั้งๆที่คอยเตือนตัวเองตลอดว่าเขาคือบุคคลที่มีอิทธิพลต่อหัวใจ แต่เพราะคืนนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของฉันและเขาต้องเปลี่ยนไป จากเพื่อนกลายเป็น........)

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันวิศวกรดาวมหาลัยนักศึกษา

ตอนที่ 1 Start

สวัสดีค่ะทุกคน ก่อนอื่นฉันขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ ฉันมีชื่อเล่นว่า "ลลิล" ที่แปลว่า พระจันทร์,ความน่ารัก ส่วนชื่อจริงจริงของฉันคือ ลลิลทิพย์ ไตรวิชญ์กุล

ฉันเป็นคนเชียงรายที่บ้านของฉันทำไร่องุ่นกับไร่ส้ม เนื้อที่ก็ไม่มากเท่าไรก็แค่เกือบเกือบเก้าพันไร่เห็นจะได้และฉันก็ย้ายเข้ามาเรียนที่กรุงเทพตั้งแต่ม.ปลาย จนตอนนี้เรียนอยู่มหาลัยปีสามแล้วค่ะ

ฉันเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวโยธา ที่มหาลัยL อยากจะบอกเหลือเกินว่าสาขานี้มีแต่ผู้ชาย และฉันเองก็มีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายถึงสี่คนด้วยกัน

ซึ่งคนแรกชื่อ อัลฟ่า ไอ้นี่นิสัยชอบเอาแต่ใจและไม่ยอมใคร

คนที่สองชื่อ ภูผา นิสัยก็จะแบดแบดหน่อยแต่เรื่องปากหมานี่ยืนหนึ่งตัวตึงของกลุ่มเลยค่ะ

คนที่สามชื่อ เซน ไอ้คนนี้นิสัยมันกะล่อนแถมยังเจ้าชู้ตัวพ่ออีก

ส่วนคนที่สี่ชื่อ กองทัพ คนนี้ก็จะนิ่งๆ หยิ่งๆ หน่อย แต่ไม่รู้ทำไมหัวใจของฉันถึงหวั่นไหวกับคนแบบนี้ได้ก็ไม่รู้

"ไงพวกมึง วันนี้อาจารย์เลื่อนคลาสเหรอวะ"

จู่ๆ ก็มีเสียงใครบางคนดังขึ้นมา ซึ่งฉันจำเสียงมันได้ดี แล้วพอเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นไอ้เซนมันเดินมาถึงโต๊ะที่พวกฉันนั่งอยู่ ก่อนจะหย่อนตูดมันนั่งลงข้างๆ อัลฟ่า

"เอ่อดิ แม่งกูไม่น่ารีบมาเลย สัส"

อัลฟ่าพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด คือที่มันพูดแบบนั้นก็เพราะวันนี้พวกเรามีเรียนกันตอนบ่ายโมง แต่อาจารย์พึ่งแจ้งเลื่อนคลาสไปเป็นบ่ายสองเพราะแกติดธุระ

"เห้ยพวกมึง คืนนี้ไปผับกูป่ะ รับรองมีแต่สวยๆ เด็ดๆ ทั้งนั้นเลยเว้ย"

เซนพูดขึ้นอีกครั้งหลังจากสิ้นเสียงของอัลฟ่า ไอ้นี่ในสมองมันมีอยู่เรื่องเดียว คงไม่ต้องบอกหรอกเนอะว่าเรื่องอะไร

"ถ้าไม่เด็ดจริง มึงเจอตีนกูนะไอ้เซน" ภูผาที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อยู่ก่อนหน้านี้เงยหน้าขึ้นมาพูดกับเซน ก่อนจะก้มลงไปเล่นโทรศัพท์ของมันต่อ

ไอ้บ้านี่ก็อีกคนเรื่องแบบนี้หละไวจริงจริ๊ง ฉันหละยอมใจ

ว่าแต่สวยๆ เด็ดๆ ของมันนี่เป็นแบบไหนกันนะ แล้วของฉันหละไม่มีให้กระชุ่มกระชวยหัวใจบ้างเลยเหรอ ลองถามมันดูดีกว่า อิอิ พอคิดได้แบบนั้นฉันก็แกล้งถามมันออกไป

"มีผู้หล่อหล่อ กล้ามโตโต ให้ฉันบ้างป่ะ" ฉันส่งยิ้มหวานสไตล์ของฉันไปให้มันพร้อมกับตั้งใจรอฟังคำตอบ

"ถามแบบนี้ ปรึกษาว่าที่ผัวมึงก่อนมั้ยลิล" อ่าวไอ้นี่มาผัวบ้าผัวบออะไรของมันตรงนี้ แล้วทำไมมันต้องพยักพเยิดหน้าไปทางกองทัพด้วยวะ >0<

ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก!

จู่ๆ หัวใจของฉันก็เต้นแรงขึ้นมาอีกแล้ว เอาไงดีพวกมันจะได้ยินหรือเปล่านะ

"ไหนใครว่าที่ผัวกู ไม่มี้" ฉันรีบตอบมันออกไป แล้วทำไมต้องทำเสียงสูงด้วยวะไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน >///<

"หึ"

ขวับ!! ฉันรีบหันไปมองที่มาของเสียงก่อนจะพบว่ากองทัพนั่งจ้องหน้าฉันอยู่

เอ่ออออ O///O

แล้วทำไมต้องจ้องขนาดนี้ด้วยเนี้ย ฉันรีบหันหน้าไปทางอื่นทันที ไอ้หัวใจบ้านี่ก็เต้นอยู่ได้ บ้าจริง

ตอนนี้ผมกำลังนั่งมองร่างบางที่กำลังพูดคุยด้วยเสียงเจื้อยแจ้วอยู่กับพวกไอ้เซน คือผมเริ่มมองเธอตั้งแต่ที่เธอพูดประโยคเมื่อกี้ออกมา เป็นสาวเป็นนางทำไมต้องถามถึงผู้ชายด้วยวะ

และตอนนี้เธอก็เหมือนจะรู้ว่าผมกำลังจ้องเธออยู่ เพราะเมื่อกี้เธอหันมามองทางผม ก่อนจะรีบหันหน้าไปทางอื่น ไอ้อาการประหม่าแบบนี้ผมดูไม่ออกเลย (ประชด) และก่อนที่ใครจะได้พูดอะไรเสียงไอ้เซนก็ดังขึ้นอีกครั้ง

"เอาที่มึงสบายใจเลยครับคนสวย แล้วสรุปยังไงจะไปป่ะ นี่กูคัดแบบสวยๆ เด็ดๆ มาให้พวกมึงจริงๆ นะเว้ย"

"ไป/ไปดิ/กูไป/อืม" พวกผมตอบไอ้เซนไปพร้อมกัน

"ว่าแต่จะสวยแค่ไหนกันวะ เพราะสวยกว่าดารากูก็ฟันมาแล้วเหอะ"

"ฟันแล้วทิ้งว่างั้น สันดานมึงนี่ไม่เคยเปลี่ยนเลย"

ไอ้ผาที่ก้มหน้าก้มตาเล่นแต่โทรศัพท์อยู่เงยหน้าขึ้นมาพูดอีกครั้ง ก่อนที่ลลิลจะพูดอีกประโยคตาม แล้วเธอจะไปยุ่งกับมันทำไม

"มึงอยากโดนกูฟันป่ะ เดี๋ยวจัดให้ จะเอาท่าไหนบอกภูผาคนนี้มาเลย"

สัสผา คนนี้ของกูโว้ยยย ผมได้แต่ตะโกนอยู่ในใจ เพราะจะให้ผมพูดออกไปตรงๆ มันก็คงจะไม่ได้ ในเมื่อผมกับลลิลเราเป็นแค่เพื่อนกัน เพื่อนที่ผมพยายามรักษาระยะห่างมาตลอด

"ไอ้หน้าผา กูเพื่อนมึงป่ะ เชี่ย"

"เอ้า กูก็นึกว่ามึงอยากจะลองเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนมาเป็นเมียกูซะอีก แล้วกูก็ชื่อ ภูผา ครับ เมียของเพื่อน"

ไอ้นี่กวนตีนอีกละ ผมรู้หรอกนะว่ามันกำลังแกล้งผมอยู่ คือทุกคนในกลุ่มต่างก็รู้แหละครับว่าผมกับลลิลต่างก็มีใจให้กัน เพียงแค่เราสองคนนั้นมีคำว่า เพื่อน คั่นอยู่ตรงกลาง

"บ้านป้ามึงดิ ไอ้หน้าผา"

"โอ๊ย! เจ็บนะโว้ย มึงฟาดมาได้ แขนกูแดงหมดแล้ว”

ผมได้แต่นั่งมองเพื่อนสองคนทะเลาะกัน นี่ก็ไม่เข้าใจโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงอยู่ละ ยังชอบทะเลาะกันเป็นเด็ก

เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!!

“นี่แหนะ นี่แหนะ นี่แหนะ จะฟาดให้แขนหักเลย” ลลิลที่หยิบหนังสือขึ้นมาฟาดใส่ไอ้ผา ก็ยังฟาดไม่ยอมหยุด

“ยัยลิล ถ้ายังไม่หยุดเดี๋ยวกูจับกดลงโต๊ะนะ"

“กล้าก็ลองดิ” ก่อนที่ไอ้ผามันจะทำอย่างที่มันพูดจริงๆ ผมก็ใช้เท้าผมถีบไปที่โต๊ะจนเกิดเสียงดัง จนทำให้ทุกคนต่างหันมามองผมเป็นตาเดียว

"โทษที ส้นตีนกูกระตุก" ผมพูดออกไปแค่นั้นพร้อมกับจ้องมองเพื่อนทั้งสองคนที่เอาแต่ทะเลาะกันก่อนหน้านี้ แล้วดูหน้าของแต่ละคนสิ หึ

O_O ลลิล

O///O อัลฟ่า

O_O เซน

:) ภูผา

หลังจากนั้นพวกมันก็ไม่มีใครพูดอะไรกันอีกเลย เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์กัน ส่วนลลิลก็นั่งยิ้มให้กับหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองอยู่เช่นกัน มันมีอะไรนักหนาวะ เห็นแล้วก็หงุดหงิดชิบ

และไม่นานพวกเราก็พากันขึ้นเรียนตามเวลาที่อาจารย์นัด พอเรียนเสร็จพวกเราก็แยกย้ายกันกลับ แต่ก่อนที่ผมจะเดินไปที่รถผมก็หันไปพูดกับลลิลก่อน

"ลิล คืนนี้เดี๋ยวฉับไปรับนะ พอดีจะไปทำธุระแถวคอนโดเธอพอดี"

ผมเอ่ยบอกร่างบางออกไป คือความจริงก็ไม่ได้ไปทำธุระอะไรหรอกครับ แค่อยากไปรับเธอในฐานะ เพื่อนรัก ก็แค่นั้นเอง

"อืม ดีเหมือนกันฉันขี้เกียจขับรถอยู่พอดี งั้นเจอกันคืนนี้นะ"

พูดจบเธอก็เดินไปที่รถของเธอก่อนจะขับรถออกไป กับผมเธอไม่เคยขึ้นไอ้ขึ้นมึงเลย ส่วนมากเธอจะแทนตัวเองว่าฉัน แล้วเรียกผมว่านายมากกว่า

จะว่าไปตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาผมก็พยายามรักษาระยะห่างของเราสองคนเอาไว้นะ เพราะผมรู้ว่าเธอคิดยังไงและผมรู้สึกยังไง ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะดีกับเราทั้งสองคน

แต่ไม่รู้ทำไมเวลาที่ผมเห็นเธอยิ้มหรือพูดคุยกับผู้ชายคนไหนที่ไม่ใช่ผม ผมกลับรู้สึกหงุดหงิดและไม่ชอบใจเอามากๆ เลย หรือว่าผมควรจะทำตามหัวใจของตัวเองซะที