รักร้ายท่านประธานจอมโหด

63.0K · จบแล้ว
น้ำผึ้งสีเลือด
57
บท
16.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

มฤคินทร์ หรือ มิกซ์ อายุ 30 ปี ประธานบริษัทนำเข้าเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ นิสัย ใจเย็น นิ่งแต่โหด พูดจาดูดี แต่ร้อนแรง หทัยพัชร์ หรือ ต้นหอม อายุ 25 ปี เป็นเลขาสาวของมิกซ์ ที่ใครๆ ก็มองว่าเธอเป็นเด็กขายของประธานบริษัท นิสัยดี เรียบร้อยแต่ไม่อ่อนหวาน แต่ก็ไม่ห้าว อยู่กลางๆ ขึ้นอยู่กับว่าคนที่เข้าหาเธอเป็นคนประเภทไหน

นิยายรักโรแมนติกประธานคนต่ำต้อยพลิกชีวิตรักหวานๆสัญญาทางรักรักแรกพบเศรษฐีโรงแรม/มหาลัย18+

01 ประธานปากร้าย

บริษัทMM

ฉันเดินเข้าไปในบริษัทที่มาสมัครงานทิ้งเอาไว้เมื่อหลายวันก่อน ตอนแรกฉันก็ไม่คิดหรอกว่าฉันจะได้เข้าทำงานในบริษัทใหญ่ๆ ฉันสมัครไว้หลายที่ เพื่อเป็นทางเลือกถ้าบริษัทไหนไม่รับฉันเข้าทำงานก็ยังมีบริษัทอื่นอีกที่ยังพอมีหวัง

จนกระทั่งได้รับอีเมลแจ้งให้ฉันมาสัมภาษณ์งานที่บริษัทนี้กับผู้บริหารใหญ่ มันเป็นเรื่องที่ท้าทายและตื่นเต้นสำหรับฉันมาก ฉันกลัวว่าจะสัมภาษณ์ไม่สำเร็จ ไม่รู้ด้วยว่าประธานบริษัทเป็นใครผู้หญิงหรือผู้ชายแก่แล้วหรือว่ายังเป็นวัยกลางคนอยู่

และคนที่มาสัมภาษณ์งานในวันนี้ก็ไม่ได้มีแค่ฉันเพียงคนเดียว และก็แน่นอนเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ฉันจะผ่านด่านตรงนี้ไปได้ แต่ยังไงฉันก็จะทำให้ดีที่สุด

นักศึกษาที่มารับการสัมภาษณ์งานทุกคนทางทยอยการเข้าไปและพากันเดินคอตกออกมา สภาพแบบนี้ฉันคิดว่าคงสอบสัมภาษณ์ไม่ผ่านชัวร์

ทั้งสวยและการแต่งตัวดีขนาดนี้ยังไม่ผ่าน ฉันที่แต่งตัวธรรมดาหน้าตาไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมายจะผ่านได้ไง

"คนสุดท้ายเชิญได้เลยครับ"

"...." ฉันสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด พร้อมกับพ่นออกมายาวๆ ผ่อนคลายอารมณ์ของตัวเองไม่ให้รู้สึกกดดัน ก่อนจะลุกขึ้นถือแฟ้มเอกสารเดินเข้าไปในห้องเย็นเฉียบ

"สวัสดีค่ะ"

"นั่งลงสิฉันไม่ชอบคนยืนค้ำหัว"

"ค่ะ" หัวใจของฉันมันเต้นตุบตับแรงมาก แค่เขาพูดออกมาประโยคเดียวฉันก็พอจะเดาออกแล้วว่าทำไมคนที่เข้ามาสัมภาษณ์ก่อนหน้าฉันถึงได้คอตกเดินออกมากัน

"ชื่ออะไร?"

"หทัยพัชร์ค่ะ"

"ชื่อเล่น"

"ต้นหอมค่ะ"

"ทำไมถึงอยากทำงานที่บริษัทนี้"

"เอ่อ...ไม่ได้คิดว่าจะได้เข้ามาทำค่ะแค่สมัครทิ้งไว้ แต่ถ้าได้เข้ามาทำก็ดีค่ะ"

"เธอต้องการเงินเดือนเท่าไหร่"

"คะ?" ฉันมองหน้าผู้ชายที่หน้าตาหล่อมากๆ อย่างงงๆ เรื่องเงินเดือนมันขึ้นอยู่กับบริษัทจะจ่ายให้ไม่ใช่เหรอ มาถามกันแบบนี้ฉันจะไปบอกได้ยังไง

"เงินเดือนขั้นต่ำที่เธอต้องการคือเท่าไหร่"

"เอ่อสองหมื่นค่ะ"

"แล้วรู้หรือเปล่าว่าการที่จะเข้ามาทำงานในบริษัทนี้ต้องมีสปิริตในการทำงานพอตัวเลยฉันไม่ชอบคนทำงานพลาด และก็ไม่ชอบคนที่ไม่มีความรับผิดชอบกับหน้าที่ของตัวเอง"

"ทราบค่ะ ฉันอ่านตรงใบกรอกสมัครเรียบร้อยแล้วค่ะ"

"ก็ดี.."

"...." ฉันอยากจะถอนหายใจออกมาแรงๆ แต่ก็ทำได้เพียงค่อยๆ พ่นลมหายใจออกมา เขาหล่อมากนะดูเหมือนว่าฉันจะเคยเห็นหน้าเขาที่ไหนมาแล้วหรืออาจจะแค่คนหน้าคล้าย แต่ที่แน่ๆ เลยเขาเย็นชาจนน่ากลัวมาก ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย ความมาดเข้มการวางตัวต่อหน้าคนอื่นมันเยือกเย็นจนฉันไม่กล้าขยับตัว

"ตกลงฉันรับเธอเข้าทำงาน"

"คะ? ระ รับฉันเข้าทำงานแล้วหรอคะ" ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะผ่านการสัมภาษณ์แบบผ่านฉลุยแบบนี้ เขาถามฉันไปไม่กี่คำเอง

"ใช่ ฉันรับเธอเข้าทำงานแล้ว พรุ่งนี้มาทำงานเป็นวันแรกห้ามสายเด็ดขาด แต่งตัวให้เรียบร้อย เพราะที่นี่เป็นบริษัทไม่ใช่สถานที่ขายบริการที่จะได้แต่งตัวโป๊ๆ เดินโชว์สายตาใคร"

"....."

อื้อหือ....แรง แรงมาก ฉันไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนปากร้ายเท่าเขามาก่อนเลย ใครกันจะไปแต่งตัวโป๊โชว์สายตาใครขนาดนั้น อีกอย่างต่อให้เขาไม่บอกฉันก็รู้กาลเทศะอยู่

"ค่ะ"

"พรุ่งนี้ เจ็ดโมงครึ่ง เธอต้องเอาเอกสารบนโต๊ะทำงานของผู้จัดการขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะทำงานของฉันให้เรียบร้อยก่อนที่ฉันจะมาถึง เตรียมกาแฟไว้ให้ฉันครีมหนึ่งน้ำตาลสองก้อน"

"ถ้าสมมุติว่ารถมันติดแล้วฉันมาไม่ทันเลทนิดนึงได้หรือเปล่าคะ" เอาจริงๆ ฉันก็ไม่ได้อยากต่อรองแบบนี้หรอกแต่ฉันกลัวว่าจะมาไม่ทันจริงๆ เนี่ยแหละ ตอนเช้าๆ รถติดจะตาย จากคอนโดของฉันมาจนถึงที่ทำงานยังไงก็ต้องได้ขึ้นรถแท็กซี่อยู่แล้ว ถ้าจะเดินมาฉันคงได้สลบก่อนที่จะถึงบริษัท

"งั้นเธอก็ควรตื่นให้เช้ากว่านี้มาให้เร็วกว่านี้เผื่อเวลาให้รถติดด้วย ไม่ใช่มาขอเลทเวลากับฉันเพราะฉันไม่ชอบคนไม่ตรงต่อเวลา ถ้าคิดจะทำงานที่นี่ก็ต้องรู้จักรักษาเวลาให้เป็น หวังว่าจะเข้าใจที่ฉันพูดนะ"

"ค่ะ ฉันจะพยายามตื่นให้เช้าและมาให้เร็วกว่านี้ค่ะ"

"เชิญ ฉันสัมภาษณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว"

"ค่ะ"

ฉันเดินออกมาจากห้องพร้อมกับถอนหายใจอย่างแรงเมื่อหลุดพ้นมาจากความรู้สึกที่แสนจะอึดอัดแล้ว

เขาเป็นผู้ชายที่ปากร้ายที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยฉันไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนพูดจาแบบนี้กับผู้หญิงมาก่อนเลย

จะว่าไปหน้าตาของผู้ชายคนนี้ก็คุ้นเหมือนกันนะเหมือนฉันเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน แต่จะว่าไปคนหน้าตาเหมือนกันก็มีตั้งเยอะแยะมากมายเขาก็คงจะเป็นผู้ชายคนนึงที่หน้าตาเหมือนใครสักคน หรือเราสองคนอาจจะเคยเดินผ่านกันแล้วฉันก็จำเขาได้

"ฉันพยายามแล้วนะแก ฉันพยายามอ่อยทุกทางแล้วแต่ดูเหมือนเจ้าของบริษัทคนนี้จะไม่หลงกลฉันเลย อุตส่าห์งัดไม้เด็ดทุกทางออกมาใช้แล้วเสียดายชะมัดเลย"

"....." ฉันหยุดนิ่งเมื่อได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนึงที่ดูเหมือนกำลังคุยกับใครบางคนอยู่ ก่อนจะชะโงกหน้าไปมองแล้วก็ได้เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นคือคนที่เข้าไปสมัครก่อนหน้าฉันแล้วเดินคอตกออกมาเพราะน่าจะไม่ผ่านการทดสอบ

"คนเราบางคนนี่ก็โง่เหมือนกันนะ อุตส่าห์เอาไปประเคนให้ถึงที่แล้วกลับไม่สนใจ"

"...." ฉันยกมือขึ้นปิดปากตัวเองถ้าเดาไม่ผิดผู้หญิงคนนี้กำลังจะใช้ร่างกายแลกเพื่อให้ได้เข้าทำงานสินะ เพราะฉันก็เคยได้ยินข่าวเรื่องการทุจริตแบบนี้มาเหมือนกัน ซึ่งก็มีบริษัทหลายบริษัทเป็นแบบนี้

บางคนโดนจับได้สุดท้ายก็โดนไล่ออกจากมหาลัย สมัครเข้าทำงานที่ไหนก็ยากเพราะไม่ผ่านการฝึกงานมาก่อน

"หึ้ย!! หงุดหงิดเป็นบ้า! มองอะไร ไม่เคยเห็นคนหงุดหงิดหรือไง!" จู่ๆ เธอก็หันมาหงุดหงิดใส่ฉันทั้งๆ ที่ฉันยืนอยู่นิ่งๆ โดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่มองหน้าก็ไม่ได้หรือไง แค่นี้ก็จะหาเรื่องกันแล้วเหรอ

"ประสาทแดกจริงๆ!" ฉันพูดขึ้นเบาๆ หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นเดินออกไปแล้ว