รักนี้...ไม่จำกัดนิยาม

84.0K · จบแล้ว
หลงเวลา
53
บท
221
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

แบม ภูวดล หนุ่มฮอตของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง สาวๆชอบผู้ชายแบบเขา ใครก็มองว่าเขาเพอร์เฟค นอกจากหล่อแล้ว เขาเป็นทั้งเด็กเรียนดี เป็นนักกีฬาที่โดดเด่น แต่เขาไม่ชอบให้ผู้ชายหรือผู้หญิงคนไหนสัมผัสร่างกายนอกจากเธอคนเดียว จีน่า เจนจิรา สาวสวยลูกครึ่งเยอรมัน เพื่อนสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน ทั้งสองรู้ความลับลึกๆของกันและกันต่างช่วยกันปกป้องเอาไว้จวบจนในปีสุดท้ายของการเล่าเรียนที่โรงเรียนมัธยมแห่งนี้มีใครบางคนเข้ามาทำให้แบม ภูวดลค่อยๆเปิดเผยตัวตนออกมา กราฟ กาลัญญู หนุ่มหล่อที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลา ติดทะเล้น แน่นอนว่าสาวๆชอบเขา แต่เขากลับไปสนใจเพื่อนในห้องที่โดดเด่นทั้งหน้าตา การเรียนและกีฬา ตอนแรกก็เข้าใจว่าชอบแบบเพื่อน พยายามปฏิเสธใจตนเอง แต่พอนานวันเข้าความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายก็เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งอีกฝ่ายไม่ชอบให้สัมผัสเขายิ่งล้วงลึก...จนได้รู้ความลับ แต่กลับเป็นฝ่ายถอนตัวออกมาไม่ขึ้นเพราะหัวใจแอบมอบให้เขาไปทั้งๆที่ไม่ควร.....  เรื่องราวความรักของเด็กหนุ่มทั้งสองคนจะลงเอยอย่างไร  ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้กราฟและแบมด้วยนะคะ

นิยายรักโรแมนติกนิยายปัจจุบันโรงแรม/มหาลัยโรแมนติกนักศึกษาเด็กเรียนฟินๆ

ตอนที่ 1 หนุ่มฮอตของโรงเรียน

"กรี๊ด..... พี่แบมสู้ๆ พี่แบมสู้ๆ"

เสียงเชียร์ดังขึ้นมาไม่ขาดสายจากรอบๆสนามบาสเกตบอลของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง วันนี้มีการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลระดับเขต แน่นอนว่าทีมของโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ต้องเจอกับคู่แข่งจากต่างโรงเรียน

เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นมาไม่ใช่เพราะว่ากีฬามันน่าสนุก หรือน่าสนใจ แต่เป็นตัวนักกีฬาต่างหากที่น่าสนใจ ร่างสูงโปร่งที่มีผิวขาวราวกับน้ำนมกำลังวิ่งเลี้ยงลูกไปใกล้ห่วง

จากนั้นเขาก็กระโดดสูงชู๊ตลูกบาสเข้าไปในห่วงได้อย่างแม่นยำ เสียงกรี๊ดพร้อมกับเสียงปรบมือดังขึ้นเพราะลูกนี้คือลูกตัดสินของการแข่งขันในวันนี้แล้ว

"แบม มึงนี่เก่งว่ะ"

เพื่อนในทีมเดินมาจะตบบ่าหนา แต่ทว่าชายหนุ่มหน้าหล่อกลับเบี่ยงกายหนี ใครๆก็รู้ว่านักบาสหน้าหล่อแถมฝีมือดีคนนี้ไม่ชอบให้ใครมาสัมผัสร่างกาย โดยเฉพาะพวกผู้ชายด้วยกัน

แบม ภูวดลเป็นนักกีฬาและนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน สาวๆต่างชื่นชอบและชื่นชม หรือแม้แต่พวกผู้ชายเหมือนกันแบม หรือภูวดล ปรีชารักษ์ก็สามารถทำให้หวั่นไหวไปกับเขาได้

"อืม...มึงก็เก่ง"

ชายหนุ่มเอ่ยออกมาก่อนที่จะเดินไปที่ข้างสนามที่มีเพื่อนสนิทคนสวยรออยู่ ใครๆก็บอกว่าเขาและเธอเป็นแฟนกันแต่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย

"เหนื่อยไหม"

มือบางยื่นผ้ามาเช็ดหน้าให้เพื่อนสนิท แบม ภูวดลไม่หลบเหมือนกับตอนที่เพื่อนนักบาสในทีมมาตบบ่า เธอเป็นคนเดียวที่สามารถสัมผัสร่างกายเขาได้

เสียงกรี๊ดดังขึ้นเมื่อจีน่า เจนจิราใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อที่บนใบหน้าหล่อเหลาของนักบาสหนุ่มที่สาวๆยกให้เป็นหนุ่มฮอตของรุ่นมัธยมศึกษาปีที่หก

"ฮอตตลอด"

ตั้ม อนุพงษ์ เพื่อนที่สนิทกับแบมอีกคนเอ่ยแซวขึ้น

"ฮอตขนาดนี้อย่าแย่งจีน่าของกูไปจริงๆก็พอ กูแค่ให้ยืมควง"

"อยากโดนตบให้ปากฉีกหรือไง ใครเป็นของนาย ฉันมีแบมคนเดียวก็พอแล้วย่ะ"

จีน่า สาวสวยลูกครึ่งเยอรมันเอ่ยขึ้นก่อนที่จะจูงมือแบม ภูวดลเดินออกจากสนามไปท่ามกลางสายตาอิจฉาจากสาวๆ หนุ่มๆเองก็อิจฉาหนุ่มฮอตของโรงเรียนไม่น้อย

ถ้าแบม ภูวดลเป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียน เช่นนั้นฝ่ายหญิงก็คงไม่พ้นจีน่า เจนจิรา ริกเตอร์คนนี้ ตั้ม อนุพงษ์หัวเราะออกมาก่อนที่จะวิ่งตามเพื่อนทั้งสองไป

หนุ่มหล่อต่างโรงเรียนที่มาดูการแข่งขันในวันนี้ด้วยมองตามนักกีฬาที่ทำผลงานได้โดดเด่นในเกมวันนี้ไปอย่างสนใจ ดูๆแล้วเขากับนายหน้าหล่อคนนั้นคงจะได้พบกันในไม่ช้า

สายตาคมมองตามสองหนุ่มกับหนึ่งสาวไปอย่างสนใจ แต่ทว่าคนที่เขาให้ความสนใจและรู้สึกสนใจจริงๆคือไอ้หนุ่มนักกีฬาหน้าหล่อนั่นต่างหากหาใช่สาวสวยที่ดูเหมือนจะเป็นแฟนของนายคนนั้นเหมือนที่เพื่อนเขาเข้าใจ

"ชอบคนนั้นหรอวะ ไม่ต้องหวังหรอก เพราะคนที่เธอเช็ดหน้าให้น่ะ เป็นแฟนของเธอ โรงเรียนนี้ดีว่ะ มีเทวดากับนางฟ้าบนดินเรียนอยู่ด้วย พอกลับไปดูโรงเรียนเรามีแต่มึงนี่แหละมั้งที่หน้าตาดีอยู่คนเดียวหึๆ"

บอส ภาณุเอ่ยออกมาทันทีที่เห็นสายตาของเพื่อนกำลังมองตามสาวสวยที่เพิ่งเดินจับมือกับนักกีฬาตัวเต็งของทีมที่เพิ่งแข่งขันจบไป

แต่บอสหารู้ไม่ว่าคนในสายตาของเพื่อนสนิทคือนักกีฬาที่ชอบทำหน้าเย็นชาคนนั้นต่างหาก เขาอยากได้คนนั้นเป็นเพื่อนและเขาจะต้องได้เป็น

สองหนุ่มสาวเดินจูงมือกันมาจนถึงรถรับส่งของที่บ้าน วันนี้ครอบครัวปรีชารักษ์ส่งคนขับรถมารอรับบุตรชายคนเล็กกลับบ้านและแน่นอนว่าครอบครัวริกเตอร์ที่เป็นทั้งเพื่อนบ้านและเพื่อนสนิทก็ให้บุตรสาวคนโตกลับไปพร้อมกัน

แบม ภูวดลทำหน้าที่เป็นสุภาพบุรุษกับเพื่อนสนิทเสมอ ทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ต่างคนต่างรู้ความชอบและตัวตนของกันและกัน

“ร้อนไหมครับคุณหนู”

คนขับรถเอ่ยถามเจ้านายน้อยของบ้าน

ครอบครัวของปรีชารักษ์มีทายาททั้งหมดสามคนคือ บอม ภูวนาถ บี๋ พิชสินีย์ และคนสุดท้ายคือ แบม ภูวดล พี่คนโตเรียนจบปริญญาโทเมื่อปีก่อนจะมีก็แต่พี่คนกลาง และน้องคนเล็กที่ยังเรียนอยู่

“เย็นแล้วครับลุงโชติ”

เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ

ถึงลุงโชติจะเป็นเพียงคนขับรถ แบม ภูวดลหรือแม้แต่คนในบ้านก็ไม่เคยมีใครดูถูกแก ทุกอาชีพมีเกียรติและศักดิ์ศรี ตราบใดที่งานนั้นเป็นงานที่ทำอย่างสุจริต

“ลุงโชติขา.... พาจีน่าแวะร้านไอติมหน่อยได้ไหมคะ จีน่าร้อนข้างใน”

ความต้องการของคุณหนูใหญ่ของครอบครัวริกเตอร์ลุงโชติย่อมไม่ขัด ชายวัยกลางคนฉีกยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าคุณหนูเล็กก็ไม่ขัดใจหญิงสาวข้างๆเช่นกัน

รถตู้คันหรูขับเคลื่อนมาจอดที่หน้าร้านไอศกรีมที่ตกแต่งได้อย่างน่ารัก มือบางกุมมือหนาให้ลงไปจากรถด้วยกัน แบม ภูวดลไม่อิดออด เขาตามเพื่อนสนิทไปแต่โดยดี และเขาก็รู้ดีว่าทำไมเธอถึงอยากมาร้านนี้ เพราะนอกจากไอศกรีมแล้วคงจะมีเจ้าของร้านนี่แหละที่ดึงดูดให้จีน่าติดอกติดใจ

“สวัสดีค่ะ ไอซ์สวีท ยินดีต้อนรับค่ะ”

เสียงห้าวหวานเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ส่งมาให้สองหนุ่มสาวซึ่งนับได้ว่าเป็นลูกค้าประจำของร้านไอศกรีมร้านนี้เลยก็ว่าได้

“พี่ไอซ์...มีอะไรแนะนำเราสองคนไหมคะ”

เสียงหวานเอ่ยถามพร้อมส่งสายตาวิบวับไปให้รุ่นพี่สาวที่พอเรียนจบก็หันมาเปิดร้านไอศกรีมและขนมหวานตามความชอบส่วนตัว

“พี่ว่าเราสองคนมาบ่อยเกิน พี่คิดเมนูไม่ทันแล้วค่ะ”

แบม ภูวดลถึงกับหัวเราะออกมากับคำพูดของรุ่นพี่

ก็มันคือเรื่องจริง จีน่าเพื่อนของเขานั้นแวะมาร้านนี้ทุกวันหลังเลิกเรียน ไม่ว่าจะอากาศร้อน หนาว หรือฝนตก จีน่าก็มาอุดหนุนจนชิมขนม ไอศกรีม หรือแม้แต่เมนูน้ำไปหมดทุกเมนูแล้ว

“หัวเราะอะไร”

เสียงหวานดังขึ้นพร้อมสายตาดุๆส่งมา ชายหนุ่มถึงกับกลั้นขำเอาไว้เพราะกลัวเพื่อนโกรธ

“เอาเหมือนเมื่อวานก็ได้ค่ะ”

ก่อนที่จะหันไปสั่งเมนูที่ต้องการด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างจากถามเพื่อนสนิท แบม ภูวดลถึงกับมองบน

ระหว่างที่สองหนุ่มสาวกำลังนั่งรอเมนูที่สั่งไปก็มีนักเรียนรุ่นน้องโรงเรียนเดียวกันเข้ามาภายในร้าน สาวๆที่เพิ่งเข้ามาแทบจะกรีดร้องออกมาเมื่อพบว่าใครกำลังนั่งอยู่

สาวๆเดินเข้าทักทายรุ่นพี่ก่อนที่จะขอถ่ายภาพด้วยโดยให้พี่สาวคนสวยเป็นผู้ถ่ายให้ แบม ภูวดลอยากจะปฏิเสธเพราะเขาไม่อยากเป็นคนเด่นหรือคนดังอะไร แต่ทว่าสายตาของเพื่อนสนิทที่มองมาทำให้เขายอมถ่ายรูปกับพวกน้องๆแต่โดยดี

‘หล่อเวอร์ แกดูดิ หน้านี่อย่างขาว’

‘กลิ่นเหงื่อไม่มีเลย ขนาดเพิ่งแข่งบาสมานะเนี่ย’

‘หน้าใสกว่าก้นเด็กอีก พี่แบมใช้ครีมอะไรวะ’

‘ใดๆคืออิจฉาพี่จีน่าเวอร์ เมื่อกี้ฉันโดนตัวพี่เค้า โอ้โห...โคตรแน่น’

และคำพูดเหล่านี้ก็หลุดออกมาจากปากสาวๆรุ่นน้อง แบม ภูวดลเป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียน แน่นอนว่าเขาย่อมเป็นที่สนใจของบรรดาสาวๆ

แม้แต่พวกผู้ชายด้วยกันก็ยังอยากจะสัมผัสร่างกายของแบม ภูวดลสักครั้ง เขาไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อแบบใสๆ แต่เขาดูหล่อแบบน่าค้นหา

“ฮอตจริงๆเลยเนี่ย ขนาดมากินไอติมร้านไกลโรงเรียนขนาดนี้ยังมีรุ่นน้องมาเจอได้อีก”

จีน่าเอ่ยแซวเพื่อนสนิทที่กำลังจะตักไอศกรีมใส่ปาก

“หึๆ คิดว่าฉันอยากจะฮอตหรือไง มันเป็นไปตามธรรมชาติต่างหาก ว่าแต่ฉัน เธอเองก็เหมือนกันแหละจีน่า แม่สาวฮอตของโรงเรียน”

คนที่เพิ่งตักไอศกรีมเข้าปากตอบกลับเพื่อนสนิท เขาก็พยายามที่จะทำตัวไม่ให้เด่นแล้ว แต่มันก็เป็นไปตามธรรมชาติ

“หนุ่มฮอตสาวฮอต เหมาะสมกันดีนะคะ”

เจ้าของร้านที่นำขนมมาเสิร์ฟถึงกับเอ่ยแซว สองหนุ่มสาวยิ้มแหยๆออกมา จะเหมาะสมกันได้อย่างไรก็ในเมื่อเขาและเธอไม่ได้ชอบกันเอง

ร่างสูงโปร่งสาวเท้าเดินเข้าไปในบ้านหลังโต ครอบครัวปรีชารักษ์นั้นมีอาชีพเป็นหมอและเจ้าของบริษัทยา โดยบิดาเป็นประธานบริษัท พีมาร์ฟามาซีซูติคอล จำกัด และมารดาเป็นศัลยแพทย์ทรวงอกอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯ

พี่ชายกำลังเข้ารับช่วงต่อแทนบิดาตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเรียนรู้และฝึกงาน ส่วนพี่สาวคนกลางเรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์ปีสองที่มหาวิทยาลัยชื่อดังอีกทั้งกำลังกลายเป็นนักแสดงหน้าใหม่ของวงการบันเทิงเพราะมีความสวยและความสามารถที่โดดเด่น ส่วนตัวเขาก็กำลังจะเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในอีกหนึ่งภาคเรียนข้างหน้า

“พี่บี๋... ไม่ไปเรียนหรือครับ”

เด็กหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้าไปภายในบ้านเจอพี่สาวนั่งอ่านบางสิ่งบางอย่างอยู่ภายในห้องนั่งเล่น

“ไปมาแล้ว กำลังอ่านบทละครอยู่”

บี๋ หรือพิชสินีย์ ปรีชารักษ์ พี่สาวคนกลางตอบผู้เป็นน้องชายคนเล็กของบ้าน

“ได้แสดงแล้วหรอ”

เสียงทุ้มเอ่ยถามออกมาอย่างตื่นเต้น

“อืม... อย่าลืมพาน้องๆที่โรงเรียนมาเป็นแฟนคลับให้พี่ด้วย”

ว่าที่นักแสดงสาวฉีกยิ้ม ก่อนที่จะบอกน้องชาย

“หึ! ได้สิ ว่าแต่เล่นบทอะไร” เขาเดินไปนั่งลงข้างๆ

“ทำไม... สนใจหรอ แต่พี่ว่า... ว่าที่คุณหมออย่างนายไม่น่าจะสนใจเส้นทางสายบันเทิงนะ”

ใช่สิ... เขามีความสนใจที่จะเรียนแพทย์ และต้องเป็นศัลยแพทย์หัวใจเท่านั้น สมัยเด็กๆเขามีปมเกี่ยวกับเด็กน้อยคนหนึ่งอายุน่าจะอ่อนกว่าเขาไปถึงสองปี ตอนนั้นเขาเพิ่งจะอายุเจ็ดขวบและได้ติดตามมารดาไปทำงานที่โรงพยาบาล

เขาได้รู้จักเด็กคนนั้นเพราะเป็นคนไข้ของโรงพยาบาล เด็กน้อยมารักษาโรคลิ้นหัวใจรั่ว และเสียชีวิตหลังจากที่เขารู้จักได้เพียงสามวัน เขารู้สึกสงสารคนที่ป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจ

เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ในประเทศมีน้อย เขาจึงอยากเป็นอีกหนึ่งกำลังที่จะช่วยดูแลรักษาชีวิตของคนที่กำลังสิ้นหวังด้วยโรคเกี่ยวกับหัวใจในอนาคต

“พี่ก็รู้คำตอบของผมอยู่...แล้วจะถามผมทำไม ขอตัวขึ้นห้องก่อน เหนียวตัว วันนี้แข่งบาสมา”

แบม ภูวดลบอกก่อนที่จะเดินจากไป บี๋ พิชสินีย์เข้าใจดีว่าถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจน้องชายของเธอให้เลือกเดินบนเส้นทางอื่นได้ เพราะความเป็นหมอมันอยู่ในสายเลือด

ในเมื่อทั้งเธอและพี่ชายไม่มีใครได้มารดา ก็คงจะมีน้องชายนี่แหละที่รับช่วงต่อ เธอเลิกสนใจน้องชายแล้วหันมาสนใจบทละครที่เพิ่งได้รับมา เธอเพิ่งจะเข้าวงการจึงต้องพยายามให้มากกว่าใคร