ตอนที่ 1 ขโมยจูบแรกของเขา
ตอนที่ 1 ขโมยจูบแรกของเขา
แขนที่อุ่นกว่าก็ยกไปคล้องคอเขาไว้แน่น
แขนที่อ่อนนุ่มรวบเข้าหากันทันที แล้วก็จูบลงไปที่ริมฝีปากของเขาอย่างไม่ลังเลสักนิด!
อากาศที่บริสุทธิ์ก็ลอบเข้าไปในปากของเขาแบบนี้ ซึ่งนำมาด้วยความนุ่มนวลหอมหวานที่มีเพียงแค่เด็กสาวที่มี
ชายหนุ่มใช้แรงตามสัญชาตญาณ ราวกับว่าจะดึงทุกอย่างในปากของเธอทั้งหมดออกมาอย่างตะกละตะกลาม!
เขาใช้แขนทั้งสองข้างรวบร่างอันบอบบางของเธอไว้แน่น ทำให้ร่างทั้งร่างของเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเองแล้วใช้กำลังขังตัวเธอไว้
จูบที่เร่าร้อนนำมาซึ่งพลังที่กอบโกยทุกอย่างและได้ปล้นสติของคนทั้งสองคนไปอย่างไร้ความปราณี
หลังจากจูบอย่างดูดดื่มเป็นเวลานาน เขาก็พยายามอย่างมากที่จะลืมตาขึ้น
เมื่อหันหน้าไปทางที่แสงเข้า เพียงแค่แวบเดียว เขาก็จำหน้าเธอได้ขึ้นใจเลย
จำไว้ว่าหลังจากที่เธอโดนตัวเองจูบ ริมฝีปากก็บวมแดงจนน่าาตกใจ ไหนจะร่างกายที่มีส่วนเว้าโค้งราวกับหญิงสาวที่แสนเย้ายวนนั่นอีก
“คุณชายสี่ หาเจอแล้ว สาวน้อยที่นายน้อยช่วยเอาไว้เมื่อครึ่งปีก่อนที่เมืองชิงเฉิง ที่แท้ก็คือลูกสาวคนเดียวของตระกูลมู่นี่เอง”
จั๋วซีนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ ก็เอียงตัวเอาข้อมูลและรูปภาพซ้อนกันส่งไปให้กับผู้ชายที่นั่งอยู่ที่เบาะหลัง
โดยไม่รู้เลยว่าตัวเองไปขัดจังหวะความทรงจำที่แสนอาลัยอาวรณ์ของชายหนุ่ม จั๋วซีก็ยังรายงานต่อไปว่า “ตระกูลมู่ย้ายมาอยู่ที่เมืองM ได้สองปีแล้ว แต่ว่าพ่อแม่กลับยังอยู่ที่เมืองชิงเฉิง เมื่อปลายปีที่แล้วคุณหนูมู่ได้กลับไปเยี่ยมญาติที่บ้านเกิด แล้วก็เลยเจอเรื่องนั้นของคุณพอดี”
คนที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังไม่ได้พูดอะไร
ดวงตาสีดำสนิทจ้องเขม็งไปที่สาวน้อยที่อยู่ในภาพ ดูไปทีละแผ่นทีละแผ่น แล้วก็ดูย้อนกลับมาทีละแผ่นทีละแผ่นอีกครั้ง
บรรยากาศที่แสนตึงเครียด ที่ขมับของจั๋วซีมีเหงื่อออกเล็กน้อย เธอตั้งใจมองไปที่พี่จั๋วหรันที่นั่งอยู่ที่เบาะคนขับ เหมือนกับว่ากำลังขอความช่วยเหลืออยู่
จั๋วหรันสังเกตสีหน้าชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลังผ่านกระจกมองหลังอย่างระมัดระวัง ก็เลยลองพูดหยั่งเชิงดูว่า “คุณชายสี่ครับ ครั้งที่แล้วที่โดนคุณชายใหญ่กับคุณชายสองร่วมมือกันแกล้งให้ตกลงไปในอ่างเก็บน้ำ แล้วคุณหนูมู่ก็บังเอิญมาเห็น แล้วก็ช่วยเอาคุณชายขึ้นมาจากน้ำ และนั่นก็เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินก็เลยต้องผายปอดให้คุณชาย มันไม่ใช่การฉวยโอกาสอย่างที่คุณชายหมายถึงแน่ๆ หรือพูดอีกอย่าง การที่สาวน้อยตัวเล็กๆลากผู้ชายตัวใหญ่อย่างคุณชายขึ้นมาจากในน้ำ มันไม่ง่ายเลยนะครับคุณชาย ปล่อยเธอไปไม่ได้เหรอครับ”
คนอื่นๆต่างก็รู้กันทั้งนั้น ตระกูลหลิงที่ร่ำรวยแห่งมณฑลเจียงตงมีคุณชายทั้งหมดสี่คน ทุกคนก็หล่อเหลาและมีพรสวรรค์ที่ไม่เหมือนใคร มีแค่คุณชายคนที่สี่ที่มีอารมณ์แปรปรวนไม่คงที่ ไม่เข้าใกล้คนแปลหน้า อีกอย่างเป็นโรครักความสะอาดแล้วก็กลัวน้ำ เป็นคนที่เอาใจยากที่สุด
จั๋วหรันและจั๋วซีเป็นคนที่อยู่ข้างกายคุณชายสี่มาตั้งแต่เล็กๆ พวกเขารู้โดยธรรมชาติเลยว่า ในขณะที่สาวน้อยตัวเล็กคนนั้นผายปอดให้กับคุณชายสี่ครั้งก่อน ก็เป็นการขโมยจูบแรกของคุณชายสี่เหมือนกัน
โดยส่วนตัวแล้ว พวกเขาคาดว่า ครึ่งปีมานี้คุณชายสี่พยายามที่จะตามหาเธอ เพื่อที่จะคิดบัญชีกับเธอ!
“คุณชายสี่ครับ ถึงแม้ว่าตระกูลมู่จะย้ายมาที่เมืองMไม่นานนัก แต่ว่าฐานะตอนนี้ก็ไม่ได้ต่ำต้อย แล้วคุณหนูมู่เป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลมู่ ถ้าเกิดว่าคุณชายจะตามหาเธอเพื่อที่จะคิดบัญชี กลัวว่า”
จั๋วซีพูดได้เพียงแค่ครึ่งเดียวก็หยุดพูดทันที
เพียงเพราะชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลังเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด ดวงตาที่ดำสนิทและจริงจังทั้งสองข้างตั้งคำถามพร้อมกับมองเขาราวกับว่ามองสัตว์ประหลาดอย่างไงอย่างนั้น แล้วก็พูดว่า “ใครบอกว่าฉันตามหาเธอเพื่อที่จะคิดบัญชีล่ะ”
จั๋วหรันตกใจจนเกือบคุมพวงมาลัยไว้ไม่อยู่ จั๋วซีก็อ้าปากกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ!
ครั้งล่าสุดที่คุณชายสี่เปิดปากพูด มันคือเมื่อไหร่กันนะ
นานมาก นานจนจำไม่ได้แล้ว!
เมื่อเห็นถึงความตกใจของลูกน้อง หลิงเล่ก็หรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาที่เป็นประกายสว่างสดใสสะท้อนถึงสัญญาณอันตรายออกมาเล็กน้อย แต่จั๋วซีกลับถามเขาอย่างไม่กลัวตาย “งั้นคุณชายตามหาเธอ ทำไมล่ะครับ”
มุมปากของหลิงเล่ยกยิ้มขึ้นอย่างอารมณ์ดี แล้วก็เอารูปภาพที่อยู่ในมือรวมกันเก็บไว้อย่างดี ตาทั้งสองข้างก็มองออกไปนอกหน้าต่าง
ฝนกระหน่ำเทลงมาหนักมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นตอนบ่ายกลางฤดูร้อนก็เถอะ สีของท้องฟ้าก็มืดครึ้ม เต็มไปด้วยละอองน้ำ เมื่อมองผ่านกระจกสีเข้มของรถออกไปด้านนอก ก็จะเห็นทัศนวิสัยที่ไม่กว้างนัก
หลิงเล่ก็พูดออกมาอีกสามคำ
พี่น้องตระกูลจั๋วก็รู้สึกตกใจอีกครั้งทันที
จั๋วหรันขับรถเบี้ยวไปอีกทางหนึ่ง แล้วก็รีบเหยียบไปที่เบรกรถทันที
ร่างของทั้งสามคนที่อยู่บนรถก็พุ่งไปทางด้านหน้าตามแรงกระชาก แต่พวกเขาทั้งหมดนั้นคาดเข็มขัดนิรภัย หน้าผากของหลิงเล่ไปชนเข้ากับเบาะหนังแท้ของที่นั่งคนขับ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรแตกหัก
“คุณชายสี่ครับ!”
จั๋วซีที่ได้สติกลับมาใจก็เต้นแรงทันที แล้วก็บ่นพี่ชายพร้อมกับปลดเข็มขัดนิรภัยเพื่อที่จะหันไปดูสถานการณ์ด้านหลัง “พี่ขับรถยังไงเนี่ย ก็รู้อยู่ฝนตกทำไมไม่ขับข้าๆหน่อย!”
“ฉัน” จั๋วหรันเองก็ตกใจจนหน้าซีด แล้วพูดว่า “มีคนเดินเข้ามาชน!”
“นี่มันบนทางด่วนนะ ใครจะเดินมาชน”
“มีคนขับมาจริงๆ ฉันจะโกหกแกทำไมล่ะ เกือบชนเธอไปแล้ว!”
“คุณชายสี่ คุณไม่เป็นไรนะครับ”
สองพี่น้องกำลังพยายามจัดการกับสถานการณ์วุ่นๆ ทันใดนั้นก็มีร่างของคนผอมบางตัวเล็กผิวขาวแอบวิ่งผ่านด้านหลังของจั๋วซีเข้าไปข้างในรถทันที!
ท่าทางที่คล่องแค่วว่องไวนั้น เหมือนกับว่าเป็นสิ่งฝึกมาแล้วเป็นพันๆรอบ!
รอยน้ำที่หยดลงตามตัวเธอที จนเปียกไปทั้งที่นั่งแล้วก็ที่รองเท้า แล้วเธอยังปีนมาขดตัวครึ่งหนึ่งอยู่บนตัวของหลิงเล่ แล้วก็พูดอย่างสั่นเทาว่า “ออกรถเร็วๆ เร็วๆ!”
จั๋วหรันมองดูผ่านกระจกมองหลัง——
ก้อนกลมๆก้อนหนึ่งที่กำลังใส่ชุดเดรสยาวสีขาวนั่งอยู่เบาะหลังด้วยความสั่นเทาเพราะความหนาวยะเยือก ทั้งเสื้อผ้าและผมยาวสีดำนั่นเปียกน้ำฝนไปหมด มันแนบสนิทไปกับร่างกายของเธอ รูปร่างเธอค่อนข้างดีเลย อย่างน้อยในฐานะผู้หญิงก็มีเป็นต้นทุนทีน่าภูมิใจ ร่างกายของเธอมีหยดน้ำหยดอย่างต่อเนื่องทั่วร่างของเธอ หน้าที่ซีดขาวไปครึ่งหน้า ไม่สามารถมองเห็นสีหน้าเธอได้อย่างชัดเจน
แต่ว่า ด้านข้างที่ดูสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ สันจมูกที่ค่อนข้างโด่งนั้น ไหนจะคางที่โค้งได้รูป ทั้งหมดอธิบายได้ว่าเธอเป็นสาวน้อยแสนสวยคนหนึ่งเลยทีเดียว
ในมือของเธอมีกระเป๋าใบเล็กใบหนึ่ง ที่กำลังถูกเธอกอดไว้แน่นที่หน้าอกอย่างกังวลและระมัดระวัง
ไม่ว่าจะฟังจากน้ำเสียงที่เธอเพิ่งพูดเมื่อกี้ หรือว่าจากผิวพรรณที่ดูอ่อนวัยเหมือนผิวเด็ก เธอต้องเป็นสาวน้อยที่อายุไม่เกินสิบแปดปีแน่ ดูแล้วช่างเป็นสาวน้อยที่น่าสงสาร
ฝนตกหนักแบบนี้
บนทางด่วนแบบนี้
มาขวางรถฆ่าตัวตายแบบนี้
เป็นสาวน้อยที่แปลกมากๆ!
มุมปากของจั๋วซีก็ยกขึ้นมา เขาไปเปิดประตูรถของที่นั่งด้านหลัง เพื่อที่จะดูว่าคุณชายสี่ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า ไม่ใช่เพื่อให้คนอื่นเดินเข้าไปอย่างสะดวก
ยิ่งไปกว่านั้น รถของคุณชายสี่ ใช่ว่าหมาแมวที่ไหนจะอยากนั่งก็นั่งได้งั้นเหรอ
ก่อนที่คุณชายสี่จะหัวร้อน จั๋วซีขมวดคิ้วแล้วก็คว้าคอเสื้อของสาวน้อยเอาไว้ เตรียมที่จะดึงเธอออกไป!
ตัวการที่พุ่งออกมาอย่างกะทันหันเพื่อฆ่าตัวตายจนเกือบทำให้พวกเขาเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์!
“อย่า! คุณ ข้างหลังนั่นมีคนไล่ตามฉันอยู่ รบกวนคุณหน่อยนะ เอาฉันไปปล่อยไว้ที่นอกเมืองก็ได้!”
ในขณะที่พูด เธอก็หยิบแบงค์ร้อยหลายใบออกมา แล้วส่งให้จั๋วซี “จากในเมืองเรียกรถขึ้นทางด่วน ไปถึงนอกเมืองก็ประมานร้อยกว่าหยวน ฉันให้คุณพันหนึ่ง เป็นไง”
จั๋วซีตะลึงตัวแข็ง
ทีแรกเพราะว่าวิธีแปลกๆของเธอ แล้วก็เพราะว่าใบหน้าของเธออีก ทำไมยิ่งดูก็ยิ่งคุ้นตานะ
คำตอบที่ปรากฏออกมา จั๋วซีอ้าปากค้างแล้วมองไปที่หลิงเล่ “คุณชายสี่ เธอ เธอคุณหนู...”