6-สับสนหรือเสียใจ
(ด็อจ)
แสงสว่างจากภายนอกที่สาดทอเข้ามา มันทำให้ผมรู้สึกตัว ผมค่อย ๆ เปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งกะพริบปรับรับแสงสว่างที่สาดทอเข้ามา ตื่นมาบนที่นอนพร้อมกับหัวที่ปวดหนึบ ใช่ครับมันปวดมากเพราะเมื่อคืนผมคงดื่มหนักจนเกินไป ดื่มหนักจนเหมือนคนเสียสติเพราะความเสียใจ ตอนนี้ผมลืมตามองเพดานสองมือกุมหัวที่ปวดเหมือนจะระเบิด
แต่เดี๋ยวนะ! นี่ไม่ใช่ห้องนอนของผม!?
ความตกใจทำให้ผมกวาดสายตามองรอบห้อง ห้อนนอนที่ผมเคยมาอยู่บ่อย ๆ ก่อนสายตาจะมองไปยังด้านข้างที่มีผู้ชายคนหนึ่งนอนคว่ำหันหน้ามาทางผม แผ่นหลังหนาที่คุ้นตา ใบหน้าที่เด่นชัดแม้จะอยู่ในสภาพที่นอนนิ่ง ผมก็จำได้ดี...ไอ้ศิลา!
"อะไรกันวะเนี้ย!?" ผมสบถเสียงและขมวดคิ้วชนกันด้วยความตกใจ ยีหัวจนผมฟูฟ่องอย่างไม่เข้าใจ สายตามองไปเห็นกางเกงที่กองอยู่กับพื้น มั่นใจมากว่ามันคือกางเกงที่ผมใส่เมื่อคืนนี้
คิดดังนั้นจะเปิดผ้าห่มผืนหนาดู ตาของผมต้องเบิกกว้าง หูของผมอื้ออึงไปหมด ไม่ต้องบอกก็ย่อมรู้ว่าที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้น...นี่ผมเสียตัวให้เพื่อนเหรอวะ!
ผมคิดภาพทุกอย่างทบทวน แต่คิดยังไงผมก็นึกไม่ออก สุดท้ายที่จำได้คือเหมือนผมจะเพ้อ ผมพูดคุยกับเพื่อนขนมปังด้วยอาการเมาที่ยังพอมีสติอันน้อยนิดเหลืออยู่ คุยเหมือนจะจีบ แต่ที่ทำนั้นเพราะผมไม่รู้จะทำยังไง มันเสียใจเรื่องแฟนที่คบหา ที่ว่ามันไปอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้ชาย ทั้งที่บอกผมมากมายว่ายุ่งตลอด เพ้อจนผมไม่รู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
"โอ๊ะ!" ผมขยับตัวช้า ๆ แต่ทำไมร่างกายที่รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว ร่างกายดูเจ็บปวดไปหมดทุกจุดกับการขยับตัว ผมยังอยู่ในห้องเดิมค่อย ๆ หยัดตัวนั่งหลังพิงกับเตียง
"อื้ม ใครเสียงดังวะ คนจะนอน เงียบ ๆ ดิ" ผมมองตามเสียงที่บ่นนั้น ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวขาลงจากเตียง บอกเลยว่าทุก ๆ ครั้งที่ผมขยับมันเจ็บร้าวไปทั้งส่วนล่างตอนนี้
"แม่ง! กูเสียตัวให้ไอ้ศิลาจริงเหรอวะ?...เฮ้อ~~" ผมยืนหันหลังให้กับเตียงนอนแล้วบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ หยิบกางเกงมาใส่พร้อมถอนลมหายใจอย่างหน่ายใจ ไม่หน่ายใจใครหรอกครับ หน่ายตัวเองนี่แหละที่อกหักแล้วเมาเป็นหมาไม่มีสติแบบนี้ จนต้องมาพลาดเสียประตูหลังให้กับเพื่อนสนิท
"เออดิ เสียตัวให้กูเนี้ยแหละ...โทษทีนะมึงเริ่มก่อนแล้วกูทนไม่ไหว ทั้งที่กูพยายามควบคุมตัวเองแล้ว" แล้วเสียงอันหยาบโลนก็ดังมาจากด้านหลัง ผมหันไปมองก็เจอกับเพื่อนสนิทที่นั่งหลังพิงหัวเตียงมองมาทางผม
"....." ผมเงียบไม่รู้จะพูดอะไรออกไป บอกตามตรงว่าอายเพื่อนมาก แล้วปากของเพื่อนผมก็เหมือนจะมีหมา สายตาของมันที่มองมาทางผม มันยากที่จะคาดเดาความคิดของมันตอนนี้
"ใบ้แดกเลย" ผมมองหน้าไอ้ศิลาที่ตอนนี้จ้องมาทางผม และเป็นผมเองที่ต้องหลบสายตาของมัน สายตาที่ดูไม่ออกในความรู้สึก มันทำให้ผมหวั่นใจ
"กูเป็นแบบนั้นเหรอวะ"
"อืม มึงบอกมึงไม่เมา บอกให้กูเอามึง กูก็เลย...."
"กูขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ!" ผมอายมากจึงหลีกเลี่ยงสายตานั้นด้วยการเดินหนีเข้าห้องน้ำ ผมอายที่จะเผชิญหน้ากับไอ้ศิลาในตอนนี้ อายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนีมัน
"ครับ...ผมก็คิดถึง...ได้สิสำหรับหมี่แล้วทำไมผมจะไปหาไม่ได้...ครับผมแล้วคืนนี้เจอกันนะ"
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วบังเอิญได้ยินเสียงของการพูดคุยที่ดังเข้ามาในหู แต่ไม่รู้ว่าดังมาจากจุดไหนของห้อง เพราะสองสายตาของผมไล่มองในห้องแล้วไม่เจอใคร ด้วยความอยากรู้จึงให้สองเท้านำพาผมก้าวเดินไปช้า ๆ ตรงระเบียงที่มีผ่านม่านสีเทากั้นอยู่
หมี่ หรือ มัดหมี่ ทั้งที่รู้ว่าเธอคือใคร แต่ทำไมผมถึงสะอึกกับสิ่งที่ได้ยินจนยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ทั้งที่ตั้งท่าจะเปิดผ้าม่าน เพื่อหาใครคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนของผม
ผมพูดอะไรไม่ออก เหมือนภายในใจของผมมันกำลังเสียใจกับคำว่าไปหาคืนนี้ ผมรู้ดีว่าไอ้ศิลามันเป็นคนยังไง แต่ตอนนี้ทำไมผมต้องรู้สึกเสียใจ...ผมสับสน!
ผมรู้ว่าดีนะว่าไอ้ศิลามันมีคุยกับผู้หญิงจนถึงขั้นมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกัน และเธอคนนั้นผมก็เจอหน้าอยู่บ่อยครั้งที่ไปเที่ยวกับเพื่อน ไอ้ศิลามักควงมัดหมี่ประจำ
ผมเอี้ยวตัวแล้วเดินกลับไปนั่งที่ปลายเตียง รู้สึกว่าเหมือนจะทำอะไรไม่ค่อยถูก จึงเลือกที่จะนั่งเงียบเพื่อลาเพื่อนที่น่าจะยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอก ผมได้ยินเสียงไอ้ศิลาพูดคุยบ้างก็แค่นเสียงหัวเราะประปราย ความรู้สึกของผมตอนนี้มันเจ็บแปลบ ๆ ทั้งที่เพิ่งอกหักมาหมาด ๆ แต่ว่าภาพที่นึกขึ้นกับสภาพร่างกายที่ตื่นขึ้นมา มันทำให้ผมรู้สึกว่ามีความถลำลึก มันเป็นความรู้สึกที่ผมพูดยาก
ผมไม่อยากเสียคำว่าเพื่อน!
"อ้าว...มึงจะกลับแล้วเหรอวะ" ไอ้ศิลาเดินอมยิ้มเข้ามาแล้วเอ่ยถามผม
"อืม กูจะกลับแล้ว รอลามึงเลยยังไม่ได้ไป เดี๋ยวหาว่าไม่มีมารยาท" ผมกลบความรู้สึกภายในใจด้วยการฝืนยิ้มให้เป็นธรรมชาติ แล้วตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติที่สุด
"มึงจะกลับยังไง รถมึงจอดอยู่ผับ" ไอ้ศิลาถามผมด้วยสีหน้าที่นิ่งเรียบ พร้อมกับยัดโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋ากางเกง
"เดี๋ยวกูนั่งแท็กซี่ไปเอา" ผมตอบมันไปเพราะว่าก็แอบเกรงใจมันที่ต้องวนรถไปมา อีกอย่างตอนนี้ผมยังไม่อยากจะอยู่กับมันเพียงลำพัง มันมีทั้งความอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น อีกนัยคือผมเหมือนเจ็บปวดและเสียใจกับสิ่งที่ได้ยิน ทุกอย่างที่ผมเจอตอนนี้ผมสับสนปนเปกันไปหมด ผมควรทำยังไงดี จะให้ไปต่อในแบบเพื่อน หรือเลื่อนความสัมพันธ์และความรู้สึกมากกว่าคำว่าเพื่อน
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูแวะไปส่ง เพราะเดี๋ยวกูจะออกไปหามัดหมี่"
"อืม"
ไอ้ศิลามันพูดแล้วอมยิ้มให้ผม แต่คำพูดของมันที่บอกจะไปหาอีกคน ทำเหมือนกับทิ่มแทงภายในอกข้างซ้ายของผม สิ่งที่ผมรู้สึกตอนนี้เรียกว่าถลำลึกในความรู้สึกเกินเพื่อนได้ไหม? ผมช่างใจและคิดชั่วครู่ ก็ต้องแค่นเสียงอันแผ่วเบาตอบไอ้ศิลาออกไป ทั้งที่ในใจนั้นเริ่มบีบรัดตัวเพียงแค่นึกภาพตาม หากคนทั้งสองได้อยู่ด้วยกันอย่างเป็นส่วนตัว