บทที่ 3
แต่!...แฝดนรกไม่มีโอกาสได้ทำตามที่ใจต้องการ เพราะเมื่อก้าวเท้าเดินมาถึงบริเวณห้องโถงใหญ่ พวกเขาก็มีอันต้องสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงของผู้ทรงอำนาจที่สุดในบ้าน ซึ่งลอยมากระทบโสตประสาทให้ต้องทิ้งกระเป๋าเดินทางลงพื้นอย่างหมดแรง
“รู้ได้ยังไงจ๊ะ ว่ามาดามหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง”
มาดามแคทรียากระตุกยิ้ม ขณะเค้นเสียงเอ่ยถามแกมเหน็บแนมลูกชายจอมแสบทั้งสองด้วย ดวงตาทั้งคู่จ้องมองแฝดนรกเขม็ง
“มาดาม!”
แฝดนรกตะโกนเรียกแทบจะพร้อมๆ กัน นาทีต่อมาดวงไฟทุกดวงก็ถูกเปิดให้ความสว่างไสวทั่วบริเวณบ้าน ทำให้พวกเขาเห็นมารดานั่งเป็นองค์ประธานอยู่ตรงโซฟากลางห้องโถง
“จะพากันไปไหนจ๊ะ สุดหล่อของมาดาม”
มาดามแคทรียาถามพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง ทว่าดวงตาทั้งคู่กลับกวาดมองลูกชายฝาแฝดแบบเรียงตัว ทำเอาทั้งเรอัลและรอสส์หน้าซีดเหลือสองนิ้ว
“เรอัล ตอบมาดามสิ” รอสส์กระทุ้งศอกให้พี่ชายเป็นหน่วยกล้าตายเอ่ยตอบมารดา
เรอัลหันมาแยกเขี้ยวถลึงตาใส่ พร้อมกับเค้นเสียงลอดไรฟันต่อว่าน้องชายบ้าง
“ไอ้บ้า นายก็บอกมาดามไปสิว่าเรากำลังจะหนีออกจากบ้าน”
“ตอบแบบนั้นก็โดนมาดามฆ่าตายนะสิ”
รอสส์กระซิบตอบกลับคืน หน้าซีดเหงื่อแตกพลั่กเต็มหน้าผากราวกับกำลังออกกำลังกายอยู่ก็ไม่ปาน
“แล้วจะให้ตอบว่ายังไงว่ะ”
เรอัลขอความเห็น แค่เพียงได้ยินเสียงและเห็นดวงตาที่จ้องมองเขม็งอย่างเอาเรื่องของมารดา ทำเอาเขาและแฝดน้อง เกิดอาการสมองตายคิดอะไรไม่ออกเอาดื้อๆ
“หยุดเถียงกันได้แล้ว แฝดนรก”
มาดามแคทรียาสั่งห้ามห้วนๆ ขึงตาดุๆ ใส่ขณะยกมือกวักเรียกลูกชายทั้งสอง พร้อมกับออกคำสั่งต่อว่า
“มานั่งใกล้ๆ มาดามสิลูก เห็นทีว่าเราต้องคุยกันยาวแน่ๆ”
แฝดนรกสุดหล่อทั้งสองทำหน้ายังกับถูกบังคับให้กินยารสขม ต่างก็ลากเท้าราวกับหนักอึ้งหนักหนาเดินเข้าไปทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับมารดา
“เรารู้สึกเหมือนกำลังเป็นจำเลยถูกศาลพิจารณาโทษเลยว่ะ รอสส์”
เรอัลกระซิบบอกเบาๆ ตีสีหน้าเหยเกอยากหายตัวได้เหมือนพวกนินจาเต่า ดั่งที่เขาเคยดูในการ์ตูนสมัยเป็นเด็กๆ ซะเหลือเกิน
รอสส์ตีหน้าเจื่อนรู้สึกแบบเดียวกันกับแฝดพี่ ก่อนจะกระซิบถามกลับคืนบ้าง “นายว่า ศาลจะกรุณาเราสองคนไหม”
“คิดว่าไม่!” เรอัลตอบสั้นๆ ช่างเป็นคำตอบที่บั่นทอนจิตใจกันและกันเหลือเกิน
มาดามแคทรียากลั้นหัวเราะจนปวดกราม ขณะฟังลูกชายจอมแสบทั้งสองโต้ตอบกันอย่างเคร่งเครียด
แต่ไม่ว่าจะขบขำมากเพียงใด ท่านก็ต้องแสร้งตีสีหน้าบึ้งตึงเข้าไว้ เพื่อเป็นการข่มให้แฝดนรกจอมแสบได้หวาดกลัว และยอมทำตามคำสั่งของท่าน
“ทะเลาะกันเสร็จหรือยังจ๊ะ เรอัล รอสส์ มาดามจะได้ถามสักทีว่าลูกชายสุดหล่อทั้งสองของมาดาม หอบกระเป๋าจะหนีไปไหนกัน”
คราวนี้เป็นเรอัลที่กระทุ้งศอกใส่ให้แฝดน้องเป็นหน่วยกล้าตายเอ่ยตอบคำถามเป็นคนแรก
“รอสส์ นายบอกมาดามไปสิ”
รอสส์แยกเขี้ยวใส่แฝดพี่ที่บังอาจโยนภาระอันหนักอึ้งซะยิ่งกว่าหินผามาให้เขา และเมื่อไม่มีทางเลี่ยง จึงจำต้องเอ่ยตอบเสียงอ่อยไปว่า
“เอ่อ...เราสองคนกำลังจะหนี เอ้ย! กำลังจะไปศึกษาดูงานกันครับ”
“ใช่ๆ ครับ พวกเราจะไปดูงาน เพื่อนำทักษะใหม่ๆ มาพัฒนาธุรกิจของเราให้มีกำไรมากกว่าเดิมครับ” เรอัลรีบเอ่ยสนับสนุนคำพูดของแฝดน้อง
มาดามแคทรียาคลี่ยิ้มกว้าง ขณะเอ่ยชมลูกชายสุดที่รักทั้งสอง “แหม! มาดามภูมิใจจริงๆ ที่ลูกๆ ของมาดามขยันขันแข็งในเรื่องการหนี เอ้ย! ในการทำงานมาก”
กลั้นเสียงหัวเราะไว้สุดกำลังขณะแกล้งประชดลูกชายไปแล้ว มาดามก็เอ่ยถามต่อ
“ว่าแต่ลูกๆ ของมาดามจะไปศึกษาดูงานที่ไหนกันจ๊ะ”
“ภูเก็ต”
“กระบี่”
เมื่อไม่ได้นัดแนะกันมาก่อน รอสส์กับเรอัลก็ตอบไปคนละทาง ทำเอาผู้เป็นมารดาแทบกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว
“เอาให้แน่สิจ๊ะ สุดหล่อของมาดาม ตกลงว่าจะไปดูงานที่ไหนกันแน่”
“ภูเก็ตครับ”
รอสส์เป็นฝ่ายตอบเลือกสถานที่ศึกษาดูงานในครั้งนี้ ซึ่งหารู้ไม่ว่าเขากำลังขุดหลุมอันเบ้อเริ่ม เพื่อฝังตัวเองและแฝดพี่
“อืม...ในเมื่อรอสส์กับเรอัลบอกมาดามว่าจะไปดูงานที่ภูเก็ต เพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็น
ต้องใช้พาสปอร์ต กรุณาส่งพาสปอร์ตมาให้มาดามด้วย”
เรอัลกับรอสส์ถึงกับอ้าปากค้างกับความชาญฉลาดของมารดา ไม่นึกว่าพวกตนจะถูกมารดาเล่นงานด้วยวิธีนี้ หากถูกยึดพาสปอร์ตก็ทำให้หนีไปต่างประเทศไม่ได้
“ไอ้รอสส์ ไอ้บ้า เสือกตอบมาดามทำไมว่ะว่าจะไปภูเก็ต เห็นไหม โดยยึดพาสปอร์ตเลย”
เรอัลตุ้ยหมัดไปบนหน้าท้อง เค้นเสียงโวยวายโทษว่าเป็นความผิดของรอสส์ที่ทำให้ตนเองถูกมารดายึดพาสปอร์ต
“เฮ้ย! จะมาโทษเราคนเดียวได้ยังไงกัน นายก็บอกมาดามว่าจะไปกระบี่เหมือนกัน เวลาบินไปกระบี่ต้องใช้พาสปอร์ตด้วยหรือว่ะ”
รอสส์ซัดฝ่ามือไปบนต้นแขนของแฝดพี่ ถลึงตามองอย่างโกรธๆ ขณะเค้นเสียงลอดไรฟันเอ่ยถามกลับอย่างประชดประชัน
“ไม่ต้องเถียงกันแล้ว”
นอกจากจะทำหน้าที่พิพากษาลูกชายจอมแสบแล้ว มาดามแคทรียายังต้องทำหน้าที่เป็นกรรมการห้ามมวยคู่เอกด้วย
“เรอัล พาสปอร์ต”
ขณะออกคำสั่งเสียงห้วน มาดามก็แบมือไปข้างหน้า กระดิกนิ้วไหวๆ เพื่อรอรับพาสปอร์ตจากเรอัลด้วย
“ให้พาสปอร์ตแล้วจะหนีไปต่างประเทศได้ไง”
เรอัลบ่นงึมงับ ทำหน้าเจื่อนๆ หยิบพาสปอร์ตมาจากกระเป๋ากางเกงอย่างเชื่องช้าเพราะความไม่เต็มใจ ก่อนจะยื่นให้กับมารดาอย่างไม่มีทางเลี่ยง
มาดามแคทรียายิ้มกริ่มเมื่อได้พาสปอร์ตมาอยู่ในมือ ก่อนจะหันหน้าช้าๆ ไปจ้องมองลูกชายคนเล็กเขม็ง พร้อมกับออกคำสั่งเสียงเย็น
“รอสส์...พาสปอร์ต...”
รอสส์ถึงกับสะดุ้งเฮือกตอนถูกมารดาเรียกเสียงเย็น แถมยังขึงตาดุๆ ใส่ด้วย
“เอ่อ...รอสส์เก็บพาสปอร์ตไว้ที่ออฟฟิศ เดี๋ยวรอสส์ขับรถไปเอามาให้มาดามนะครับ”
ว่าแล้วร่างใหญ่ล่ำสันก็ทำท่าจะลุกขึ้นยืน เพื่อทำตามที่เอ่ยบอก แต่! แค่เพียงยกก้นจากโซฟา ก็ต้องค้างอยู่ในท่านั้น เมื่อมารดาออกคำสั่งเสียงดัง ทำเอาต้องสะดุ้งไปตามๆ กัน
“หยุด! รอสส์ นั่งลงเดี๋ยวนี้ มาดามรู้ว่าพาสปอร์ตอยู่กับตัวรอสส์ เอามาให้มาดามดีๆ อย่าให้มาดามต้องลงมือ ลงแรง”
“ก็...ก็ได้ครับ มาดาม”
รอสส์รับคำเสียงอ่อย เหงื่อแตกพลั่กกับน้ำเสียงห้วนดุของมารดา มือใหญ่หยิบพาสปอร์ตมายื่นให้กับมารดาได้อย่างยากเย็น
เมื่อมารดายื่นมือมาจับพาสปอร์ตก็ไม่ยอมปล่อยให้มารดาง่ายๆ พอมารดาดึงพาสปอร์ต เขาก็ดึงกลับคืน ยื้อกันอยู่นาน จนมารดาต้องถลึงตามองออกคำสั่งเสียงลึกในลำคอ
“รอสส์...ปล่อยมือเดี๋ยวนี้”
“คร๊าบ...มาดาม...”
รอสส์ลากคำ ดวงตาคมกริบมองพาสปอร์ตอย่างแสนเสียดาย หมดกัน! แผนการหอบผ้าหนีออกจากบ้าน ล่มไม่เป็นท่าแล้ว
มาดามแคทรียายิ้มกริ่มหลังจากได้พาสปอร์ตของจอมแสบทั้งสองมาอยู่ในครอบครองแล้ว
“ขอบใจมากลูก ที่ให้ความร่วมมือกับมาดามเป็นอย่างดี และมาดามของสั่งห้ามไม่ให้รอสส์กับเรอัลออกนอกประเทศจนกว่าจะได้รับอนุญาตจากมาดาม”
“มาดามทำเหมือนกับพวกเราเป็นบุคคลล้มละลายเลยว่ะ ที่สั่งห้ามไม่ให้ออกนอกประเทศ”
รอสส์หันไปบ่นอุบกับเรอัล ซึ่งพยักหน้างึกๆ เห็นด้วย
“มาดามห้ามไปเมืองนอก แถมยังเอาพาสปอร์ตไปด้วย คราวนี้จะหนีไปเมืองนอกได้ยังไงว่ะ รอสส์”
เรอัลกระซิบถามขอความเห็น จ้องมองพาสปอร์ตที่อยู่ในกำมือของมารดาตาปรอยอย่างแสนเสียดายไม่แพ้แฝดน้อง
“อย่าห่วงไปเลย เรอัล เดี๋ยวพวกเราไปทำใหม่ก็ได้” รอสส์กระซิบตอบ คิดว่าตนเองกับแฝดพี่ยังไม่หมดหนทางซะทีเดียว
แต่แล้วก็ต้องหน้าสลดไปตามๆ กันคำพูดที่ดังขึ้นลอยๆ จากมารดา “อย่าคิดวางแผนไปทำพาสปอร์ตใหม่เลย แฝดนรก! มาดามมีเพื่อนระดับบิ๊กอยู่ในกงสุลด้วย มาดามจะส่งรูปของทั้งสองแฝดให้เจ้าหน้าที่ทุกคนดู หากมีใบหน้าหล่อๆ ของลูกชายมาดามโผล่หน้าไปทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ มาดามจะขอร้องทุกคนไม่ให้ทำให้เด็ดขาด”
แค่ยึดพาสปอร์ตไม่พอ ต้องสั่งห้ามออกนอกประเทศ และห้ามไปทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ด้วย ต้องใช้มาตรการหลายขั้นตอนถึงจะเอาแฝดนรกได้อยู่หมัด
“ตาย! ตาย! มาดามดักเราไว้ทุกทางเลย”
รอสส์ทิ้งตัวพิงพนักโซฟาอย่างหมดแรง กลอกตาอย่างเซ็งๆ ขณะบ่นอุบกับเรอัล
เรอัลถึงกับตาเหลือกกับคำพูดของมารดา จนปัญญาที่จะหนีออกจากบ้าน
“เออ...ตายสถานเดียว งานนี้ได้ถูกจับเชือดเรียงตัวแน่ๆ”
มาดามแคทรียากลั้นหัวเราะจนปวดกรามไปหมด หลังจากเห็นท่าทางของแฝดทั้งสอง ที่ทำหน้าสลด ตาละห้อยหลังจากถูกสั่งห้ามทุกอย่าง
“เดี๋ยวจะหาว่ามาดามใจร้าย ไม่เห็นอกเห็นใจลูกชายหล่อๆ ทั้งสอง มาดามจะให้โอกาสเรอัลกับรอสส์ไปศึกษาดูงานเป็นเวลาเจ็ดวันตามที่ต้องการ รอสส์กับเรอัลจะไปที่ไหนก็ได้ในประเทศไทย มาดามจะให้อิสระอย่างเต็มที่ แต่อย่าคิดหนีไปต่างประเทศเด็ดขาด ได้ยินชัดไหม สุดหล่อ”
ทั้งเรอัล ทั้งรอสส์ต่างก็ฉีกยิ้มกว้างออกมาได้ด้วยความดีใจ หลังจากได้รับความเมตตาจากท่านผู้พิพากษาประจำบ้าน
“คร๊าบผม...รอสส์เข้าใจแล้วครับ”
“เรอัลก็เข้าใจเหมือนกันครับ”
สีหน้าของแฝดสุดหล่อทั้งสองเริ่มดีขึ้น หลังจากได้อนุญาตให้เป็นอิสระชั่วคราว
“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา รอสส์ขอตัวไปศึกษาดูงานก่อนนะครับมาดาม”
ด้วยกลัวว่ามารดาจะเปลี่ยนใจ รอสส์รีบผุดลุกขึ้นยืนแล้วเข้าไปหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่ สวมกอดท่านไว้แนบแน่น ก่อนจะผละออกแล้วคว้ากระเป๋าเดินทางวิ่งโกยแนบออกจากบ้าน
รอสส์เผ่นแนบไปแล้ว มีหรือที่เรอัลจะอยู่ให้โง่ ร่างใหญ่กำยำเข้าไปกอดมารดาพร้อมกับหอมแก้มซ้ายขวาอีกสองฟอด แล้วเอ่ยบอกอย่างเอาอกเอาใจมารดา
“เรอัลก็เห็นทีว่าต้องรีบไปเหมือนกันครับ เรอัลรักมาดามนะครับ”
มาดามแคทรียาหัวเราะเบาๆ มองตามร่างใหญ่ของแฝดจอมแสบทั้งสอง ที่รีบโกยฝีเท้าอย่างไม่คิดชีวิตออกไปจากบ้าน
“ปล่อยผีสักเจ็ดวันแล้วกัน แล้วค่อยตามกลับมาแต่งงาน ผลิตหลานๆ ให้เราเลี้ยง”
มาดามหลุบสายตามองพาสปอร์ตทั้งสองเล่มที่ถืออยู่ในมือ ขณะพึมพำกลั้วเสียงหัวเราะ เชื่อว่าฝาแฝดจอมเจ้าเล่ห์ไม่มีทางกล้าขัดคำสั่งของท่านอย่างแน่นอน