บทที่ 1
บทที่ 1
ร่างใหญ่กำยำของหนึ่งในสามขุนผลแห่งตระกูลเนวิลล์ นอนดิ้นกระสับกระส่ายไปมาอยู่บนเตียงใหญ่ ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลามีเหงื่อแตกพลั่ก ต้นแขนทั้งสองข้างยกขึ้นปัดป้องไปมาในอากาศ ขณะเจ้าตัวร้องละเมอเสียงดัง เพราะกำลังตกอยู่ในฝันร้ายที่สุดในคืนนี้
“อย่า...อย่า...ผมกลัวแล้ว...อย่าตอนผมเลย...”
มือใหญ่ทั้งสองยังคงแกว่งไกวปัดไปมาในอากาศ เพื่อต่อสู้กับคนที่กำลังจะ ‘ตอน’ เขาในความฝัน ขณะเดียวกันก็ยังคงร้องห้ามไม่มีหยุด
“อย่าตอนผม...ผมสาบานว่าจะไม่เจ้าชู้อีกแล้ว...อ๊ากกก...ขาดแล้ว โดนตอนแล้ว”
โครม! โครม!
เสียงทุบประตูห้องดังโครมๆ ตามด้วยเสียงเค้นด่าของอารอน ผู้เป็นพี่ใหญ่ของตระกูล
เนวิลล์ หลังจากได้ยินเสียงน้องชายตะโกนลั่นในยามดึกสงัด
“ไอ้รอสส์! เป็นบ้าอะไรวะ ตะโกนแหกปากดังลั่น ปลุกให้ตื่นกันทั้งบ้าน”
รอสส์ เนวิลล์ ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอน มือใหญ่เอื้อมไปตบควานหากล่องดวงใจของตนเองอย่างรวดเร็ว ขณะพึมพำราวกับยังคงละเมออยู่
“ตอน...ตอน...ไอ้รอสส์ถูกตอนแล้ว...”
มือใหญ่ควานหาทั้งกล่องดวงใจจนพบว่าอยู่ดีเป็นสุข ไม่ได้ถูกตอนขาดเป็นท่อนๆ แต่เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง จึงดึงกางเกงนอนผ้าแพรออก พร้อมกับก้มลงมองให้เห็นกับตาว่ากล่องดวงใจสุดรักสุดหวง ยังอยู่ครบไม่ได้ถูกตอนเหมือนในฝันร้ายเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
“เฮ้อ...โล่งอก น้องชายยังอยู่ครบไม่ได้ถูกตอนเป็นชิ้นๆ”
“ไอ้รอสส์ จะเปิดประตูได้หรือยังวะ โดนอะไรเหยียบหางถึงได้แหกปากลั่นบ้าน”
เมื่อน้องชายคนเล็กไม่ยอมเปิดประตูให้ อารอนก็ยังคงตะโกนด่า และทุบประตูเรียกไม่เลิก ก็เพราะว่าเป็นห่วงรอสส์นั่นเอง
“มาแล้ว จะทุบประตูหาพระแสงอะไรวะ ไอ้พี่ชาย”
รอสส์บ่นอุบขณะเดินไปกระชากประตูห้องเปิดออกกว้างให้กับอารอนซึ่งยืนจังก้าอยู่ตรงหน้าประตู สีหน้าของอีกฝ่ายเผยความเป็นห่วงให้เห็นอย่างชัดเจน
“เป็นอะไรไอ้รอสส์ แหกปากดังลั่นทำเอาตกอกตกใจหมด”
อารอนเอ่ยถามพร้อมกับก้าวเดินเข้ามาในห้องนอนใหญ่หรูหรา แล้วทรุดตัวลงนั่งบนโซฟารอคำตอบจากน้องชายสุดแสบ
“ฝันร้าย”
รอสส์เอ่ยตอบสั้นๆ ขณะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับพี่ชายคนโต มือใหญ่ยกขึ้นปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นบนหน้าผากด้วย
“ฝันร้าย?” อารอนทวนคำเลิกคิ้วขึ้นสูง แล้วเอ่ยถามต่อ “ฝันว่ายังไง มันน่ากลัวมากหรือยังไง นายถึงตะโกนซะลั่นบ้าน”
“มันน่ากลัวไหมล่ะครับ ถ้าฝันว่ากำลังจะโดนตอน โดนตัดกล่องดวงใจไปทั้งพวง”
“ฮ่าๆๆ”
อารอนแหงนศีรษะหัวเราะดังลั่นหลังจากได้ยินคำตอบ จากนั้นก็เอ่ยถามกลั้วเสียงหัวเราะร่วนว่า
“ที่นายแหกปากตะโกนลั่นบ้าน หน้าซีดเหงื่อแตกพลั่ก ก็เพราะฝันว่าโดนเชือดน้องชายทิ้งหรือวะ”
รอสส์ตีหน้าหงิกกับคำแซวของพี่ชาย ดวงตาสีดำถลึงมองขณะถามกลับเสียงห้วนด้วยความโมโห ที่อีกฝ่ายยังคงหัวเราะเยาะไม่เลิก
“แล้วถ้าเป็นท่านอารอน จะรู้สึกสยองไหมล่ะครับ ที่จู่ๆ ก็มีใครไม่รู้ถือกรรไกรอันเบ้อเริ้ม ตีหน้ายักษ์ แยกเขี้ยวให้ ขณะเดินเข้าหา แล้วบอกว่าจะตอนผมให้เหลือแต่ตอ”
“ฮ่าๆ อยากเห็นหน้าคนที่จะตอนนายจริงๆ”
อารอนยังหัวเราะไม่เลิก ยิ่งเห็นหน้าน้องชายขาวซีด มีเหงื่อแตกพลั่กก็ยิ่งขบขัน
รอสส์ทำเสียงฮึ่มๆ ในลำคอ และด้วยโมโหพี่ชายที่ยังคงเยาะเย้ยตัวเองอยู่ จึงโผเข้าซัดหนักๆ ตรงหน้าท้องของพี่ชายไปหนึ่งที
“อารอน หยุดหัวเราะได้แล้วเว้ย! ถ้าพี่ฝันแบบผมบ้าง แล้วพี่จะรู้ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน”
ขณะเอ่ยบอกออกไป รอสส์ก็ทำหน้าสยดสยอง ยิ่งภาพในความฝันที่จำติดตาผุดขึ้นมาในหัวสมองอีกครั้ง ก็ถึงกับขนลุกซู่ รีบกุมกล่องดวงใจของตนเองไว้ในทันที
ได้เห็นท่าทีของรอสส์ ที่กุมกล่องดวงใจไว้ด้วยมือทั้งสอง ปกป้องราวกับไข่ในหินก็ไม่ปาน อารอนก็หัวเราะหน้าดำหน้าแดงไปหมด
“สมน้ำหน้า คาสโนวาอย่างนายถ้าถูกตอนเป็นขันทีก็ดีเหมือนกัน”
“เฮ้ย! ไอ้พี่ชาย ทำไมแช่งกันแบบนี้ล่ะครับ”
รอสส์ร้องโวยวายดังลั่น ทำท่าจะวางมวยกับอารอน หลังจากถูกอีกฝ่ายเยาะเย้ยไม่หยุด แถมยังแช่งเขาให้เป็นขันทีซะด้วย
เมื่อเข้ามาเห็นว่าที่รอสส์แหกปากตะโกนลั่นบ้านเป็นเพราะฝันร้าย และหลังจากแกล้งให้น้องชายโกรธจนต้องกัดฟันดังกรอดๆ แล้ว อารอนก็ผุดลุกขึ้นยืน โดยไม่ลืมเค้นเสียงแกล้งเป็นการส่งท้ายด้วย
“ไม่แช่งก็ได้ ขืนนายถูกตอนเป็นขันที นายก็อดทำหน้าที่เป็นพ่อพันธุ์ปั้มหลานให้กับมาดาม ตอนนี้ได้ข่าวแว่วๆ ว่า มาดามคัดเฟ้นเจ้าสาวมาให้นายกับเรอัลได้เรียบร้อยแล้ว ไม่เกินสองอาทิตย์ พวกนายก็ต้องแต่งงานตามคำบัญชาของมาดาม”
“ไอ้อารอน ไอ้พี่ชายบ้า ไอ้ปากมอม ขู่ให้กลัวอยู่ได้”
รอสส์ตะโกนด่าไล่หลังร่างใหญ่กำยำที่ลุกเดินตรงไปยังประตูห้องแล้ว
“ฮ่าๆๆ”
อารอนหัวเราะร่วนด้วยความสะใจที่แกล้งน้องชายคนเล็กได้ และก่อนจะเดินพ้นประตูห้องก็ไม่ลืมหันมายักคิ้วใส่ เอ่ยเตือนด้วยความหวังดี
“เดี๋ยวพี่จะแวะไปดูไอ้เรอัลสักหน่อยว่ามันฝันร้ายเหมือนนายหรือเปล่า อ้อ...รอสส์ โบราณว่าไว้ ฝันร้ายจะกลายเป็นจริง นายอย่าลืมซื้อกระจับมาใส่เพื่อป้องกันน้องชายของนายด้วยล่ะ”
“ฝันร้ายกลายเป็นจริง ไม่เคยได้ยินเว้ย! มีแต่ฝันร้ายกลายเป็นดีเท่านั้น”
รอสส์ตะโกนแก้ไขคำพูดของพี่ชาย ซึ่งอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ฟัง นอกจากส่งเสียงหัวเราะดังลั่นด้วยความชอบใจที่แกล้งเขาได้