บท
ตั้งค่า

พ่อเลี้ยงบำเรอกาม /13

“ฮ่ะๆ เธอดูเอกสารทุกฉบับครบหรือยัง ใบกรรมสิทธิ์บ้านหลังนี้ระบุชื่อสุดารัตน์ไม่ใช่เธอ อย่ามายืดเยื้อ ยังไงฉันก็มีสิทธิ์ครอบครองบ้านหลังนี้ ถ้าเธอไม่มีเงินมาไถ่คืน”

“บ้านหลังนี้เป็นของแสงดาว คุณจะมาเอาไปหน้าด้านๆ ไม่ได้”

หงส์จิรามองเลยไปถึงร่างสูงที่ลงบันไดมาเรื่อยๆ ปรมัยได้ยินเสียงโต้เถียงกันก็เลยลงมาดู เขาได้ยินในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ และเชื่อว่าหงส์จิราต้องเปลี่ยนแปลงสัญญาการกู้เงินแน่นอน

“โอ๊ะ! พ่อเลี้ยง...กับลูกเลี้ยงอยู่บ้านนี้ด้วยกันสองต่อสองหรือนี่”

เธอกวาดตามองผู้ชายหล่อเหลาหุ่นน่าเจี๊ยะแล้วน้ำลายสอ น่าอิจฉาสุดารัตน์เพื่อนของเธอจริงๆ ที่ได้สามีรูปงามขนาดนี้

“นี่สุดารัตน์จะรู้บ้างหรือเปล่าว่าลูกกับผัวกำลัง...”

“ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องสอดรู้สอดเห็น เรามาพูดกันเรื่องหนี้สินของพี่ดากันดีกว่า ผมไม่เชื่อว่าพี่ดาจะเป็นหนี้คุณเยอะขนาดนั้น ตัวเลขนั่นคุณจะปฏิเสธไหมว่าไม่ได้เมคมันขึ้นมาเอง”

แสงดาวมองปรมัยอย่างรู้สึกว่ายืนอยู่ข้างกำแพงหินแข็งแกร่ง เขาทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหลังจากที่นั่งหนาวอยู่ต่อหน้าหงส์จิรามาสักพัก

“อะไร อย่ามากล่าวหากันพล่อยๆ ฉันมีหลักฐานมากขนาดนี้คุณจะปฏิเสธอีกเหรอ”

“หลักฐานของคุณมันเป็นของปลอมยังไงเล่า กลับไปซะ แล้วเตรียมพบกันที่ศาลได้เลย”

“แล้วคุณมายุ่งอะไรด้วย นี่มันเรื่องของแม่ที่ลูกอย่างแสงดาวต้องรับผิดชอบ หรือคุณจดทะเบียนสมรสกับสุดารัตน์ล่ะ จะได้ช่วยกันรับผิดชอบซะเลย”

“ไม่มีทางที่พี่ดาต้องเป็นหนี้มากขนาดนี้ หนี้จริงๆ ของพี่ดามีแค่ครึ่งเดียว แล้วถ้าคุณจะมาเพื่อกดดันให้แสงดาวหาเงินมาใช้หนี้แทนแม่ ก็ควรจะมีหลักฐานของจริงมาให้ดู”

“หึ อย่ามาทำหัวหมอกับฉันนะ หลักฐานนี่คือของจริง”

“ผมจะต้องหาหลักฐานจริงมาฟ้องคุณกลับแน่ๆ กลับไปซะ จนกว่าทนายความของผมจะติดต่อกลับไป”

“ไอ้...” หงส์จิราตวัดนิ้วชี้หน้าปรมัย “แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!”

หงส์จิรายอมกลับไปหลังจากที่ปรมัยแข็งข้อไม่โอนอ่อนให้ เขาอยู่กับสุดารัตน์มานานพอสมควร แม้เรื่องบางเรื่องจะไม่ทราบ ก็ใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินมาบ้าง ช่วงนั้นเขาอาจจะไม่สนใจและสุดารัตน์ก็ไม่อยากให้รู้ แต่ปรมัยเชื่อมั่นว่าตัวเลขที่แท้จริงต้องไม่มากเท่านี้แน่ๆ

“พี่ปิงขา เราจะทำยังไงกันดี” ถ้าแสงดาวอยู่คนเดียว ป่านนี้เธอคงแย่ไปแล้ว

“ไม่ต้องกลัว พี่ดาไม่ใช่คนสะเพร่า เราต้องมีเอกสารฉบับจริงแล้วฟ้องกลับหงส์จิราให้หน้าหงาย”

“ดาวไม่คิดเลยว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ แม่เตือนดาวแล้ว แม่ต้องรู้ล่วงหน้าแน่ๆ”

“ใช่ พี่ดาถึงห่วงเธอมากยังไงล่ะ”

“แล้วพี่ปิงจะหาเอกสารฉบับจริงจากไหนล่ะคะ”

“ไม่ต้องห่วง” ปรมัยยิ้มบางๆ “ฉันต้องหามันเจอแน่ๆ”

แสงดาวโถมตัวกอด ถ้าไม่มีปรมัยเธอจะอยู่ยังไง

“ดาวขาดพี่ปิงไม่ได้”

“เธอต้องเดินหน้าต่อไปแสงดาว แม่เธอคงไม่อยากเห็นความอ่อนแอของเธอ” เขาดันตัวเธอออกห่าง

“ดาวจะหางานทำ หาเงินมาใช้หนี้” เธอบอก ยังไม่รู้ว่าจะทำงานอะไร ที่ไหน อย่างไร แต่เธอต้องมีเงินเพื่อจะปลดหนี้แทนแม่

“เธอควรจะเรียนต่อให้จบ”

“ไม่รอแล้ว ยิ่งนานไปกว่านี้ หนี้สินก็จะยิ่งพอกพูน”

“อายุแค่นี้ เรียนก็แค่ม.ปลาย งานที่ไหนจะเงินดีขนาดเธอเก็บเงินมาใช้หนี้นับล้านในเวลาไม่กี่เดือน”

“ต้องมีสิคะ ต้องมีสักงานที่ได้เงินดีๆ ดาวจะไปหา”

ว่าแล้วแสงดาวก็กระชับสายกระเป๋าที่คล้องไหล่อย่างหมายมั่น ปรมัยส่ายหน้า เขายังไม่เห็นงานอะไรจะให้ค่าตอบแทนที่ดีขนาดนั้น นอกจากแสงดาวจะทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่ต้องนอน ไม่ต้องพัก คงทำได้เต็มที่สักอาทิตย์เดียวก็เปลี่ยนจากที่ทำงานไปนอนโรงพยาบาลแทน

“จะไปไหน”

“ดาวจะไปหาเพื่อนค่ะ ดาวมีเพื่อนคนหนึ่งทำงานดี ทำงานเดือนเดียวก็มีเงินซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบละเป็นแสน บางทีดาวอาจจะขอทำด้วยก็ได้”

“แสงดาว...เดี๋ยว!” ปรมัยเรียก แต่แสงดาวไม่หยุดฟังเสียง เธอขับรถที่คิดว่าอาจจะต้องขายทิ้งในเวลาอันใกล้ออกไป

“เด็กบ้า ทำไมไม่ฟังกันบ้างนะ” ปรมัยได้แต่สบถ และรอคอยว่าเด็กสาวจะกลับมาพร้อมข่าวดีหรือข่าวร้าย

แสงดาวมองตึก 8 ชั้นตรงหน้าอย่างพิจารณา เธอนัดกับอรทัยที่นี่ เพื่อนสาวคนสวยที่ทั้งตัวแพรวพราวไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือแม้แต่เครื่องประดับอย่างนาฬิกาก็ยังหลักหมื่นหลักแสน ลูกสาวเศรษฐีนีหม้ายอย่างเธอยังต้องมองเพื่อนตาโตทุกครั้งที่เห็น

เมื่อก่อนอรทัยเคยตัวดำปี๋ ดั้งแหนบ กรามใหญ่ ผิดแผกจากตอนนี้ที่รูปหน้านั้นเรียวมนงดงาม สีผิวก็ขาวผ่องเพราะกลูต้าไธโอนนานาชนิด ต่างกับแสงดาวที่ขาวเนียนมาแต่กำเนิด สวยน่ารักไม่ต่างจากมารดาของเธอ

แสงดาวก้าวเข้าไปในตึกตรงขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่ 7 สถานที่นัดพบแห่งนั้นคือโรงแรมระดับสี่ดาว อรทัยเป็นประชาสัมพันธ์สาวสวยที่ยืนโบกไม้โบกมือให้เพื่อนทันทีที่เห็นไกลๆ แสงดาวยิ้มกว้างพลางคิดว่าอรทัยสวยขึ้นกว่าเดิมอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel