ย้อน4 เกิดอะไรขึ้น
ณ.บริษัทJ.PL.Cars จำกัด
"พี่จินคะ พิมพ์เดินเข้าไปพร้อมกับพี่ไม่ได้หรอคะ ตอนนี้เราก็คบกันมา7ปีแล้วนะ อีกอย่างตอนนี้พิมพ์ก็กำลัง..."เพลงพิณที่ก้าวลงจากรถหรูเดินเข้ามากอดแขนแกร่งของจินอย่างหลวมๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นอย่างออดอ้อนพร้อมกำลังจะอ้างเรื่องลูกในท้อง แต่ทว่ายังเอ่ยไม่ทันจบประโยคน้ำเสียงทุ้มต่ำของจินก็เอ่ยขัดขึ้นมาซะก่อน
"พิมพ์ พี่บอกพิมพ์ตลอดว่าพี่ไม่อยากให้บริษัทของพี่มีข่าวเสียหาย แล้วก่อนคบกันพิมพ์ก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่หรอว่าเข้าใจในตรงนี้"ณภัทรพูดขึ้นเสียงต่ำพลางนัยน์ตาคมก็จ้องมองไปที่แฟนสาวของตัวเองด้วยแววตานิ่งเกิดจะขาดเดา ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาจินเขานั้นยอมตามใจแฟนสาวของตัวเองทุกอย่าง
แต่ทว่าถ้าเป็นเรื่องบริษัทJ.PL.Carsจินไม่เคยปล่อยปละละเลยเลยสักครั้ง เขาจะไม่ยอมให้ชื่อเสียงบริษัทที่เขาพยายามกอบกู้มากว่า5ปีต้องมามีมลทินเรื่องไม่ดีแน่ๆ และตลอดเวลาที่เขาคบกับเพลงพิณมาเขาก็จะบอกชัดเจนกับเพลงพิณตลอด ว่าให้แบ่งแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ชัดเจนไม่ให้เธอนั้นมาอวดเบ่งกับพนักงานคนอื่นว่าเป็นแฟนของเจ้าของบริษัทที่นี้
เดิมทีเพลงพิณนั้นไม่ได้ทำงานที่บริษัทของเขาหรอกเธอพึ่งจะเข้ามาทำงานที่แผนกบัญชีหลังจากคบหากับเขาได้3ปี และที่เธอเข้ามาทำงานที่นี้เพราะเธอโดนพนักงานที่บริษัทเดิมเอาเปรียบก็เลยย้ายมาสมัครที่บริษัทของเขา แต่เขาก็ไม่เคยใช้เส้นสายให้เธอ จินนั้นบอกชัดอยู่แล้วว่าถ้าเธออยากเขาเธอต้องใช้ความสามารถของตัวเองให้ฝ่ายบุคคลเห็น และสุดท้ายเธอก็ผ่านเขามาจริง
และตลอด4ปีที่เธอทำงานที่นี้จินก็แสดงชัดและบอกกับเพลงพิณว่าเราต้องไม่แสดงความสัมพันธ์ให้พนักงานคนอื่นรู้ เพราะเดี๋ยวจะเกิดข่าวลือไม่ดีขึ้น
"พี่จินอะไรๆก็บริษัท พี่จินไม่นึกถึงความรู้สสึกพิมพ์บ้างเลย พิมพ์เป็นเมียพี่นะและกำลังจะเป็นแม่ของลูกพี่ พิมพ์ไม่ใช่เมียเก็บนะ!"เพลงพิณพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจพลางมือน้อยก็ทุบอกของจินอยู่ซ้ำๆ จนจินที่เริ่มมีน้ำโหต้องคว้าแขนของพิมพ์มากำไว้แน่นแล้วเอ่ยไล่แฟนสาวกลับบ้านไปด้วยสีหน้าแสดงความโกรธ
"พูดไม่รู้เรื่องแล้วนะพิมพ์ ถ้ายังเป็นแบบนี้ก็กลับบ้านไปอย่างมาอาละวาดที่บริษัทของพี่!"
"พะ พี่จินตะคอกพิมพ์ อึก ตั้งแต่คบกันมาพี่จินไม่เคยขึ้นเสียงใส่พิมพ์สักครั้ง ครั้งนี้พี่จินดุพิมพ์ ฮึก พี่จินดุพิมพ์ ฮื่ออออ"เพลงพิณแกล้งบีบน้ำตาพร้อมกับนั่งยองๆลงที่พื้นกอดเข่าซบใบหน้าลงที่เข่าของตัวเอง ปล่อยเสียงสะอึกสะอื้นออกมาให้คนพี่ที่ขึ้นชื่อว่าแฟนของตัวเองได้ยินเพื่อเรียกคะแนนสงสาร
แต่ทางด้านณภัทรที่เห็นแฟนสาวนั่งกอดเข่าร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ที่พื้นก็ได้แต่ถอดถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พร้อมกับกลอกตามองบน เพราะจินรู้ว่าแท้จริงแล้วหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าแฟนของเขานั้นไม่ได้เสียใจอะไรเลย ในตอนนี้เธอเพียงแค่แกล้งทำตัวให้น่าสงสารเพื่อทำให้เขาใจอ่อนทำตามในสิ่งที่เธอต้องการ
"เฮ่ออออ พี่ว่าวันนี้พิมพ์กลับไปพักผ่อนอยู่บ้านเถอะ เดี๋ยวพี่โทรให้คนที่บ้านมารับพิมพ์นะ พี่ต้องรีบไปประชุมเดี๋ยวต้องออกไปคุยกับลูกค้าข้างนอกอีก พี่ไปนะ ดูแลตัวเองดีๆนะครับ"เอ่ยสาธยายยาวเหยียดกับแฟนสาว ก่อนที่จะก้าวเดินหนีออกมาปล่อยให้เพลงพิณนั่งแสดงสีหน้างงงวยอยู่ตรงนั้นคนเดียว
อีกด้าน
"ภูมิลูก"เสียงของคุณหญิงวราศิริเอ่ยรั้งลูกชายที่วันนี้ดูท่าจะอารมณ์ดีกว่าทุกวันไว้
"ครับคุณแม่ คุณแม่เรียกผมทำไมครับ"ชายหนุ่มตัวสูงบนใบหน้าประดับด้วยแว่นสายตาหันมาตอบผู้เป็นมารดาพลางฝ่ามือหนาก็ยกขึ้นมาดันแววตาที่เคลื่อนลงเล็กน้อยให้กลับเข้าที่เหมือนเดิม ก่อนที่จะเลื่อนลงมาจัดชุดสูทและเช็กเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อยอีกครั้ง
"หื้มมมมทำไมวันนี้ลูกแม่แต่งตัวหล่อกว่าทุกวันเนี่ย แถมวันนี้ยังเซทผมอีกด้วย"หญิงวัยกลางคนเอ่ยแซวลูกชายตัวสูงพลางนัยน์ตาที่เริ่มมีอายุก็มองลูกชายด้วยแววตาหยอกล้อ
"คุณแม่ไม่แซวกันสิครับ คุณแม่ก็รู้ว่าวันนี้ผมต้องออกไปเจรจากับจิน"ทักษกรเอ่ยพูดกับผู้เป็นแม่พลางมือหนาก็ยกขึ้นมาลูบที่ต้นคอตัวเองอย่างเก้อเขิน
"ขนาดยังไม่ได้ไปคุยลูกของแม่ยังเขินหน้าแดงขนาดนี้ ถ้าได้เจอหนูจินจริงๆเราจะคุยงานกับหนูจินรู้เรื่องมั้ยเนี่ย"วราศิริเอ่ยแซวลูกชายตัวเองขึ้นอีกครั้งพลางมือที่เริ่มดูมีอายุก็เอื้อมขึ้นมาจัดเนกไทที่เบี้ยวเล็กน้อยให้ตรง
"ฮื่อคุณแม่ครับอย่าแซวผมนักสิ แค่นี้ผมก็ตื่นเต้นจนมือสั่นไปหมดแล้ว คุณแม่ว่าเจอกันครั้งนี้จินจะยอมคุยกับผมดีๆมั้ยครับ เมื่อ2เดือนก่อนที่ผมเตือนจินเรื่องผู้หญิงคนนั้นจินดูจะโกรธผมมากเลย"ภูมิแสดงสีหน้าหม่นหมองพลางเอ่ยถามวราศิริด้วยน้ำเสียงเบา
เมื่อนึกถึงเมื่อ2เดือนที่เขาบังเอิญเจอจินชายหนุ่มคนที่เขาแอบชอบมานานที่โรงแรม5ดาวสถานที่ที่เขานัดคุยธุรกิจ เขาได้เอ่ยเตือนกับจินเกี่ยวกับหญิงสาวที่จินคบหาอยู่ว่าเธอนั้นไม่ได้รักจินจริงๆและเธอก็แอบคุยกับคนอื่นลับหลังของจิน
แต่ทว่าจินกลับไม่เชื่อเขาเลยและยังหาว่าเขาต้องการทำให้ตัวเองผิดใจกับแฟนสาว มิหนำซ้ำยังว่าให้เขาอีกว่า
"นี่ต้องใส่ร้ายกันขนาดนี้เลยหรอ แค่เราเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกันนายต้องใส่ร้ายแฟนของฉันขนาดนี้เลยหรอภูมิ เหอะ นายนี้มันเลวจริงๆ ฉันไม่น่าเคยเป็นเพื่อนกับคนอย่างนายเลย"
"เฮ่อออเราแค่มอบความหวังดีให้เขา ถ้าเกิดเขาไม่อยากรับก็ไม่เป็นไร ภูมิลูกแม่ทำดีที่สุดแล้วไว้เราค่อยๆเตือนหนูจินใหม่ดีมั้ย ครั้งนี้เราต้องมีหลักฐานให้หนูจินดูด้วยนะ"คุณหญิงวราศิริเอ่ยปลอบลูกชายพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบหัวทุยของภูมิเบาๆ ก่อนที่จะส่งยิ้มอ่อนหวานให้กับลูกชายตัวสูง
"ครับ ไว้ภูมิจะบอกคนที่ภูมิส่งให้แอบตามดูจินกับผู้หญิงคนนั้น ให้ถ่ายภาพตอนที่เธอแอบไปทำอะไรลับหลังจินไว้เป็นหลักฐาน ครั้งหน้าจินต้องเชื่อในคำพูดของผม"ว่าจบภูมิก็ยืนคุยกับผู้เป็นแม่อีกนิดหน่อย ก่อนที่เจ้าตัวจะขอตัวเพราะเดี๋ยวจะสายที่นัดคุยเจรจากับจิน
ณ.ร้านอาหาร
ณภัทรที่มาถึงร้านอาหารก่อนภูมิก็นั่งมองแฟ้มเอกสารในมือพลางในหัวก็ฉายภาพเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ภาพที่เขาโมโหและทะเลาะมีปากเสียงกับชายหนุ่มตัวสูงแล้วลงมือปาแฟ้มเอกสารในมือใส่หน้าของทักษกร จนทำให้แว่นสายตาของคนตัวสูงแตก และสาเหตุที่ทำให้จินโมโหขนาดนั้นก่อนที่จะย้อนเวลามา ก็เป็นเพราะภูมิเอ่ยเตือนเรื่องเพลงพิณอีกนั่นแหละ
แต่ในตอนนั้นด้วยความที่เขาอคติคิดว่าภูมิที่เป็นลูกชายเจ้าของบริษัทคู่แข่ง ต้องการที่จะทำให้เขาไขว้เขวมีปากเสียกับแฟนสาวจนทำให้ละเลยในเรื่องงานจนผิดพลาดส่งผลให้บริษัทเสียชื่อเสียง และสุดท้ายผลประโยชน์ทุกอย่างก็จะตกไปทางบริษัทของคุณพ่อของภูมิทั้งหมด
ในตอนนั้นเขายอมรับเลยว่าเขาเป็นคนที่มีอคติกับภูมิมากจริงๆ จนลืมไปว่าภูมิเองก็เป็นเพื่อนคนหนึ่งของเขาที่นิสัยดีมากๆคนหนึ่ง เขาลืมไปจริงๆ
ตอนนั้นเขามันตาบอดและเชื่อใจผู้หญิงคนนั้นมากเกิดไป
"ตอนนั้นเรานี่มันโง่จริงๆ"ณภัทรสบถออกมาเสียเบาพร้อมกับหัวเราะในลำคอ ก่อนที่นัยน์ตาสีน้ำตาลจะทอดมองไปยังร่างของชายหนุ่มตัวสูงที่อยู่ในชุดสูทสีกรมเรียบหรูพลางบนใบหน้าหล่อก็ประดับด้วยแว่นสายตาเหมือนทุกทีที่เจอกัน กำลังเดินตรงเข้ามา
เจ้าของส่วนสูงร้อยแปดสิบเมื่อเห็นว่าคนที่นัดคุยเจรจาธุรกิจในวันนี้เดินตรงมาทางตัวเองที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว ก็ดันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอย่างประหม่าพลางมือทั้งสองข้างก็จับกระชับสูทตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนที่จะกระแอมไอเบาๆแล้วทักทายชายหนุ่มผู้ที่พึ่งมาถึงอย่างเก้ๆกังๆ
"อะหึม เอ่อสวัสดี นะ นายสบายดีนะ"จินเอ่ยทักภูมิขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มน้อยๆ พลางมือหนาที่ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนก็ยกขึ้นลูบท้ายทอยตัวเอง ส่วนภูมิที่พึ่งเดินมาหยุดตรงอีกฝั่งของโต๊ะก็พลันทำสีหน้าเหลอหลา นัยน์ตาคมเบิกขึ้นกว้างอย่างไม่เข้าใจท่าทีของคนตรงหน้าว่าเหตุใดถึงได้ทักทายเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแบบนี้แถมยังไม่ได้แสดงสีหน้าบึ้งตึงเหมือนเคยอีกต่างหาก
นี้มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจินถึงส่งยิ้มให้เขา ทำไมจินถึงพูดจาดีกับเขาแบบนี้
