บทที่ 7 นวดผ่อนคลาย
เหมาเสี่ยวถงตื่นขึ้นมาในยามสาย ชายหนุ่มนอนเหม่อมองเพดานนิ่งเฉย นานแค่ไหนกันที่ไม่ได้ตื่นขึ้นมาพร้อมความสดชื่น และรู้สึกหลับสบายได้เท่าแบบนี้มาก่อน การเปลี่ยนไปของจือหลินมันยังไม่มากพอจะทำให้เขาเชื่อใจนางได้ในทันที และการกระทำของนางไม่แน่อาจจะมีอะไรแอบแฝง นางอาจจะทำให้เขาและบุตรชายตายใจ จากนั้นก็ค่อยหนีตามชู้รักไปก็ได้
จะมีสตรีใดยอมทนอยู่กับคนป่วยนอนติดเตียง และยังให้ความสุขนางไม่ได้ทุกทาง
แอ๊ดดด
เสียงประตูเปิดออกทำให้เหมาเสี่ยวถงตื่นจากภวังค์ เขาหันกลับไปมองหน้าประตูก็พบว่าคนที่เข้ามาคือภรรยาของเขาเอง แต่เมื่อทั้งสองสบตากันกลับเป็นเขาเสียเองที่ไม่อาจสู้ได้ จำต้องเบือนหน้าออกไปอีกทางแทน
“ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” หลังจากที่ทำงานในครัวเสร็จนางจึงได้เข้ามาดูอีกครั้งว่าเขาตื่นหรือยัง เพราะนี่ก็สายมากแล้ว แต่เมื่อสังเกตให้ดีกลับพบว่าเหมาเสี่ยวถงมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก นางจึงเริ่มเป็นกังวลกลัวว่าเขาจะเจ็บป่วยขึ้นมาอีก
“ท่านเป็นอะไรหรือเจ้าคะ เจ็บตรงไหนบอกข้ามาเร็วเข้า” ทันทีที่เห็นว่าสามีสีหน้าไม่สู้ดีนักนางก็เริ่มจะร้อนใจ ร่างบางถลาเข้าไปหาเหมาเสี่ยวถงอย่างรวดเร็ว พยายามมองหาความผิดปกติจากเขา
“ข้า ก็แค่...” เขาจะพูดได้อย่างไรว่าตอนนี้ปวดหนักจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ครั้นจะให้ปล่อยออกมาเลอะเปรอะเปื้อนที่นอนใหม่ มันทั้งนุ่มและหอมกรุ่น เขาจะปล่อยของเสียไม่ได้อย่างไรก็ทำไม่ลง ทั้งชีวิตนี้เขาจะมีปัญญาที่ไหนหาที่นอนที่นุ่มสบายได้ถึงเพียงนี้ และมันก็คงจะมีราคาแพงมาก
“บอกข้ามาสิท่านเป็นอะไร หรือว่าปวดหลังหนักมาก ทนสักนิดได้หรือไม่ข้าจะไปตามท่านหมอมาเดี๋ยวนี้เลย” อาการปวดหลังของเขาแต่ละครั้งมันช่างหนักหนานัก ไม่ได้การนางจะต้องรีบไปตามท่านหมอให้เร็วที่สุด
แต่ในตอนที่นางกำลังจะหันหลังวิ่งออกไป กลับถูกคนป่วยร้องเรียกไว้เสียก่อน จึงได้รู้ถึงเหตุผลที่เขาเป็นอยู่คืออะไรกันแน่
“เดี๋ยว! คือว่าข้า... ข้าปวดหนัก” เขากลั้นใจตอบออกไปในที่สุด แม้จะรู้สึกอับอายแต่หากปล่อยไว้นานกว่านี้เห็นทีเขาจะกลั้นไม่อยู่ คงได้ปล่อยมันออกมาตรงนี้เป็นแน่
“ทนก่อนนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้ามา” ที่แท้เขาก็แค่ปวดหนักหรอกหรือโล่งอกไปที
จือหลินรีบออกไปด้านนอกเพื่อหาที่ลับตาคน จากนั้นนางจึงได้เลือกของจากแอปชอปปิงในไอแพด เลือกหาเก้าอี้นั่งถ่ายสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ออกมา ตัวเก้าอี้ทำจากเหล็กลักษณะเหมือนรถเข็นมีล้อ วินาทีนั้นนางไม่ได้สนใจแล้วว่าเหมาเสี่ยวถงจะสงสัยอะไรในตัวนางบ้าง ขอเพียงแค่กลับไปให้ทันก่อนที่เขาจะขับถ่ายออกมาก็พอ
เมื่อได้เก้าอี้สำหรับขับถ่าย หญิงสาวก็ได้เดินแกมวิ่งเข็นมันเข้ามาในห้อง ก่อนจะอุ้มยกร่างผอมแห้งหนังติดกระดูกของชายหนุ่มขึ้นนั่ง จากนั้นนางก็เข็นเข้าห้องน้ำไป
“เสร็จแล้วก็บอกข้านะเจ้าคะ ข้ารออยู่ด้านนอก”
หลังจากที่จือหลินออกไปแล้ว เหมาเสี่ยวถงจึงได้ปล่อยของเสียออกมาในที่สุด มันทั้งรู้สึกโล่งและสบาย อีกทั้งรู้สึกดีที่ตนเองนั้นไม่ได้ปล่อยมันใส่ที่นอนแสนนุ่มสบาย เขาใช้เวลาในการทำธุระส่วนตัวจนแล้วเสร็จ จึงได้ร้องบอกให้คนที่รออยู่ด้านนอกเข้ามาได้
“ข้าเสร็จแล้ว”
จือหลินได้ยินสามีร้องเรียก นางจึงได้กลับเข้ามาในห้องน้ำอีกครั้ง ก่อนจะยกตัวเขาขึ้นล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นจึงได้อุ้มกระเตงกันเข้ามานอนในห้องนอนเช่นเดิม
กว่าจะพาเขากลับมานอนได้สำเร็จก็เล่นเอาร่างบางต้องเหนื่อยหอบ แม้เหมาเสี่ยวถงจะผอมแห้งแต่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นบุรุษ โครงร่างยังดูสูงใหญ่ นางซึ่งเป็นสตรีตัวเล็กอย่างไรก็ต้องใช้แรงมากเป็นเท่าตัวในการอุ้มเขาไปไหนมาไหน
“ท่านรอข้าก่อนนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าจะออกไปทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วจะเอาข้าวมาให้ทาน”
“อืม” คล้อยหลังภรรยาออกไปแล้ว แววตาที่แข็งกร้าวมาตลอดกลับดูอ่อนลง เป็นไปได้อย่างไรที่นางจะคอยเช็ดล้างดูแลเขาได้ถึงเพียงนี้ นางที่รักสวยรักงามมาตลอดแทบจะไม่มาหยิบจับทำเรื่องพวกนี้ได้เลย วันนี้กลับดูแลเขาที่ป่วยติดเตียงช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ถูกนางทำดีด้วยได้เพียงแค่วันเดียวห้ามใจอ่อนเด็ดขาด
หญิงสาวออกมาเก็บกวาดทำความสะอาดเก้าอี้ขับถ่ายแล้วนำไปเก็บให้เรียบร้อย ก็ได้จัดเตรียมอาหารไว้ให้เหมาเสี่ยวถงไว้ด้านนอก ด้วยเห็นว่าเขาเอาแต่อุดอู้อยู่แต่ในห้องนอนมานานมากแล้ว อยากจะให้เขาได้สูดอากาศบริสุทธิ์และเปลี่ยนบรรยากาศด้านนอกบ้าง
จือหลินเอาเก้าอี้ไม้โยกออกมาสามตัว จากนั้นก็กระจายไว้ตามมุมบ้านสองตัว อีกหนึ่งตัววางไว้ตรงหน้าบ้านหลังน้อย เมื่อดูให้ดีนางก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตก บ้านที่เหมือนจะพังแหล่ไม่พังแหล่นี่มันอันใดกัน มิใช่ว่าพอฝนตกคงจะไม่พ้นหาชามมารองน้ำฝนไว้หรอกหรือ เห็นทีว่านางจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย จือหลินจึงได้เข้าไปแบกสามีขึ้นหลังพาเขาออกมานั่งด้านนอก อีกหนึ่งปัญหาที่นางประสบพบเจอในตอนนี้ คือการต้องแบกสามีขึ้นหลังย้ายเขาไปโน่นมานี่ มันทำให้นางรู้สึกปวดหลังขึ้นมาเสียแล้ว คงไม่พ้นต้องเข้าไปเลือกซื้อของในแอปชอปปิงหารถเข็นดี ๆ สักคัน จะได้ไม่ต้องเหนื่อยเช่นนี้ แต่ที่แน่ ๆ หลังจากป้อนข้าวเขาเสร็จนางคงต้องหายาคลายกล้ามเนื้อมานวดหลังเสียหน่อยแล้ว
เหมาเสี่ยวถงเห็นเก้าอี้ไม้โยกอย่างดีที่ภรรยาพาเขามานั่ง ชายหนุ่มก็เริ่มขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่งไปหมด ของมากมายที่นางใช้มักจะเป็นของดีหายากและมีราคาแพง บางอย่างเขาเชื่อว่าในแคว้นนี้ไม่มีขายแน่นอน แล้วนางนำของพวกนี้มาจากที่ใด
“เจ้าเอาเงินมาจากที่ใดซื้อของพวกนี้ ไม่ใช่ว่าไปทำเรื่องไม่ดีมาหรอกนะ” แววตาอันแข็งกร้าวตวัดมองด้วยความไม่พอใจ เพราะคิดว่าจือหลินต้องทำเรื่องไม่ดีมาถึงได้มีเงินมากมายใช้จ่ายอย่างไม่ประมาณตนเช่นนี้ได้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น นางควรจะเลือกทิ้งเขากับเสี่ยวหลงไปไม่ดีกว่าหรือ
“ข้าไม่มีวันทำอย่างที่ท่านพูดอย่างแน่นอน เอาไว้ให้ท่านพี่แข็งแรงมากกว่านี้ แล้วข้าจะบอกความจริงกับท่าน” จือหลินคิดเอาไว้แล้วว่าจะรอให้สามีดีขึ้นกว่านี้สักหน่อยนางก็จะบอกเรื่องของวิเศษกับเขา ส่วนเรื่องที่ตนได้ย้อนเวลากลับมาจะเก็บเอาไว้เป็นความลับตลอดไป
เพราะเรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้เกิดบาดแผลในใจของทั้งเขาและบุตรชาย
“เฮอะ! แล้วข้าจะคอยดู คนที่ทำอะไรไม่เป็นเช่นเจ้าจะทำได้อย่างที่พูดหรือไม่”
“ท่านสบายใจได้เลย อย่างไรข้าก็ทำได้อย่างที่พูดแน่นอน อ้าปากได้แล้วเจ้าค่ะ ข้าวเย็นหมดแล้ว”
จือหลินจ่อช้อนที่ตักโจ๊กรอป้อนสามีสุดที่รัก แม้เขาจะทำท่าทีหมางเมินใส่แค่ไหนนางก็จะไม่โกรธ เพราะสาเหตุทุกอย่างมันเกิดขึ้นที่ตัวนางเอง ฉะนั้นนางจะต้องแก้ไขมันด้วยตัวเองถึงจะถูก
เหมาเสี่ยวถงอ้าปากรับโจ๊กหมูที่อุ่นกำลังดีเข้าปาก จากนั้นก็ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาจากปากคนทั้งคู่อีกเลย ไม่นานอาหารในชามก็หมดลงอย่างรวดเร็ว แม้คนปากหนักจะไม่พูดอะไรออกมาจือหลินก็รู้ได้ด้วยตัวเอง อาหารฝีมือนางนั้นอร่อยจนไม่เหลือติดชามเลยสักเม็ด
หลังจากป้อนข้าวเขาจนอิ่ม จือหลินจึงได้ให้เขากินยาวิตามินเพื่อบำรุงร่างกาย ในระหว่างที่นางพยายามหาหมอมารักษาเขาให้หาย นางก็จะบำรุงร่างกายเหมาเสี่ยวถงทุกวิถีทาง เพื่อเตรียมความพร้อมหากได้หมอฝีมือดีก็จะได้เริ่มการรักษาได้ทันที
แม้เหมาเสี่ยวถงจะยังไม่ไว้ใจเมื่อภรรยาเอาของบางอย่างให้กิน กระนั้นก็ยังรับมันเข้าปากโดยที่ไม่ได้ถามอะไร จากนั้นนางได้หายเข้าไปภายในบ้าน ปล่อยให้เขานั่งรับลมอยู่คนเดียว หลังจากที่ไม่ได้ออกมาสูดอากาศยามเช้านานมากแล้ว มันช่างรู้สึกสดชื่นยิ่งนัก
ชายหนุ่มหลับตาลงซึมซับเอาความสดชื่นเข้าเต็มปอด แต่ทว่าเขากลับรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างอุ่นกำลังดีอยู่ที่เท้า
“แช่เท้าสักหน่อยนะเจ้าคะ จะได้ผ่อนคลาย” ในขณะที่สามีแช่เท้าในน้ำอุ่น จือหลินก็คอยนวดเท้าของเขาไปด้วย ทั้งขาแขนของเขาไม่ได้มีการใช้งานเป็นเวลานาน จึงทำให้อ่อนแรงแทบไม่มีกล้ามเนื้อเลย นางจึงอยากจะนวดเพื่อให้เลือดลมไหลเวียนดียิ่งขึ้น
“สบายหรือไม่เจ้าคะ” เพราะอีกฝ่ายเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา นางจึงได้เอ่ยถาม
“อืม”
เสียงตอบรับจากเหมาเสี่ยวถงไม่มีอะไรมาก เพียงแค่อืออาในลำคอเท่านั้น เมื่อจือหลินแหงนหน้าขึ้นมองกลับพบว่าอีกฝ่ายหลับตาพริ้มสบายอารมณ์
เหมาเสี่ยวถงที่ได้รับการปรนนิบัติเป็นอย่างดี อีกทั้งเก้าอี้ที่เขานอน มีเบาะนุ่ม ๆ และยังมีลมเย็น ๆ พัดเอื่อย ทำให้เหมาเสี่ยวถงที่เพิ่งกินข้าวอิ่ม ถึงกับง่วงนอนขึ้นมาอย่างง่ายดาย ไม่นานก็เข้าสู่ห้วงแห่งนิทราไปในที่สุด
