EP 7
เมื่อเขาจงใจจะก้าวมากันที่ไม่ให้อยู่ใกล้วารีได้ พอขึ้นไปชั้นแปด ประธานคนเก่าที่พนักงานทุกคนมักจะเรียกบอสจนติดปาก ก็พาไปดูห้องทำงานใหม่ทันที จากนั้นทั้งสองคุยกันสักพัก
“ตามสบายนะครับท่านประธาน ผมขอไปเตรียมตัวเข้าประชุมก่อน ถ้าท่านประธานอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็บอกคุณเอื้อยได้นะครับ”
“เรียกผมว่าภามก็ได้มั้งครับคุณติ” จตุรภัทรแอบเหน็บเพื่อนนิดๆ เพราะรู้ดีว่ากำลังถูกล้อด้วยการใช้ถ้อยคำกับกิริยาสุภาพจนเกินความจำเป็น
“ด้วยความยินดีครับ คุณภาม ผมขอตัวนะขอรับ” ยิ่งถูกเพื่อนเหน็บจิตตินันท์ก็ยังอยากแกล้ง
“ขอบคุณขอรับ”
เลยถูกอีกฝ่ายจิกตอบ สองเลขาได้แต่หันหน้าไปมองกันแบบงง เพราะไม่รู้ว่าอดีตประธานกับประธานคนปัจจุบันนั้นมีความสัมพันธ์กันมาก่อน
“ผมขอกาแฟเพียวๆ กับน้ำดื่มไม่เย็นหน่อยครับคุณเลขา ขอบคุณครับ เชิญครับ”
รภัสรดาแทบตั้งตัวไม่ทัน เมื่อถูกเขาสั่งเสียงหนักแน่น แถมตอนท้ายก็ผายมือไปทางประตู เป็นการไล่กรายๆ เลยได้แต่เดินออกจากห้องแล้วตรงไปจัดหากาแฟตามคำสั่งของเขาเท่านั้น
“ประธานคนใหม่ของเราโคตรหล่อเลยว่ามั้ยเอื้อย”
ขณะเลือกแก้วใบใหม่ที่ซื้อมาไว้ให้ท่านประธานโดยเฉพาะจากชั้นอยู่นั้น วารีที่ดูเหมือนจะมาชงกาแฟไปให้เจ้านายก็เอ่ยด้วยท่าทีเคลิ้มฝัน แม้จะอายุสี่สิบปลายๆ แล้ว มีสามีและมีลูกเรียนระดับปริญญาตรีแล้ว แต่ก็ไม่วายปลื้มเวลาเห็นผู้ชายหน้าตาดีๆ เพราะเป็นคนอารมณ์ดีเป็นทุนอยู่แล้ว
“เหรอคะพี่”
ทว่าอีกคนที่ปกติก็อารมณ์ดีอยู่เช่นกันนั้น บัดนี้กลับเกิดอาการอารมณ์บูดนิดๆ หนึ่งคือไม่คาดคิดว่าจะบังเอิญมาพบเจอเขาอย่างนี้ แถมยังต้องมาทำงานด้วยกันอีก เดาไม่ออกว่าบรรยากาศในออฟฟิศจะเป็นยังไง จะฉ่ำเย็นหรือร้อนระอุแค่ไหน
“แหม! ตอบแบบนี้แปลว่าไม่เห็นด้วยล่ะสิ อะไรกัน ถ้าขนาดนี้ไม่หล่อแล้วเอื้อยจะเอาขนาดไหนกันจ๊ะ เลือกเยอะนี่เองถึงยังไม่มีแฟนสักที”
“เลือกเยอะที่ไหนคะพี่รี วันๆ เอื้อยจะได้เจอใครคะ มีแต่ทำงานหน้าดำคร่ำเคร่ง”
แม้ในใจจะมีเรื่องให้ขบคิด แต่รภัสรดาก็กักและเก็บเอาไว้ได้ และพูดคุยสนุกสนานกับเพื่อนร่วมงานได้ราวกับไม่มีอะไรก็ไม่ปาน
“ต่อไปพี่ว่าเอื้อยจะหน้าดำคร่ำและเคร่งมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า เพราะดูท่าท่านประธานของเราคงเป็นพวกบ้างานแหงๆ เห็นบอส บอกว่าสามสิบเอ็ดแล้ว แต่ยังไม่มีแฟนสักคน คงมัวแต่ทำงานนั่นล่ะพี่ว่า”
รภัสรดามองตามหลังวารีที่ยกถาดกาแฟไปให้บอสด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ส่วนตัวเองนั้นกลับยิ้มไม่ออก ด้วยไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ตอนนี้ดี จะลาออกแล้วหางานใหม่ก็เสียดายเงินเดือนแปดหมื่นที่ยังไม่ได้รับสักบาท อีกทั้งงานดีๆ เจ้านายใจดีแบบ จิตตินันท์ก็หาได้ยากยิ่งในสมัยนี้ เลยได้แต่ถอนหายใจหนักๆ แล้วรีบยกกาแฟไปให้เจ้านาย
“ขอผมคุยด้วยหน่อยครับ”
ประธานหนุ่มมองกาแฟกับน้ำเปล่าตรงหน้า สลับกับมองเลขาสาวที่ทำท่าจะเดินออกจากห้อง พอถูกเรียกก็เลยหมุนตัวกลับมา นั่นทำให้เขามีเวลาได้มองเรือนร่างสวยได้รูป อกเป็นอก เอวเป็นเอว มีเดรสผ้าซาตินสีแดงสั้นระดับเข่า
สูทพอดีตัวสีเทาอ่อนๆ สวมทับไป เข็มขัดผ้าสีเดียวกับสูทรัดเอวอยู่นั้น ทำให้คะเนได้ไม่ยากว่าไม่น่าจะเกินยี่สิบสามนิ้วบวกลบไม่เกินหนึ่ง รองเท้าปลายแหลมส้นเข็มช่วยส่งให้ช่วงขาเรียวน่าลูบไล้ไม่น้อย
“คะ”
คนถูกผายมือให้นั่งรู้สึกกระดากไม่น้อย หากจะเรียกเขาในแบบที่เคยเป็น ทว่าก็กระดากอีกเช่นกันหากจะต้องเรียก ‘ท่านประธาน’ เหมือนคนอื่น เลยกำลังยืนอยู่กึ่งกลางว่าจะเอายังไงกันแน่
“คุณคงสบายดีนะ แต่ไม่บอกผมก็รู้แล้วล่ะ ว่าสบายมาก ไม่ได้เจอกันนาน ดูคุณเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ แต่ดีแล้วล่ะที่คุณเปลี่ยน ผมจะได้ไม่ต้องลำบากใจที่จะทำงานร่วมกับคุณ เอาเป็นว่าเรามาทำข้อตกลงร่วมกันสักสองสามข้อก่อนนะ”
“คะ” รภัสรดางงไม่น้อย กับการถามเองตอบเองของเขา เลยไม่รู้จะเอ่ยอะไรนอกจากนั่งตรงเก้าอี้หน้าโต๊ะเขา และตัวเองเป็นคนไปเลือกซื้อหามาไว้เมื่อวานนี้
“ข้อแรก ผมกับคุณ เกี่ยวข้องกันเพียงแค่การเป็นเลขากับเจ้านายเท่านั้น ห้ามเอาความสัมพันธ์อื่นมาปะปนเด็ดขาด คุณต้องเรียกผมว่าท่านประธานทุกครั้งไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าคนอื่นหรืออยู่ด้วยกันตามลำพัง คุณคงทำได้ไม่ยากนะ ส่วนผมลืมไปหมดทุกอย่างแล้ว ถ้าคุณยังไม่ ผมขอสั่งให้รีบๆ ลืมซะ แล้วเราจะได้ร่วมงานกันแบบไม่มีปัญหา”
“ค่ะ”
ความขัดเคืองที่มีในใจเมื่อหลายปีก่อนแล้วค่อยเลือนลางไปตามกาลเวลานั้น บัดนี้เริ่มก่อตัวขึ้นอีกแล้ว เมื่อเห็นสีหน้า ท่าทาง กับได้ยินคำสั่งเสียงหนักแน่นของเขา รภัสรดาเลยรับคำอย่างหนักแน่นเช่นกัน ด้วยไม่คิดจะสานต่อความสัมพันธ์อยู่แล้ว เผลอๆ อาจจะต้องลาออกไปหางานใหม่ซะก็ไม่รู้ แต่ก็จะขอดูเชิงเขาก่อน
“ข้อสอง ในช่วงลุยงานที่นี่ ผมจะเข้ามาทำงานอาทิตย์ละสามถึงสี่วัน ที่วางไว้จะเป็นอังคารถึงศุกร์ หรืออาจจันทร์ถึงพฤหัส บางครั้งมีงานด่วนแล้วผมติดงานอยู่อีกที่ คุณจำเป็นจะต้องหอบงานไปรายงานผมตามที่ๆ ผมให้ไป คุณจำเป็นจะต้องทำงานล่วงเวลาหรือทำงานวันหยุดในช่วงนี้แบบไม่มีข้ออ้างใดๆ คุณจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม และปรับตัวตามผมให้ได้”
“ค่ะ”