บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 สตรีเอาแต่ใจ2

“ท่านใจเย็น...”

จ้าวเฟิ่งขบกราม ถามเสียงขรึม “หมดเมื่อใด?”

เพ่ยหนิงกลอกตานับ “อีกสามวันห้าวัน”

ชายหนุ่มมุ่นคิ้ว “นานไป”

หญิงสาวผงกหัวเผยแก้มแดงก่ำน่ารักจากอ้อมอกร้อนผ่าว

“เรื่องนี้ท่านต่อรองกับข้าไม่ได้”

เขาเลื่อนสายตาลงต่ำ พูดเสียงเย็นชาว่า “พรุ่งนี้”

“ห๊ะ...”

เขาเอ่ย สีหน้าเคร่งขรึม “ข้าหวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะสะดวก”

นางไม่มีอะไรจะตอบ และไม่มีทางบอกเขาด้วยว่าวันนี้ระดูหมดแล้ว เหอะ! ปล่อยให้เขานอนทรมานไปเช่นนี้แหละ!

ทว่าเพ่ยหนิงกลับคิดผิดไปถนัด เพราะคนที่ต้องทรมานมิใช่จ้าวเฟิ่ง แต่เป็นตัวนางเองที่ถูกเขาทำให้ทรมานจนกระสับกระส่าย

เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะมือของเขาอยู่ที่เนินอกของนาง เขาล้วงเข้าไปในเสื้อแล้วบีบคลึงอย่างถึงอารมณ์ ส่วนมือของนาง ถูกเขาจับไปกอบกุมส่วนสำคัญอันหวงแหนของเขาไม่หยุดปะไร

เพ่ยหนิงปรือตามองก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาประชิดมา ก่อนที่ริมฝีปากร้อนผ่าวจะประกบอย่างอุกอาจเอาแต่ใจ

หญิงสาวถูกจุมพิตที่ไม่หยาบกระด้างแต่ก็ไม่อ่อนโยนถาโถมเข้าใส่จนมึนงง

ลมหายใจของนางกำลังถูกลมหายใจของเขาที่ร้อนเร่ายิ่งกว่าเตาไฟเผาไหม้จนแทบละลาย ความแข็งขืนมิผ่อนปรนของเขาทำหัวใจของนางเต้นแรง ริมฝีปากของนางถูกเขาครอบครอง ฝ่ามือยังถูกเขากอบกุมยากปัดป้อง เนื้อตัวถูกเขารุกเร้าเอาแต่ใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

เพ่ยหนิงรู้สึกเหมือนวิญญาณถูกสูบ สมองขาวโพลน คล้ายถูกมอมเมาด้วยจุมพิตอันร้อนแรง ร้ายที่สุดก็คือถูกชักจูงด้วยสิ่งที่ฝ่ามือนางกุมแทบไม่หมดนั้น

และก่อนที่นางจะขาดอากาศหายใจ เขาค่อยๆ ผละออก แต่ยังคลอเคลียไม่ห่าง ปลายลิ้นที่ไล้เลียเปลี่ยนจูบเร่าร้อนเป็นการละเลียดชิมริมฝีปากอย่างเว้าวอน คล้ายอ้อนวอนให้ช่วยเหลือกัน

“ท่านอ๋อง” นางเสียงสั่น

“ช่วยหน่อย” เขาสั่งเสียงเข้ม แฝงนัยร้องขอ

สาวน้อยหลับตา ข่มอารมณ์ข่มใจอย่างยากลำบาก นางปวดมือมาก

ยิ่งนางขยับ เขาก็เหมือนยิ่งขยาย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป...

“ท่านเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ”

“คืนนั้นเจ้าเอาแต่ใจมากกว่านี้มิใช่หรือไร?”

“ก็ข้าเป็นผู้หญิง จะทนอย่างไรไหว”

“แล้วข้าที่เป็นผู้ชาย ต้องทนหรือไร?”

เพ่ยหนิงถลึงตาโตเมื่อถูกฝ่ามือหนาเลื่อนลงด้านล่าง จับสำรวจอย่างคุ้นเคยและช่ำชอง ลูบคลำตรงผ้าซับระดู ปรากฏว่า ‘ไม่มี’

“ที่แท้ เจ้าโกหกข้า?” จ้าวเฟิ่งถามเสียงพร่า ในคำถาม น้ำเสียงคล้ายจนใจหลายส่วน

เพ่ยหนิงอยากก่นด่าตัวเองเหลือเกิน เหตุใดไม่ใส่ผ้าซับระดู ช่างไม่แนบเนียนเอาเสียเลย

ท้ายที่สุดก็ยังคงเป็นเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา นางแน่ใจแล้วว่าตัวเองมิได้จำนนต่อโชคชะตา แต่กำลังติดอกติดใจยากถอนตัว

มีคนเตือนนางว่าชายหญิงแตกต่างให้พึงระวัง การชิดใกล้อาจนำมาซึ่งพิษภัย

ใช่! สิ่งที่แตกต่างคือรูปลักษณ์ภายนอกและความชมชอบ

บุรุษชอบความอ่อนนุ่มละมุนละไม สตรีชอบความแข็งแกร่งหยาบกระด้าง ทว่าทั้งหมดทั้งมวลพวกเขาล้วนเหมือนกัน คือหลงใหลในกามารมณ์ และนั่นคือพิษภัย

เมื่อความรู้สึกวาบหวิวหวามไหวเดินทางมาไกลเกินแก้ไข เพ่ยหนิงกำลังแพ้พ่ายต่อพิษภัยที่ค่อยๆ คืบคลานมาเยือนถึงตำแหน่งอันเป็นที่ตั้งของหัวใจ นางดึงเสื้อผ้าของตนออกจนหมด ทึ้งเสื้อคลุมของเขาทิ้ง ทุกสิ่งร่วงลงพื้นข้างเตียงนอน จากนั้น...

“ก็ได้ ข้ายอมท่าน”

นางพลิกกาย กดร่างของเขาเอาไว้ทันที

ทั้งสองร่างแนบชิด สนิทสนมไร้ช่องว่างใด

“เจ้าร้ายกาจน้อยกว่านี้ได้หรือไม่?”

ดวงตาเขาแดงก่ำเมื่อถูกนางตรงหน้าทำท่าเหมือนจะขืนใจ ความรู้สึกหนึ่งรัดรึงบีบแน่นอยู่ภายใน

ไม่ว่าใครถูก‘ยา’รุมเร้ายังคงเป็นนางที่นำหน้าเขาหนึ่งก้าว

แม้ในใจพร่ำบ่น แต่คนตัวโตกลับนอนหงายอย่างรอคอย ฝ่ามือแกร่งทั้งสองประคองสะโพกงามไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนตัวเล็กที่กำลังหยัดกายขึ้น

นางกุมท่อนเนื้อแข็งขึงไว้ในกำมือ ค่อยๆ สอดใส่

ชายหนุ่มหลุบตามองส่วนกลางกาย สองมือเลื่อนจากสะโพกผายขึ้นมากระชับเอวอ่อนนุ่มที่เริ่มขยับโยกไหว

เขากุมเอวนางแน่นขึ้น เพื่อส่งตัวตนอย่างให้ความร่วมมือ

เพ่ยหนิงกัดปาก พูดเสียงแข็ง “ข้าเป็นสตรีเอาแต่ใจแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร มิได้ชอบท่านแน่นอน...”

วาจาแสลงหูนี้ บุรุษอย่างเฉิงอ๋องจะปล่อยผ่านได้อย่างไร เขาพลันเลื่อนมือจากเอวคอดขึ้นไปกอดรั้งท้ายทอยนางลงมา ประกบปิดปากนางด้วยริมฝีปากเขา จูบนี้ดุดันไม่ปล่อยให้นางพูดจาสามหาวอีก ปลายลิ้นที่ตวัดเข้าหายังอุกอาจปานนั้น

“ไม่ชอบหรือ?”

เขาจับพลิกตัวนางลงล่าง ตามทาบทับด้านบน แยกขานาง แล้วสอดตัวตนแข็งขึง ตรึงนางเอาไว้ด้วยสัมผัสลึกซึ้งอุ่นซ่าน

“อา...” บุรุษขบกราม ขยับเอวเนิบนาบแต่หนักแน่น “หากไม่ชอบแล้ว ลูกท้อฉ่ำน้ำของเจ้าคืออันใด”

ริมฝีปากชิดผิวขาวลออ ดูดเม้มจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำซ้ำๆ ฝ่ามืออุ่นเลื่อนไปตามหน้าท้อง หยอกเย้ากลีบบุปผาอุ่นชื้นไวสัมผัส

เขาขยับคล่องแคล่วพริ้วไหวขึ้นมากอบกุมทรวงอกอวบอิ่ม บีบคลึงอย่างถือสิทธิ์

ความสัมพันธ์ยากหลีกเลี่ยงนี้เปรียบเสมือนไฟเจอน้ำมัน

เพ่ยหนิงตัวสั่น นางไม่อาจควบคุมร่างกายที่กำลังเบ่งบาน พร้อมพรั่งตลอดเวลาเพื่อเขา

นางไม่อาจควบคุมลำคอตัวเองจนปล่อยเสียงครางออกมาอย่างรัญจวน

จ้าวเฟิ่งก้มหน้าฟังแล้วให้รู้สึกถึงเสน่หาอันหอมหวานลึกล้ำที่อัดแน่นแทบล้นทะลัก เขาเองก็ควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วเช่นกัน

เลือดลมแล่นพล่านไปทั่วร่าง แผ่ซ่านทุกอณูความร้อนผ่าวให้แผดเผาตั้งแต่กลางลำตัวที่เสียดสีสอดประสานพาดผ่านไปถึงเนื้อกายในอกด้านซ้ายให้เต้นในจังหวะที่รุนแรง ทั้งเร่งเร้าและดุดัน

ราตรียาวนาน วสันต์คล้ายไร้สิ้นสุด

รอบแล้วรอบเล่าที่บุรุษครอบครองสตรีนับเป็นช่วงเวลาที่ดี ได้บรรลุความตื่นเต้นถึงขีดสุดครั้งแล้วครั้งเล่า

จอนผมของเขาชื้นเหงื่อ เนินอกของนางพร่างพราวหยดน้ำ หัวใจชายหญิงเต้นราวฝนคะนอง ฟ้าคำราม ไอร้อนคุกรุ่นทั่วร่าง

ดวงตาพวกเขาฉ่ำปรือแต่กลับเหมือนมีฟืนไฟภายใน ร้อนแรงปานนั้น

เขากอดรัดนางแนบแน่น นางจิกเล็บยึดหลังไหล่ของเขาไว้แนบแน่นเช่นกัน

เขาได้ยินนางครางเบาๆ ที่ข้างหู รู้สึกเหมือนเลือดลมสูบฉีดอย่างรุนแรง มันเดือดพล่านจนรูขุมขนทั่วร่างขยายกว้าง ในขณะที่นางเองก็รับรู้ในทุกจังหวะความตื่นตัวยามสองกายแนบชิดลึกล้ำ

ทุกการขับเคลื่อนสอดใส่นางบีบรัดเขาไม่หยุดอย่างไร หัวใจนางก็สั่นไหวไม่หยุดเช่นกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel