บทที่ 3
ได้งานแล้วก็จริงแต่ใช่ว่าเธอจะได้ทำวันนี้เลย เพราะต้องยื่นเอกสารที่แผนกฝ่ายบุคคลอีก
โชคดีที่เอกสารของเธอผ่านอย่างง่ายดาย คงเพราะถูกฝากมา และตำแหน่งนี้ก็ไม่ใช่สำคัญอะไรมาก ไม่แตกต่างจากแม่บ้าน เพียงแค่ประจำอยู่ชั้นผู้บริหาร
พอยื่นเอกสารเสร็จคนึงหาก็ต้องได้มานั่งรออัญญารัตน์ที่รถ เพราะต้องรอกลับบ้านพร้อมกัน
โทรศัพท์รุ่นเก่าได้ถูกหยิบออกมาเลื่อนดูรูปที่เธอถ่ายไว้คู่กับยายเพื่อเป็นการฆ่าเวลา ใบหน้างามมีรอยยิ้มขึ้นมาเมื่อเห็นรอยยิ้มของยายในรูปนั้น เลื่อนไปจนถึง รูปสุดท้ายที่เธอถ่ายตอนนั่งอยู่หน้าโรงศพ น้ำตาหญิงสาวก็ไหลออกมา
"คิดถึงยายนะคะ" คนึงหาพยายามจะกลั้นน้ำตาไว้ เพราะเธอสัญญากับยายไว้ก่อนตายแล้วว่าจะเข้มแข็ง จะอยู่คนเดียวให้ได้ "มึงจะผิดคำพูดกับยายไม่ได้นะคนึงหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!" มือเรียวปาดน้ำตาออกจากใบหน้างามพร้อมกับคำพูดที่ตำหนิตัวเอง จนคนที่นั่งอยู่รถอีกคันซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล มองมาแบบสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไร
"เอกสารได้แล้วครับท่าน" คนขับรถยื่นเอกสารที่เพิ่งไปเอามาส่งให้กับผู้เป็นนายที่นั่งรออยู่ในรถ
"อืม..ออกรถ" มือหนาเปิดดูเอกสารนั้น แต่สายตาก็ไม่ได้อยู่ที่เอกสารเลย เพราะมัวแต่มองผู้หญิงที่กำลังร้องไห้อยู่ในรถอีกคัน
เย็นวันเดียวกัน..
"ทำไมไม่ออกไปเดินเล่นแถวนี้" อัญญารัตน์เลิกงานออกมาก็พบว่าคนึงหายังเปิดกระจกรถนั่งรออยู่เหมือนเดิม
"ไม่รู้จะไปไหนกลัวหลงทาง" เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เธอเข้ามาในกรุงเทพฯ
"จริงด้วยดีแล้วแหละที่ไม่ไป"
พอสตาร์ทรถได้อัญญารัตน์ก็ค่อยๆเคลื่อนรถออกมาจากลานจอด แล้วมุ่งหน้ากลับคอนโด
พอมาถึงทั้งสองก็แวะซื้ออาหารถุงที่วางขายอยู่ด้านล่างขึ้นมานั่งทานกันสองคน
ก๊อก!! ก๊อก!! ทานข้าวยังไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำก็มีเสียงคนมาเคาะห้องอย่างแรง
"เธอกินไปก่อนนะเดี๋ยวฉันไปดูเอง"
"ใครมาเหรอ"
"เธอกินก่อนเถอะ" อัญญารัตน์รีบเปิดประตูออกมาแล้วไปคุยกับคนที่มาเคาะห้องเพราะรู้ดีว่าเป็นฝีมือของใคร
"อาทิตย์หน้าเงินเดือนถึงจะออก เดี๋ยวฉันจะจ่ายทั้งสองเดือนที่ค้างไว้"
"เดือนที่แล้วเธอก็พูดแบบนี้"
"เดือนที่แล้วแม่ฉันป่วยก็เลยต้องได้ส่งเงินกลับบ้านก่อน"
"เธอจำเป็นต้องใช้เงินคนเดียวหรือไง ถ้าไม่มีปัญญาจ่ายค่าห้องก็ขนของย้ายออกไป!!"
"ค่าห้องเท่าไรคะเดี๋ยวฉันจ่ายเอง" ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ออกมายืนฟังแต่เสียงนั้นก็เล็ดรอดเข้ามาถึงในห้อง คนึงหาก็เลยเดินออกมาดู
"หมื่นสอง"
"ทำไมมันแพงนักล่ะ" อัญญารัตน์ถามเจ้าของห้องกลับทันที
"เธอค้างค่าห้องอย่างเดียวหรือไงค่าน้ำค่าไฟอีกล่ะ"
อัญญารัตน์ถึงกับเถียงไม่ออก มันก็จริงอย่างที่เจ้าของห้องพูด
หมื่นสองเลยเหรอ ใบหน้านั้นเริ่มมีความกังวลขึ้นมา เพราะถ้าหมื่นสองเงินที่มีอยู่ก็เหลือน้อยลง แต่ยังไงเธอก็ต้องช่วย เพื่อนก่อนแล้วกัน
"ขอบใจเธอมากนะ ถ้าเงินเดือนออก เดี๋ยวฉันจะคืนให้"
"ไม่ต้องรีบหรอก ถือว่าฉันออกค่าเช่าช่วยแล้วกัน"
เช้าวันต่อมา..
วันนี้เธอก็ยังใส่ชุดของอัญญารัตน์มาทำงาน เพราะยังไม่รู้ว่าต้องแต่งตัวแบบไหน
"ฝากพี่ลินด้วยนะคะ" อัญญารัตน์พาคนึงหามาส่งพี่สาวจนถึงที่
"พอแค่นี้แล้วนะ" ลินดาพูดแบบค้อนน้องสาว
"ค่ะ"
"ตามมา"
คนึงหารีบเดินตามลินดามาที่ลิฟต์ทั้งสองก็ขึ้นไปที่ชั้นบนสุด
"คนนี้แหละค่ะพี่แก้ว" ลินดาพาคนึงหามาส่งให้กับเลขาของท่านประธาน นั่นก็คือเกตุแก้ว
"พาไปหาดอกอ้อเลย" เกตุแก้วที่กำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมเอกสารเพื่อที่จะเอาเข้าไปให้ท่านประธานในห้องประชุม ไม่ได้สนใจมองคนที่ลินดาพามาเลย
"ฝากอ้อด้วยนะ" เมื่อส่งถึงมือของดอกอ้อแล้วลินดาก็เลยพูดฝากฝังไว้ด้วย
"ได้เลยค่ะพี่ลินดา พอดีเลย อ้อกำลังหาคนยกน้ำเข้าไปในห้องประชุมช่วยอยู่พอดี"
ได้ยินแบบนั้นคนึงหาก็รีบเดินเข้าไปช่วยดอกอ้อยกเครื่องดื่ม
"ระวังให้ถึงที่สุดเลยนะห้ามทำน้ำหกเด็ดขาด" ขณะที่กำลังจะเข้าห้องประชุม ดอกอ้อหันมาสั่งกับพนักงานใหม่ เพราะกลัวว่าจะไปทำซุ่มซ่ามในห้องประชุมใหญ่
"ค่ะ" หัวใจเธอเต้นรัวขึ้นมา เพราะนี่เป็นการประชุมผู้บริหาร คนที่เกี่ยวข้องกับแม่ของเธอต้องอยู่ในห้องนี้ด้วยแน่ หรือไม่อาจจะมีแม่เธออยู่ในนั้นด้วยก็ได้