บทที่ 9
"คุณหมอพูดจริงใช่ไหมคะ"
"หน้าผมเหมือนพูดเล่นเหรอ"
"ฉันสัญญาค่ะว่าจะทำตัวให้ดี ให้น่ารัก..โอ๊ย" อยู่ดีๆ คุณหมอก็ลงแรงที่แผลของเธอจนวาดฝันเจ็บ
"กลับไปอาบน้ำก่อน อีกสักชั่วโมงเดี๋ยวจะเรียกทนายมาให้คุย"
ได้ยินคุณหมอบอกให้กลับไปอาบน้ำหญิงสาวก็ขยับเสื้อตัวนอกขึ้นมาดมดู แบบไม่มั่นใจในกลิ่นเพราะชุดนี้เธอใส่ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
"หึ.." คีตะอดขำไม่ได้เธอคงคิดว่าเขาได้กลิ่นจากเสื้อผ้าของเธอ
"แล้วฉันจะรีบมานะคะ" วาดฝันรีบออกจากห้องของคุณหมอ ทีแรกว่าจะใช้ลิฟต์แต่กลัวว่าคนอื่นจะได้กลิ่น เธอก็เลยเลือกลงบันไดมาชั้นที่ 6
"หายไปไหนมาทั้งคืน"
"ฝันมีทางให้พ่อสู้คดีได้แล้วค่ะ"
"ไปทำอะไรมา" คนเป็นพ่อดูจะไม่ดีใจเหมือนลูกเลย เพราะถ้าจะสู้คดีมันต้องใช้เงินเยอะ ตอนนี้เงินติดตัวมีสักกี่บาทเชียว
"ฝันจะช่วยพ่อทุกทาง พ่อแค่นอนรักษาตัวแล้วก็รอขึ้นศาลพอค่ะ"
"พ่อบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องเอาตัวเข้าแลก"
"ฝันขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ" หญิงสาวเลี่ยงที่จะพูดอีกครั้ง พอได้เสื้อผ้ากับของใช้ก็ออกมาจากห้อง แล้วตรงไปที่ห้องน้ำ ของชั้น 6 ในห้องเก็บของไม่มีห้องน้ำ เวลาอาบน้ำหรือเข้าห้องน้ำเธอต้องออกมาห้องน้ำรวม
ตุ๊บ! "โอ๊ย" มือของคนเป็นพ่อทุบลงกับที่นอนแบบโกรธตัวเองว่าทำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่ขยับตัวยังขยับไม่ได้
วาดฝันยืนหอบเสื้อผ้ารอห้องน้ำให้ว่าง เพราะห้องที่ใช้อาบน้ำมีอยู่แค่ห้องเดียว นอกนั้นจะเป็นห้องสำหรับปลดทุกข์
ใครเข้าออกห้องน้ำก็ปรายหางตามามองดูเธอ เพราะทุกห้องเขามีห้องน้ำส่วนตัว แต่สำหรับคนที่มาใช้ห้องน้ำที่นี่ส่วนมากจะเป็นคนที่เดินผ่าน หรือไม่ก็พยาบาลที่ประจำอยู่ชั้นนี้
แต่มันไม่ได้ทำให้วาดฝันสะทกสะท้านอะไรเลย..หนักกว่านี้เธอก็เจอมาแล้ว
อาบน้ำเสร็จหญิงสาวก็กลับมาที่ห้อง
"พ่อพักผ่อนเยอะๆ นะคะ คืนนี้ฝันอาจจะไม่ได้กลับมาห้อง ถ้าคุณพยาบาลเอาข้าวมาให้ทานพ่อก็ทานให้หมดนะ และอย่าลืมทานยา"
"ไม่กลับมาแล้วจะไปค้างที่ไหน"
"ฝันจะไปพบคุณทนายค่ะ"
"พ่อไม่ต้องการทนาย"
"แต่ฝันต้องการ" พูดจบเธอก็ออกจากห้องนั้นไป เป็นห่วงพ่อก็เป็นห่วง
หน้าห้องคุณหมอคีตะ..
"ฉันมาขอพบคุณหมอค่ะ"
"เชิญเข้าไปได้" ครั้งแรกมั้งที่พยาบาลกะกลางวัน บอกให้เธอเข้าไปในห้องนั้น ..ที่จริงกุ๊บกิ๊บถูกสั่งไว้แล้วว่าถ้าเธอกลับมาให้เข้ามาได้เลย
พอเปิดประตูเข้ามาวาดฝันก็เห็นว่าตอนนี้มีผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่ในห้อง และคิดว่าคงเป็นทนายความที่เขานัดมาคุยกับเธอ
"สวัสดีค่ะ"
"สวัสดีครับ ผมเป็นทนาย ได้ยินคุณหมอพูดมาคร่าวๆ แล้ว"
"คุณทนายคะ พ่อฉันยิงคนแต่เขาไม่ตาย เราพอจะช่วยอะไรพ่อได้บ้างคะ" หญิงสาวก็เริ่มพูดกับทนายความโดยมีคีตะนั่งอยู่โต๊ะทำงาน เหมือนว่าเขาทำงานของตัวเองแต่ก็ยังฟังว่าเธอพูดอะไรบ้าง
"ก่อนอื่นคุณหมอต้องคุยกับตำรวจเรื่องให้ที่พักพิงกับผู้ต้องหาตามหมายจับ"
"ครับ"
"แล้วคุณ.." ทนายความหันมาพูดกับวาดฝัน "ก็ต้องเตรียมยื่นเรื่องขอรักษาตัวพ่อก่อน.. ระหว่างนี้ตำรวจอาจจะให้คนเข้ามาเฝ้าผู้ต้องสงสัยที่โรงพยาบาล คุณหมอจะว่ายังไงครับ" เพราะเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับโรงพยาบาลแล้ว ใครไปใครมาเห็นว่ามีตำรวจก็คงต้องมีคำพูดอธิบายไว้ด้วย
"ได้ครับ" เอาไปเอามาคนที่หนักใจสุดตอนนี้ก็คือคีตะสะเอง เรื่องมันเริ่มตั้งแต่เพื่อนพาพี่ชายมาผ่าตัดกระสุนออกแล้ว ต่อมาเพื่อนยังแบกเอาคนที่ยิงพี่ชายเข้ามารักษาตัวที่เดียวกันอีก หนักสุดก็เห็นจะเป็นลูกสาวคนที่ยิงนี่แหละ ดวงตาคมปรายมองไปดูหน้าเธอและจังหวะเดียวกันนั้นเธอก็มองมาเช่นกัน เขาไม่ได้หลบเพราะมองไปเห็นรอยยิ้มที่เธอส่งยิ้มหวานมาให้
"คุณหมอตอบตกลงใช่ไหมครับ"
"เมื่อกี้คุณทนายว่าอะไรนะครับ" เขามัวมองรอยยิ้มนั้นจนลืมฟังสิ่งที่ทนายความพูด
"เรื่องค่าใช้จ่ายอาจจะสูง เพราะผมจะไปคุยอีกหลายฝ่าย" เรื่องเส้นสายมีในทุกวงการอยู่ที่ว่าค่าตอบแทนจะคุ้มกับความเสี่ยงไหม
"ได้ครับ"
พอคุยกันได้เรื่องแล้วทนายความก็ออกไป แล้วจะติดต่อกลับมาอีกที เพราะต้องไปคุยกับตำรวจเรื่องที่ผู้ต้องสงสัยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนี้
"ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ" หญิงสาวไหว้ขอบคุณจากใจจริง
ชายหนุ่มทำแค่นั่งมองหน้าเธอ โดยที่ไม่ได้รับไหว้
"เรื่องที่ฉันสัญญากับคุณหมอ..เอ่อ.." ทำไมเขามองขนาดนี้ล่ะพูดอะไรบ้างสิ แล้วเธอจะพูดต่อได้ยังไง
"กุ๊บกิ๊บเข้ามาหาผมหน่อย" เขายังไม่ให้คำตอบเธอ แต่เรียกพยาบาลหน้าห้องเข้ามาก่อน
"คะคุณหมอ" พยาบาลกุ๊บกิ๊บรีบเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงคุณหมอเรียก
"ให้ใครไปย้ายคนป่วยที่อยู่ในห้องเก็บของชั้น 6 ขึ้นมาไว้ข้างห้องทำงานผม"
"อะไรนะคะ" ข้างห้องทำงานของคีตะมีห้อง VIP สำหรับคนป่วยพักฟื้น แต่ห้องนี้ VIP จริงๆ เพราะไว้ใช้สำหรับญาติเขาเอง หรือวันไหนที่มีเคสผ่าตัดติดๆ กัน เขาก็จะใช้ห้องนั้นเป็นที่นอน เพราะกว่าจะกลับบ้านกลับมาอีกก็ต้องใช้เวลา
"ให้ฉันไปกับคุณพยาบาลไหมคะ" กลัวว่าพ่อจะไม่เข้าใจ เธอก็เลยจะไปคุยกับท่านด้วย
"ไม่ต้องหรอกไปก็เกะกะเขาเปล่าๆ"
ผ่านไปสักพักพยาบาลหน้าห้องก็เข้ามาแจ้งว่าตอนนี้ย้ายคนไข้มาไว้ห้องข้างๆ แล้ว
ที่เขาสั่งให้ย้ายมาไว้ตรงนี้ไม่ใช่เพราะเป็นคนพิเศษอะไรเลย ที่คีตะสั่งให้ย้ายขึ้นมา เพราะถ้าตำรวจมาทำคดีกลัวว่าคนที่มาใช้บริการโรงพยาบาลจะสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น
"วาดฝันลูกของฉันอยู่ไหน" วันชัยไม่ใช่คนโง่ ย้ายมาไว้ห้องพิเศษขนาดนี้ได้ ลูกสาวต้องเจรจากับคนที่มีเงินระดับหนึ่งแน่ คนที่วันชัยสงสัยมากที่สุดก็คือคุณหมอนั่นแหละ เพราะได้ยินว่าเขาเป็นเจ้าของโรงพยาบาลที่นี่ด้วย
"ลูกสาวคุณยังอยู่ห้องคุณหมอค่ะ" พยาบาลคนนี้กำลังดูแลเรื่องอุปกรณ์ทางการรักษาเพราะเพิ่งย้ายผู้ป่วยมา
"ไปตามลูกสาวผมมา"
"ฉันไม่ได้มีหน้าที่ตามใครค่ะ"
"ถ้าคุณพยาบาลไม่ไปผมไปเอง" ชายวัยกลางคนดันตัวลุกขึ้น
"คุณหมอบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ขยับตัว เดี๋ยวกระดูกก็หักหรอก"
เพล้ง!
"มีอะไร" คีตะที่อยู่ห้องข้างๆ รีบเข้ามาดูว่าเสียงอะไร และวาดฝันก็รีบตามมา
"พ่อทำอะไร" แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคงเป็นฝีมือของพ่อ
"เก็บของแล้วออกไปก่อน" คีตะสั่งพยาบาลที่อยู่ในห้องนี้ ของที่วันชัยทำตกเป็นแค่ถาดรองแก้วยา เพราะเขาไม่กล้าทำอุปกรณ์ทางการแพทย์อยู่แล้ว
"บอกพ่อมาว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ใช่หมอคนนี้ไหม"
"ฉันบอกแล้วไงว่าพ่อไม่ต้องถาม รอคุยกับทนายอย่างเดียว"
"เรื่องนี้มันสำคัญมาก ลูกต้องบอกพ่อมา" แค่ลูกไม่กล้าสบตาวันชัยก็รู้แล้วว่าสิ่งที่คิดไว้มันเป็นจริง "หมอเป็นลูกชายไอ้พ่อเลี้ยงนั่นอีกคนไหม" วันชัยหันมาถามคุณหมอบ้าง
"อะไรนะครับ"
"พ่อถามอะไร" วาดฝันตกใจในคำถามของพ่อ
"ผมถามว่าหมอเป็นลูกชายไอ้พ่อเลี้ยงอิทธิพลนั่นอีกคนไหม" เพราะวันชัยรู้ดีว่าพ่อเลี้ยงอิทธิพลไข่ทิ้งไว้หลายที่ แถมหมอคีตะก็สนิทสนมกับครอบครัวนั้นด้วย
"พ่ออย่าทำแบบนี้เลย คุณหมอออกไปก่อนได้ไหมคะ" วาดฝันอยากจะคุยกับพ่อก่อน แต่เธอก็ถูกพ่อดันตัวให้หลบไป เพราะวันชัยอยากจะได้คำตอบนี้จากหมอคีตะมาก
"ตอบความจริงมาก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายไป ตอบมาสิ!!"