บทที่ 10 หม่ามี๊หายตัวไป
คิวคิวใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงในการเดินทางมาถึงโรงแรมฮิลตัน
ถึงแม้เขาจะฉลาดปราดเปรื่อง ทว่าก็ยังคงเป็นเด็กตัวน้อย ๆ คนหนึ่ง จึงต้องใช้เวลากว่าจะเข้าไปในโรงแรม
แต่ก็ยังดี เมื่อเขาถึงโรงแรมก็เห็นรถคันที่พาหม่ามี๊มาจอดอยู่ในลานจอดรถ ทันใดนั้นเขารู้สึกดีใจยิ่ง จากนั้นก็สาวเท้าเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของ
“พี่สาวคนสวยครับ ผมขอถามหน่อยครับว่ารถคันข้างนอกนั้นเป็นของใครครับ?”
เด็กชายอายุห้าขวบพยายามเขย่งเท้าเพื่อยื่นหน้าขึ้นไปยังเคาน์เตอร์ พนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์ก้มหน้าพลันเห็นหนุ่มน้อยหน้าตาหล่อเหลาเสมือนหลุดออกมาจากภาพวาด
เอ่อ.......ไม่ใช่คุณชายเล็กที่พักในโรงแรมพวกเธอหรอกหรือ?
พี่สาวคนสวยที่ว่าเบิ่งตาโตพร้อมกับอ้าปากพะงาบ “คิว……คุณหนูอิคคิว?ทำไมถึงอยู่ที่นี่ล่ะคะ?เมื่อกี้คุณไปที่ร้านอาหารแล้วไม่ใช่เหรอคะ?”
เอ๋?
คุณหนูอิคคิว?
คิวคิวผู้เฉลียวฉลาดเกินวัยฟังออกทันทีว่าไม่ชอบมาพากล
ดังนั้น ขาและแขนเล็กของเขาปีนขึ้นเก้าอี้บาร์สูง จากนั้นก็ส่งยิ้มละมุนให้กับพนักงานสาวคน
มองจนพนักงานสาวหน้าแดงระเรื่อ
“ใช่ครับ เมื่อกี้ผมวิ่งออกมาครับ ใช่แล้วครับพี่สาวคนสวย รถด้านนอกเป็นของใครครับ?”
“ไม่ใช่ของพวกคุณเหรอครับ?พวกคุณพ่อของคุณพึ่งขับกลับมานี่ค่ะ”
พนักงานสาวรู้สึกงุนงง
คิวคิวได้ยินแก้มป่องยิ่งยิ้มสดใสกว่าเดิม “โอเคครับ ขอบคุณพี่สาวคนสวยมากครับ ผมไปแล้ว”
“ไป?คุณจะไปไหนคะ?อันตรายนะคะ ฉันส่งคุณกลับร้านอาหารนะคะ ไม่งั้นคุณพ่อคุณหาไม่เจอจะเป็นห่วงได้”
พี่สาวคนสวยมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่มาก ได้ยินว่าคิวคิวจะไปก็กลัวว่าจะเดินออกนอกโรงแรมแล้วหลงทาง จึงอยากส่งกลับไปยังร้านอาหาร
ทว่าตอนนี้คิวคิวจะให้เธอส่งกลับไปได้ยังไง?
เธอคิดว่าเขาเป็นคุณชายเล็กตระกูลหิรัญชา งั้นเขาก็ต้องไปดูว่าคุณชายเล็กตัวจริงหน้าตาเป็นยังไง?
เขาจำได้ เมื่อวานตอนอยู่ในโรงเรียนอนุบาล พวกคุณครูก็เอารูปถ่ายให้ดู บอกว่าจะย้ายเข้าโรงเรียนพวกเขา ซึ่งหน้าตาเหมือนเขามาก และชื่อของอีกฝ่ายก็ชินจัง!
อีกอย่าง เมื่อคืนเขากลับถึงบ้านก็เฮกข้อมูลของผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาล จากนั้นก็เห็นข้อมูลของอีกฝ่าย ซึ่งที่อยู่ระบุว่า โรงแรมฮิลตันชั้นดาดฟ้า
คิวคิววิ่งเร็วกว่ากระต่าย ไม่นานเขาก็ถึงร้านอาหารสไตล์ยุโรปบนชั้นสี่
“คุณอาเค พวกเราจะกลับบ้านตอนไหน?”
ณ ร้านอาหารวิจิตรงดงามและโอ่อ่า ชินจังใส่สูทตัวเล็ก ตรงหน้าอกมีผ้าเช็ดปาก กำลังนั่งตัวตรง เขาไม่ได้กินอาหารตรงหน้า แค่ถามผู้ช่วยเคด้วยใบหน้าเหลืออด เพราะไม่รู้ว่าเขาจะได้กลับประเทศเมื่อไหร่?
ช่างแตกต่างจากคิวคิวอย่างสิ้นเชิง
ถึงแม้พวกเขาสองคนจะมีหน้าตาคล้ายคลึงกัน ทว่านิสัยทำให้อากัปกิริยาของพวกเขาต่างกันดั่งฟ้ากับเหว ถ้าบอกว่าคิวคิวเปรียบดั่งดวงอาทิตย์ส่องแสงสว่างสดใส
เช่นนั้นชินจังก็ต้องเป็นทะเลน้ำแข็งแห่งขั้วโลกเหนือ ซึ่งถอดแบบมาจากแสนรักของเขานั่นเอง
บางครั้งก็แย่กว่าผู้เป็นพ่อเสียอีก
เขาไม่ชอบพูดและไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น นิสัยเย็นชา โลกส่วนตัวสูง แสนรักอบรมสั่งสอนเขาเสียจนมีระเบียบแบบแผนมาก ไม่มีท่าทางของเด็กอายุห้าขวบเลย
“คิก ที่แท้คนนี้ก็คือคุณชายเล็กตระกูลหิรัญชา หน้าตาเหมือนผมจริง ๆ แต่ทำไมเขาชอบทำหน้าจริงจัง?เหมือนตาเฒ่าแก่ไม่มีผิด”
คิวคิวหลบอยู่หลังประตู รู้สึกสงสารอีกฝ่ายขึ้นมา
ผู้ช่วยเค “คุณชายเล็กครับ ตอนนี้พวกเรายังกลับไปไม่ได้นะครับ พวกเรามาที่นี่เพราะจะรักษาคุณพ่อนะครับ คุณไม่อยากให้คุณพ่อหายป่วยเหรอครับ?”
ชินจัง:“……”
เงียบไปสักพัก สุดท้ายคล้ายกับว่าคุณพ่อสำคัญกว่า
“แล้วคุณน้าที่มาวันนี้จะรักษาให้พ่อผมเหรอ?”
“น่าจะใช่ครับ”
เคพูดแบบขอไปทีหนึ่งประโยคอย่างกระอักกระอ่วน
ใบหน้าที่เทห์ระเบิดของชินจังขมวดคิ้วมุ่น ในที่สุดเขาก็หยิบช้อนส้อมตรงหน้าขึ้นมา “ถ้าเป็นแบบนี้ก็บอกพ่อด้วยว่าอย่าดุให้มากนัก ต้องดีกับคุณน้าหน่อย”
เค:“คิกคิกคิก——”
คิวคิว ที่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก “!!!”
อะไรนะ?
กล้าดุใส่หม่ามี๊ของเขาหรือ?อยากโดนกระทืบใช่ไหม?!!
คิวคิวหมุนกายเดินแล้วกำหมัดน้อยเดินขึ้นไปยังชั้นบนสุดของโรงแรม
ไม่กี่นาทีผ่านไป หน้าประตูห้องเพรสซิเดนสูท เหล่าบอดี้การ์ดที่เฝ้าหน้าประตูเห็นร่างตัวน้อย ๆ เดินออกจากลิฟต์ด้วยสีหน้าถมึงทึง ชั่วขณะนี้ ทุกคนต่างตื่นตระหนก
“คุณชายเล็กท่านกลับมาแล้วเหรอครับ?”
“อืม”คิวคิวพยายามเรียนแบบคนหน้าจริงจังที่ตอนนี้อยู่ในร้านอาหารชั้นล่าง “แด๊ดดี๊ล่ะ?”
“ท่านประธานออกไปแล้วครับ แต่สั่งไว้ว่าถ้าคุณชายเล็กกลับมาก็ให้เข้าไปพักผ่อนก่อนครับ เดี๋ยวท่านก็กลับมาครับ”
คนพวกนี้ไม่สงสัยอะไรสักนิด รีบบอกความเคลื่อนไหวของคนเลวที่รังแกหม่ามี๊ทันที พวกเขาเปิดประตูให้อย่างเอาใจใส่
คิวคิวรีบมองเข้าไปด้านในทันที
ห้องนี้กว้างขวางมาก เมื่อกวาดสายตามองก็เหมือนอยู่ในลานกว้างอย่างไรอย่างนั้น เพียงแต่ที่นี่ตกแต่งหรูหราโอ่อ่าจนเหมือนพระราชวัง
แล้วหม่ามี๊ของเขาล่ะ?