2.ฟื้นจากความตาย
หญิงสาวตื่นจากฝันร้าย เรื่องที่เกิดขึ้นมันน่ากลัวราวกับเธอถูกดูดกลืนสู่ขุมนรก
จริงอยู่ที่เธอเป็นผู้หญิงโมโหร้ายและทำงานด้วยอารมณ์เสมอ แต่นั่นเป็นเพราะทั้งหมดคือศิลปะ เธอใช้หัวใจทำงาน ซึ่งเธอได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาจากบิดา และเขาก็สนับสนุนเธอเรื่อยมา ดังนั้นอาหารของเธอจะต้องดีเยี่ยม รสชาติเหมือนฟ้าประทาน ใครได้กินต้องชอบ นอกจากนั้นเธอยังนิยมเฉพาะคำชมเท่านั้น ส่วนเรื่องติติงต้องพักไว้ก่อน อย่าได้พูดเข้าหู
แต่หลังจากงานเลี้ยงฉลองยอดขายทะลุร้อยล้านเหรียญของแบรนด์อาหารชุดใหม่ที่ใช้เวลาขายไม่ถึงหนึ่งวัน ซึ่งทำให้เธอเป็นที่อิจฉาของคนทั่วไป และเธอก็รู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จอันยอดเยี่ยมนี้ อาหารของเธอจะอยู่คู่ทุกครัวเรือน ทั้งซอสสำหรับผัด น้ำมันพริกในการปรุงซุปแสนอร่อย รวมถึงสารพัดเครื่องครัวที่เธอสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แบรนด์การค้าที่มั่นคง ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือสกุลจาง
และการขายของโดยการไลฟ์โชว์ที่สร้างเม็ดเงินได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ คงมีแต่ ลิซ่า จาง เท่านั้นที่ทำได้ เธอคือเบอร์หนึ่งของเจ้าแม่ขายของกินทุกอย่าง รวมถึงสารพัดเครื่องมือใช้สอยในครัว เธอเป็นผู้หญิงแกร่งยุคใหม่
ทว่าหลังจากที่แฟนหนุ่มตั้งใจจะขับรถพาเธอกลับคฤหาสน์หลังงาม ก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น!
เมื่อจู่ ๆ ถนนสายหลักที่ใช้กลับบ้านมีการปิดการจราจร เขาจึงพาเธอเลี่ยงไปใช้อีกทางที่ต้องผ่านอุโมงค์ลึก และสิ่งน่ากลัวจับใจก็เกิดขึ้น เมื่อขับไปได้ครึ่งทางแล้วรถเก๋งคันใหญ่เกิดเสียหลัก หมุนไปชนกับเข้าบางสิ่ง ก่อนจะเคลื่อนตัวจมดิ่งลงสู่แม่น้ำลึก!
ลิซ่าไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เธอเคลิ้มหลับเนื่องจากดื่มไปไม่น้อยและเพลียมาทั้งวัน รู้สึกตัวอีกทีร่างกายของเธอก็ถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนจุกบริเวณหน้าอก มิหนำซ้ำขาข้างซ้ายังติดอยู่กับที่นั่ง เมื่อออกแรงขยับก็ปวดแปลบขึ้นมาจนน้ำตาไหล
“ที่รัก... ยื่นมือมา!” เสียงแฟนหนุ่มลูกครึ่งเรียกเธอ แต่ลิซ่าดื่มมาหนัก จึงรู้สึกวิงเวียนศีรษะและเคลื่อนไหวร่างกายได้เชื่องช้าเหลือเกิน ในขณะเดียวกันน้ำก็ไหลท่วมห้องโดยสารจนเธอรู้สึกหายใจติดขัด
“ฉันหายใจไม่ออก” ลิซ่าบอกเขาและพยายามขยับตัวเพื่อช่วยเหลือตนเอง แต่กลับเหมือนคนจะสิ้นแรงเสียอย่างนั้น
กระทั่งร่างของแฟนหนุ่มหายไป หลังจากนั้นหูก็อื้อไปหมด รถเก๋งคันใหญ่ที่มีสภาพไม่ต่างโรงศพเหล็กได้พาร่างของเธอจมลงสู่เบื้องล่างของแม่น้ำ
ลิซ่ากระเสือกกระสนพาตัวเองออกจากรถเก๋งอย่างสุดชีวิต แต่น่าเสียดาย เธอมีแอลกอฮอล์ในร่างกายมากเกินไป อีกทั้งแรงดันน้ำทำให้เธอหมดสติ
เธอกำลังจะตาย ตายไปพร้อมความสำเร็จในอาชีพและการงาน ซึ่งคนที่จะได้รับผลประโยชน์นับพันล้านเหรียญก็คือแฟนหนุ่มที่เพิ่งแต่งงานกันเมื่อต้นปี เขาได้รับการสนับสนุนจากบิดาและคนในครอบครัวของเธอ ทว่าลิซ่ากลับไม่เคยเฉลียวใจมาก่อนเลยว่า อีธานกำลังซ่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่งเอาไว้ ผู้หญิงคนนั้นคือมิเชล น้องสาวต่างมารดาของเธอ และเรื่องทั้งหมดเกิดจากการที่ทุกคนร่วมมือกันวางแผนหักหลัง ลิซ่า จาง
“มะ มัมมี้!” เสียงเล็ก ๆ ที่แสนสดใสดังขึ้น ตามด้วยอีกเสียงที่ฟังเหมือนกับว่าเพิ่งผ่านพ้นการร้องไห้อย่างหนักมา
“น้อง หิว... หิว!”
หญิงสาวลืมตาช้า ๆ การหายใจของเธอยังไม่เป็นปกติ และรู้สึกว่าตัวชื้นเหนียวเหนอะไปด้วยเหงื่อ แล้วก็เป็นตอนนั้นเองที่มือเล็ก ๆ ที่พอจะอุ่นอยู่สักหน่อยลูบแก้มเธอเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจหญิงสาวอ่อนยวบ
“มะ มามี้ มะ ไม่ ตะ ตาย!”
เธอฉงนแต่ก็พยายามตั้งสติ การที่ต้องอยู่ในรถคันนั้นและไม่มีอากาศหายใจทำให้เธอกลัวจัด และเธอเชื่อว่าตนเองตายไปแล้ว ทว่าระหว่างที่เธอกำลังอยู่ในช่วงของความเป็นและความตาย เธอกลับได้ยินเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ จวบจนลืมตาได้อีกครั้ง จึงเห็นพวกเขาทั้งสองคน
“หนู...” เสียงของเธอแหบจัดและอ่อนแรง
“มามี้... น้องไม่ร้อง แต่เฮียผิง งอแงจะกินขนมตลอด”
คนที่เอ่ยกับเธอเป็นเด็กผู้ชายที่คุยเก่ง อายุคงราว ๆ สี่ถึงห้าขวบ
ส่วนอีกคนจ้ำม่ำกว่า แก้มย้อยน่ารัก กำลังทำหน้าบึ้ง เขาสื่อสารติด ๆ ขัด ๆ อยู่สักหน่อย เพราะทำท่าเหมือนกับพยายามจะพูด แต่อ้าปากแล้วหุบอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะมีเสียงดังให้ได้ยิน
“ผะ ผิงเกอ”
ผิงเกอเรียกชื่อตัวเองก่อนจะทุบที่อกของเขาเสียงดังปั้ก ๆ ดวงตาคู่นั้นแดงระเรื่อ ดูแล้วน่าสงสารยิ่งนัก
คนที่ฟื้นจากความตายเลยรีบเข้าไปสวมกอด และปลอบขวัญ
“ผิงเกอ หนูหิวใช่ไหม”
“ผิง หะ หิว และ กะ กลัวมัม มะ มี้ ทะ ทิ้งผิง... ไป!” เขาบอกพร้อมกอดหญิงสาวไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเธอจะจากเขาไป
“มามี้ไม่ตาย” ผิงกั่วเอ่ยได้เท่านั้นแล้วก็ร้องไห้โฮ พลอยให้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันที่ตอนแรกยังยิ้มแย้มอยู่ สะอื้นไปด้วย
“มัมมี้ เจียวเกอ ก็หิว!” คราวนี้ฝาแฝดคนน้องร้องเอาอย่างผิงกั่ว
คนที่เพิ่งฟื้นจากความตายต้องรีบปรับตัวโดยด่วน สิ่งที่เธอรู้ตอนนี้คือ ตัวเองกลายเป็นคุณแม่ลูกฝาแฝด พอเด็ก ๆ มีความอยากอาหาร เธอก็พลอยแสบท้องไปด้วย ก่อนที่มันจะดังโครกครากน่าขายหน้าจนผิงกั่วที่กอดเธออยู่ทำหน้าประหลาดใจ เธอเลยต้องหาเรื่องกลบเกลื่อน
“คนนี้ผิงเกอ...” เธอลูบศีรษะเด็กชายที่กอดเธอเอาไว้แน่นมาก และยังคงสะอื้นไม่หยุด
“คนนี้เจียวเกอ” ฝาแฝดคนน้องตอบเธอ ก่อนจะยิ้มกว้าง รอยยิ้มนี้ช่างสดใส ทำเอาหญิงสาวน้ำตาคลอหน่วยอย่างไม่รู้ตัว
ความซื่อ และบริสุทธิ์ปลอบโยนหัวใจของวิญญาณที่มาสิงร่างผู้อื่น
“มัมมี้ ร้องไห้” เซียงเจียวไม่อยากเห็นภาพแบบนี้ เขายื่นมือเล็กป้อมพยายามเช็ดน้ำตาให้คนเป็นแม่
“ฮึบ ๆ ๆ ไม่ร้อง มัมมี้ น้องจะดูแลมัมมี้และเฮียผิง เจียวเกอเก่ง” เซียงเจียวเอ่ยแล้วก็ลุกขึ้น เป็นยามนั้นที่หญิงสาวเห็นว่า เขาไม่ได้สวมเสื้อ แต่กลับห่อตัวเองด้วยผ้ากันเปื้อนของผู้ใหญ่ มืออีกข้างถือตะหลิวไม้เอาไว้ ท่าทางเช่นนี้ดูแล้วพาให้เธอปลื้มใจ เมื่อเห็นว่าเขาทั้งเป็นเด็กดี ทั้งแจ่มใส เขาเป็นลูกชายของเจ้าของร่างที่เธอมาอาศัย ช่วงเวลานี้คงจะเป็นในอดีต เนื่องจากเมื่อกวาดตาดูรอบห้องนอนแล้วทำให้รู้ว่า คงแตกต่างจากปัจจุบันหลายสิบปี นอกจากนั้นบ้านหลังนี้คงไม่ใช่คนร่ำรวยสักเท่าไร
“เจียวเกอจะทำข้าวผัดไข่ให้ทุกคนกิน!” เด็กน้อยเสนอและกำลังจะเดินไปยังห้องครัว แต่จู่ ๆ กลับหยุดเสียอย่างนั้น ก่อนหันมาบอกแม่ว่า
“แหะ ๆ น้องลืม เราไม่มีข้าวสวย!”
ได้ยินอย่างนั้นเธอก็อยากจะหัวเราะ เพราะทั้งชีวิตของหญิงสาวไม่เคยขาดแคลนสิ่งใด เธอหาเงินร้อยล้านเหรียญได้ในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับการที่จะไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ!
หญิงสาวตัดสินใจลุกจากฟูก ตั้งสติอยู่เพียงเล็กน้อย เธอก็เตรียมเดินเข้าครัว โดยมีร่างเล็ก ๆ แสนน่ารักของเซียงเจียวนำทาง เป็นตอนนั้นที่ประตูด้านหลังบ้านมีเสียงกุกกัก ก่อนที่ร่างของเด็กสาวจะก้าวเข้ามา
“คุณผู้หญิง...” เยว่จือเอ่ย ก่อนที่จะทำถุงยาและถุงมันฝรั่งในมือหล่นลงไปบนพื้น เด็กสาวนึกว่าตนเห็นผีกลางวันแสก ๆ ก่อนหน้านี้คุณผู้หญิงของเธอได้สลบไป ซ้ำร้ายยังนอนตัวสั่น ร้องครางด้วยพิษไข้ เธอจึงตัดสินใจออกไปขอร้องเถ้าแก่โจว อยากให้เขาตามรถพยาบาลให้ แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ทำได้แค่มอบยามาจำนวนหนึ่ง กระนั้นเยว่จือก็ต้องเสียเวลากลางทางเนื่องจากถูกแก๊งมังกรซิ่งข่มขู่และขวางทางไว้
“คุณผู้หญิงหรือ...” หญิงสาวทวนคำอีกฝ่าย เธอไม่ชอบคำนี้ ปกติคนอื่นจะเรียกเธอว่า ‘ตั่วเจ้’ หรือ ‘มาดาม’ ไม่ก็เชฟเจ้าหญิงผู้กอบกู้วงการอาหารริมทาง การเป็นคุณผู้หญิงช่างห่างไกลจากตัวตนเธอเหลือเกิน
“ใช่แล้ว เอ... หรือว่าพิษไข้ทำให้คุณผู้หญิงสติเลอะเลือน”
เยว่จือเอ่ยเช่นนั้น เพราะสองสามคืนที่ผ่านมาคุณผู้หญิงของเธอฝันร้าย และในบางคืนก็ถึงกับกรีดร้องว่าเธอกำลังจะจมน้ำตาย!