ตอนที่ 4
ทันทีที่รถเลี้ยวเข้าสู่พื้นที่ ที่ผู้คนกล่าวขานว่าเป็นเงาแห่งสรวงสวรรค์ เทียร่าถึงกับอ้าปากค้างกวาดสายตามองไปทุกที่ที่รถเคลื่อนไป สมคำล่ำลือที่นี่สวยเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ ที่พำนักของตระกูลอันเล็นโซ่อยู่ในพื้นที่กว่าพันไร่ ถูกดัดแปลงกลายเป็นที่อำนวยความสะดวกสารพัดรูปแบบ ทั้งสนามกอล์ฟ ทั้งสนามขี่ม้า ยิงปืน และอีกหลายอย่าง
เทพบุตรทั้งสี่อยู่ภายในคฤหาสน์ของตนเองถูกปลูกสร้างแบ่งเป็นสี่หลัง และทุกหลังต่างมีสไตล์เป็นของตัวเอง แม้แต่บ้านยังบ่งบอกลักษณ์นิสัยเจ้าของได้เป็นอย่างดี แต่ที่สะดุดแต่และทำให้ทุกคนต่างหยุดยืนราวกับต้องมนต์สะกดนั้นก็คือโอเอซิสขนาดใหญ่ที่รายล้อมด้วยดอกไม้นานาพรรณ และต้นไม้พันธ์หายากที่เขียวขจีทั่วบริเวณ น้ำสีเขียวมรกตจนเห็นเงาสะท้อนของตนเอง ตกกลางคืนเมื่อได้รับแสงจันทร์มันจะส่องระยิบระยับงามจับตา ผู้คนที่ทำงานให้ตระกูลอัลเล็นโซ่เรียกที่นี่ว่าอ้อมกอดแห่งมารดา
ไม่เคยมีใครได้เข้าไปในนั้นยกเว้นคนสวนเก่าแก่เพียงห้าคน และบุตรชายทั่งสี่แห่งตระกูลเท่านั้นเพราะโอเอซิสอ้อมกอดแห่งมารดาเป็นที่ฝังศพของผู้หญิงที่เป็นที่รักของทุกคน มาเรีย อัลเล็นโซ่ ผู้หญิงที่ให้กำเนิดเทพบุตรทั้งสี่
เทียร่าหยุดยืนหน้าคฤหาสน์หรูของซาฟ เธอจ้องมองด้วยความตกตะลึงคฤหาสน์ของเขาช่างมีมนต์ให้ความรู้สึกลึกลับเก่าแก่และดูมีอำนาจในตัว อิฐที่ใช้สร้างเป็นสีเทาตัวบ้านถูกจัดให้เรียบหรูเฟอร์นิเจอร์ดูเก่าแก่แต่ก็เป็นของราคาแพงทุกก้าวที่เดินจะเห็นดวงไฟระย้าที่ห้อยลงมาอย่างสวยงาม มีรูปบรรพบุรุษเก่าแก่ของตระกูลแขวนอยู่ตามผนังห้อง สาวใช้ประจำคฤหาสถ์เชิญเธอมานั่งที่โซฟาด้านในห้องรับแขก
เทียร่ากวาดตามองไปรอบๆ อย่างใจจดใจจ่อแต่อดไม่ได้ที่จะละลาบละล้วง เธอเดินสำรวจไปรอบๆก่อนจะหยิบโน้นหยิบนี่ดูโดยไม่ทันได้เห็นว่าร่างสูงใหญ่กำลังยืนอยู่ด้านหลัง
“สวัสดีครับ”เสียงทุ้มกล่าวทักทาย
เธอชะงักรีบหันมาหาเขาด้วยความตกใจ เทียร่านิ่งงันเมื่อได้เห็นเขาแบบเต็มตาครั้งแรกในชีวิต แข้งขาอ่อนแรงไปหมดไม่รู้เป็นเพราะอะไร
“สวัสดีค่ะ ฉันโมนา”เธอตอบพลางเดินไปหาเขาแล้วยื่นมือจับเพื่อทักทายแต่เขากลับเมินเฉยเดินไปนั่งที่โซฟา
ดวงตาคมกริบกวาดตามองไปยังผู้หญิงที่กำลังหย่อนกายนั่งลงตรงข้ามเขาด้วยท่าทีหวาดๆ ดวงตาสีเทาของเขาทำให้เธอรู้สึกหวั่นเกรง เขาช่างสมคำร่ำลือเธอแทบหยุดหัวใจตัวเองไม่อยู่อยู่แล้ว
“ข้อตกลงระหว่างเราคุณคงรู้ดีใช่ไหม?”
“ค่ะพ่อบอกดิฉันแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะให้คนของผมพาคุณไปที่ห้องพักก็แล้วกัน ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”เขาบอกก่อนจะลุกขึ้นยืน
“เดี๋ยวก่อนค่ะ!”เธอรีบรั้งเขาไว้
เขามองมาที่เธอและหยุดยืนเพื่อรอฟังว่าจะพูดอะไรออกมา
“เราอยู่ห้องเดียวกันหรือเปล่าคะ?”เธอถามพร้อมกับยิ้มยั่วยวนเขาออกมา
คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ดวงตาคมกริบจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าไม่วางตา
“หมายความว่ายังไงครับ?”เขาถามแม้จะรู้อยู่แก่ใจ
“คือ... ฉันหมายความว่า เราสองคนจะทดลองอยู่เพื่อศึกษานิสัยใจคอกันและกัน ฉันเลยคิดว่าบางที...เราอาจจะควรอยู่ด้วยกันค่ะ”เทียร่าตะกุกตะกัก
“เราก็อยู่ในบ้านหลังเดียวกันอยู่แล้วนี่ครับ”น้ำเสียงเรียบเฉยสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“ฉันหมายถึงการอยู่ร่วมห้องนอนค่ะ”
เขาหันมามองเธอเต็มตา พลางกวาดสายตาไปทั่วร่างอวบอิ่ม ไม่มีรอยยิ้มไม่มีความยินดีไม่มีความรู้สึกอะไรเลย เขาตายด้านหรือยังไง เขาเฝ้าถามตัวเอง อยากจะรู้สึกบ้างแต่มันดันไม่มีเลยไม่รู้เพราะอะไร
“แต่คุณจะเสียเปรียบได้นะครับ”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันยินดี” เธอตอบแล้วยิ้มออกมา
“ได้ครับ แต่ผมจะไปนอนที่ห้องของคุณก็แล้วกัน” ซาฟปรายตามองแล้วเดินจากไป