ตอนที่ 2
ร่างสูงนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมในห้องทำงานชั้นสามหกของโรงแรมแกนดิเน่ สัญญาณเตือนถึงอีเมล์ทำให้เขารีบเปิดอ่าน เห็นข้อความในนั้นเขาจำได้หลายฉบับที่ส่งมาเพื่อขอบคุณ น่าแปลก... ทำไมถึงได้รู้สึกดีใจ ช่วงปีก่อนฟาวิโอ่มาพูดคุยกับเขาและสารภาพว่ามีลูกสาวอาศัยอยู่กับอาที่เมืองไทย ช่วงนี้กำลังส่งเสียให้เรียนหนังสืออยู่
เพราะความสนิทสนมกันเลยตบปากรับคำจะช่วยเหลือในการอุปถัมภ์บุตรสาวของลูกน้อง หลังจากวันนั้นแพททิเซียก็ไม่เคยขาดการติดต่อกับเขาเลย รูปถ่ายแนบไฟล์ส่งมาทำให้เห็นใบหน้าอย่างชัดเจน เธอสวย... โครงหน้ารูปไข่ ดวงตามกลมโต ริมฝีปากรูปกระจับเป็นสีชมพูระเรื่อ ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง จมูกโด่งรั้นรับกับใบหน้า อาจเพราะมีเชื้อสายทางญี่ปุ่นปะปน เพียงแค่มองภาพนั้นแทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว
ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้น เซ็ทเงยหน้าจากจอคอมพิวเตอร์ ร่างสัดทัดผ่านประตูเข้ามาพร้อมรอยยิ้มเสมอต้นเสมอปลาย สองมือยกขึ้นประสานลงตรงหน้านึกแปลกใจปกติฟาวิโอ่ไม่เคยมาพบในเวลานี้
“นี่ครับ”ยื่นรูปถ่ายให้ดู เซ็ทรับมาจ้องมองชายแปลกหน้าในภาพนั้น
“อะไร!”สีหน้าไม่เข้าใจ
“คนของมัสสิโม่ กำลังวางแผนจะวางระเบิดโรงแรมแกนดิเน่เพื่อทำให้ชื่อเสียงสั่นคลอน”
เซ็ทขบกรามแน่นจ้องมองชายในภาพแววตาดุดัน เหตุใดมัสสิโม่ไม่เลิกราสร้างความเดือดร้อนให้ตลอดมา
“แล้วไอ้เวรนี่มันอยู่ที่ไหน!”ลุกยืนสีหน้าเคร่งเครียด
“ผมจับไปขังไว้ที่ห้องใต้ดินของอัลเล็นโซ่แล้วครับ” สีหน้าครุ่นคิด “คุณชายจะเอายังไงดี หรือจะแจ้งตำรวจ”
“ยังไม่ต้องแจ้ง ฉันจะไปเค้นถามมันเองว่ามีแผนอะไรอีก”
หุนหันเดินออกจากห้อง ด้านหลังคฤหาสน์สไตล์วินเทจพื้นสนามหญ้าขนาดใหญ่ มีสระน้ำ ทางเดินถูกโรยด้วยกรวด ดอกไม้นานาพรรณถูกปลูกไว้เป็นสัดส่วนช่วงนี้ อากาศเย็นเลยพากันบานสะพรั่งสวยงาม
เหนือพื้นหญ้ามีประตูเหล็กปิดแนบกับพื้นเปิดออกเดินลงบันได อากาศด้านในอบอุ่นกว่าข้างนอก กลิ่นอับชื้น มีพวกตะไคร่น้ำ ขึ้นเกาะตามผนังอิฐ เกือบสุดทางจึงเห็นแสงสว่างจากแสงไฟ เซ็ทหยุดยืนมองชายร่างกำยำถูกมัดกับเก้าอี้กำลังสลบไม่ได้สติอยู่
“เอาน้ำสาดให้มันตื่น!”สั่งเสียงกร้าว ลูกน้องรีบทำตาม
ชายแปลกหน้าค่อยๆ ลืมตาตื่นเงยมองชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเพียงแค่เห็นรับรู้ได้ว่าเขาคือใคร เสียงหัวเราะดังก้องขึ้นมา
“พวกแกมีแผนจะทำอะไรอีก!”
“ต่อให้ตายฉันก็ไม่บอกอะไรแกหรอก!”ยิ้มเยาะติดตามมา
เซ็ทชะงักอารมณ์เดือดดาลคว้าปืนจากลูกน้องจ่อตรงศีรษะแต่เหมือนมันจะไม่สะทกสะท้านยังคงหัวเราะลั่นเหมือนต้องการยั่วยุ
“เดี๋ยวครับคุณชาย”ฟาวิโอ่ห้าม ก่อนหยิบรูปถ่ายออกมาแล้วจ่อตรงหน้า “นี่ลูกสาวแกใช่ไหม แล้วนี่ก็เมียแก คนนี้ใช่แม่ของแกหรือเปล่า อันตัส!”
เงยหน้ามองชายร่างสันทัดแววตาแข็งกร้าว ลมหายใจติดขัด เลือดในกายเดือดพล่านพยายามดิ้นรนน้ำตาคลอ
“ไอ้ชั่ว แกจะทำอะไรครอบครัวฉัน!”
ผลั่ก!
เสียงหมัดกระแทกปากคนโดนเลือดไหลกลบ จ้องมองแววตาอาฆาต คนปล่อยหมัดยืนนิ่งสนิทเหมือนเคย
“หึ!” ยิ้มเย้ย “แล้วการที่แกจะวางระเบิดโรงแรมฉันโดยไม่สนว่าใครจะตายหรือไม่ นั่นไม่เรียกว่าชั่วเหรอ แกไม่สนด้วยซ้ำว่าคนเหล่านั้นจะเป็นครอบครัวของใคร มันก็คุ้มกันแล้วนี่... กับการทีแกจะต้องสูญเสียสิ่งที่ตัวเองรักดูบ้าง!”
ร่างกำยำขยับกายหมายจะพุ่งชนเซ็ท ความแค้นนี้จะไม่มีวันจางหากลูกเมียเป็นอะไรไป
“ถ้าแกทำอะไรครอบครัวฉัน... ฉันสาบานเลยว่าต่อให้กลายเป็นผีก็จะไม่ละเว้นพวกแก!”
“ก่อนแกจะอาฆาตคิดว่าฉันจะฆ่าลูกเมียแกแล้วล่ะก็ ช่วยกรุณาคายเรื่องที่พวกแกจะทำต่อไปเสียก่อน แล้วลูกเมียแกจะปลอดภัย ดีไหม... ถือเป็นข้อตกลงตามธรรมเนียมเลยก็ว่าได้”เซ็ทย่อกายลงจ้องมองใบหน้าเขียวช้ำ “ตัดสินใจซะ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมาเอาคำตอบ”
ลุกยืนเช่นเดิมหันหลังสาวเท้าตั้งใจเดินออกจากห้องใต้ดิน อันตัสขบกรามแน่น จำต้องทรยศต่อตระกูลอันเคยเกื้อหนุนเขามาตลอด
“เดี๋ยวก่อน!”
เซ็ทชะงักเท้าหันหลังกลับมามอง
“มีอะไร!”
“ฉันจะบอกความจริงกับพวกแก!”
เซ็ทยิ้มแล้วก้าวเดินหยุดยืนตรงหน้าผู้ร้าย อันตัสเงยหน้าข่มกลั้นความเจ็บใจ
“พรุ่งนี้จะมีการประชุมลับระหว่างผู้ถือหุ้นของพวกแก ระหว่างการเดินทางไปประชุมที่เมืองมิลาน จะมีการวางระเบิดตามเส้นทาง!”
คนฟังพูดไม่ออกขบกรามแน่นข่มอารมณ์ตนเอง เซ็ทสูดหายใจเข้าปอด
“พวกแกรู้ได้ยังไงว่าทางอัลเล็นโซ่จะมีการประชุมลับกัน!”
“เพราะทางอัลเล็นโซ่มีหนอนบ่อนไส้ แถมยัง... เป็นตัวใหญ่ซะด้วย”น้ำเสียงเหมือนเยาะ
เซ็ทหันมองลูกน้องแววตาแข็งกร้าว เกิดเรื่องใหญ่แน่หากมีใครต้องจบชีวิตลง คงต้องแจ้งเรื่องนี้ให้พี่ชายทราบเสียก่อน
“เกรเต้รีบไปรายงานพี่ซาฟให้รู้ด้วย!”
“ครับ”บอดี้การ์ดหนุ่มรับคำเร่งฝีเท้าออกไป
มองสภาพสะบักสะบอมของอันตัส คนอย่างเขาไม่เคยคิดฆ่าใครอยู่แล้วถ้ามันไม่จวนตัว ในเมื่อได้ข้อมูลมาก็ถือว่าดีไม่น้อย ไม่อย่างนั้นอาจมีใครได้รับอันตรายกันบ้าง
“ฟาวิโอ่ พามันไปส่งตำรวจหลังจากจัดการเรื่องวางระเบิดเรียบร้อย เพราะเราไม่แน่ใจว่ามันจะพูดจริงหรือเปล่า”เซ็ทบอกลูกน้อง
“ครับ”
ตอนนี้คงโล่งได้เปราะหนึ่งเพราะพี่ชายคนโตทำงานรวดเร็วและเฉียบขาด คงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง แต่หนอนบ่อนไส้ตัวสำคัญนี่สิมันคือใครกันแน่
“ฉันบอกความจริงพวกแกไปแล้ว ชะ...ช่วยฟังคำขอร้องสักอย่างได้ไหม!”น้ำตาคลอ
“เรื่องอะไร!”เซ็ทย้อนถามเสียงห้วน
“ช่วย...คุ้มครองลูกเมียฉันหน่อยได้ไหม ถ้าหากท่านรัสตินรู้ว่าฉันถูกจับตัวได้ ลูกเมียฉันจะต้องถูกฆ่าแน่ๆ”
เห็นแววตาส่งมา ซ่อนความเจ็บปวด หวาดกลัวไว้
“ก็ได้ ฉันตกลงรับปากแก แต่แกต้องไปสารภาพเรื่องทั้งหมดกับตำรวจด้วยเหมือนกัน”เซ็ทยื่นข้อเสนอ
“ฉันยอมทำตามทุกอย่างขอแค่ครอบครัวฉันปลอดภัย!”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้”
ฟาวิโอ่เดินเคียงข้างเจ้านายออกมา นึกนับถือน้ำใจของชายคนนี้ อยู่กันมานานรวมสิบปีทำให้ได้เห็นหลายๆ อย่าง ยังกลุ้มใจไม่หายเรื่องที่ท่านซานโต้ของร้อง แต่ไม่มีทางเลือกนอกจากทำมันเท่านั้น รู้ดีสถานการณ์อันกำลังจะเกิดนับจากนี้จะสร้างความแค้น เจ็บปวดให้ใครหลายคน หากไม่ลงมืออัลเล็นโซ่อาจถึงกาลวินาศจริงๆ ก็เป็นได้