บท
ตั้งค่า

หนีสุดชีวิต

นักฆ่าเงา หรือ ชื่อที่แท้จริง เฟิงอิง

หลังจากถูกกระสุนปืนจากผู้ที่เป็นพี่ชายร่วมสาบาน ร่วงหล่นจากสะพานร่างค่อยๆจมหายไปสู่แม่น้ำ ก่อนสติสัมปชัญญะจะดับสิ้น แผลที่ถูกยิงเข้าหน้าอกด้านซ้ายน่าจะเข้าไปตัดขั้วหัวใจแต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เพราะ มีแต่ตนและหยุนกวงเท่านั่นที่รู้ว่า แท้ที่จริงแล้วหัวใจตนอยู่ด้านขวา

ฉะนั้น แผลนี้มิอาจทำให้ตนถึงตายได้ แต่ ถึงกระนั่นเป็นที่น่าประหลาด แต่เดิมตนตั้งใจจะดำน้ำและหายสาบสูญไปตามที่ได้ตกลงกับหยุนกวง แต่... นี่ ตนกลับขยับเขยื่อนอะไรไม่ได้เลย จึงได้แต่ทำใจให้ร่างค่อยๆจมสู่ก้นแม่น้ำ แหงนหน้ามองไปบนผิวน้ำ เห็นแต่ เพียงพระจันทร์สีเลือด บัดนี้ถูกราหูกลืนกินเต็มดวงแล้ว ช่างน่าแปลกประหลาดยิ่งนัก แสงแห่งพระจันทร์ดับวูปไปคราหนึ่งก่อนค่อยๆทอแสงสว่างจ้า และส่องทอดประกายมายังร่างตนที่ค่อยๆจมลง ลำแสงนั้นหมุนคว้างไปมาในสติสัมปชัญญะสุดท้าย เหมือนมีแรงดึงดูดประหลาด ค่อยๆดึงร่างตนให้ไปสู่อุโมงค์แห่งแสงอันลึกลับ อนุสติสุดท้ายของเฟิงอิงก็ได้ดับวูปไป....

กึก... กึก..... กึก.... เสียงควบม้าตัวหนึ่ง ดังกลบความสงบเงียบในยามราตรีแห่งพระจันทร์สีเลือด ปรากฎการณ์อันน่าพิศวงนี้ถูกทับซ้อนด้วยเงาแห่งราหูที่ค่อยๆทอดตัวกลืนกินดวงจันทร์ทีล่ะน้อย แต่ คนสองคนบนหลังม้ามิได้มีเวลามาสนใจในปรากฎการณ์ประหลาดอันน่าสะพึงนี้ก็หาไม่

ด้วยร่างหนึ่งบนหลังม้าถูกปักด้วยลูกธนูที่กลางหลัง นอนซบอ่อนระโหยโรยแรงบนหลังม้า ข้างหน้ามีชายร่างบึกบึนสมส่วน ดูจะมีอาวุโสมากกว่าชายที่ถูกลูกธนูปักกลางหลัง 

" ท่านหัวหน้าทิ้งข้าน้อยไว้ที่นี่เถอะ พาข้าไปรังแต่เป็นตัวถ่วงท่าน ข้า... ข้า.... คงไม่รอดคืนนี้แน่ ขอรับ" 

ชายหนุ่มผู้บาดเจ็บกัดฟันร้องบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า... 

" อดทนไว้ ข้ามแม่น้ำนี่ไป ก็เข้าเขตเมืองหลวงแล้ว เจ้าต้องรอด เจียงสง" 

 

ชายผู้มีอาวุโสร้องให้กำลังใจลูกน้องทั้งๆที่ในใจ ย่อมรู้ดีบาดแผลฉกาจฉกรรจ์ขนาดนี้ ยากนักที่จะพ้นค่ำคืนนี้ 

ไม่เพราะลูกน้องผู้นี้เอาร่างเข้ามาบังธนูดอกนั้นคงปักหลังตนเป็นแน่

ตนและลูกน้องเจียงสงเป็นมือปราบแห่งวังหลวงขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้ ด้วยมีราชโองการลับให้สืบคดีเงินหลวงที่ส่งไปช่วยราษฎร์ประสบภัยธรรมชาติที่ชายแดนกลับถูกปล้นหายไปอย่างลึกลับ ต่อมาตนและผู้ช่วยเจียงสงมือปราบคนสนิทได้เบาะแสที่จะสาวถึงตัวการใหญ่ แต่ ระหว่างเดินทางกลับเมืองหลวงกลับถูกกลุ่มมือสังหารลอบโจมตี ในระหว่างการต่อสู้ อีกฝ่ายใช้พวกมากเข้ากลุ้มรุม เจียงสินเอาร่างบังธนูให้ตน จนตีฝ่าวงล้อมออกมาได้ แต่ก็ชั่วระยะหนึ่ง ด้วยฝ่ายไล่ล่าก็ตามมาอย่างกระชั้นชิด หมายสะกัดมิให้ตนเข้าถึงเมืองหลวง 

 

   " ท่านหัวหน้า ข้าน้อยรู้ดีคงมิมีโอกาสพ้นคืนนี้แน่ ข้า.... ข้า... ขอฝากท่านแม่และพี่สาวข้าน้อยให้ท่าน  ให้... ท่าน ช่วยดูแลด้วยนะ ขอรับ...."  

  เจียงสงเอ่ยถึงตอนนี้ก็ขาดใจบนหลังม้านั้นนั่นเอง หัวหน้ามือปราบแม้นเห็นลูกน้องคนสนิทสิ้นใจบนหลังมาก็มิยอมทิ้งร่างอันไร้วิญญาณไว้ข้างทางกัดฟันกำมือที่ถือเชือกบังคับม้าไว้แน่นควบตะบึงหมายข้ามแม่น้ำไปให้ได้  ทว่า... 

     วูป ร่างๆหนึ่งเหินลอยด้วยวิชาตัวเบาอันล้ำเลิศ ไล่ตามมาที่เบื้องหลัง สะบัดฝ่ามือคราหนึ่ง พลังลมปราณที่แข็งกร้าวฟาดใส่ม้าคู่ใจอย่างถนัดถนี่ ส่งผลให้สองร่าง หนึ่งม้ากลิ้งไปจนหยุดที่ริมตลิ่งของแม่น้ำ ม้าพาหนะทำหน้าที่สุดท้ายของมันอย่างเต็มภาคภูมิสิ้นใจตายตรงนั้นเอง หัวหน้ามือปราบ คว้าร่างอันไร้วิญญาณของลูกน้องไว้ในอ้อมแขน รีดเร้นพลังลมปราณขั้นที่หก ตีลังกากลิ้งหลบพลังฝ่ามืออันแข็งแรงนี้ไว้ได้อย่างเฉียดฉิว 

   หัวหน้ามือปราบนึกในใจ ตนมีพลังยุทธขั้นที่หก ก็ถือว่า อยู่ในระดับแนวหน้า แต่ ผู้มา มีพลังยุทธขั้นเจ็ดกำลังข้ามสู่ขั้นแปด ตนไหนเลยจะเป็นคู่มือได้ มือขวากำดาบสะท้านฟ้าคู่ใจ มือซ้ายพยุงรั้งร่างเจียงสงไว้ มองไปเบื้องหน้า บัดนี้ ร่างเจ้าของพลังฝ่ามือภายใต้หน้ากากหนังสีดำผ้าคลุมดำทมึน ใครกันเป็นยอดฝีมือแฝงตัวอยู่ในอาณาจักรต้าหมิง ยอดฝีมือแห่งวังหลวงองครักษ์เสื้อแพรข้างกายองค์ฮ่องเต้ ก็ขั้นเจ็ดเข้าไปแล้ว แต่ คนผู้นี้กำลังก้าวเข้าสู่ขั้นแปด ยากนักที่ตนจะพ้นชะตากรรมในค่ำคืนนี้เป็นแน่

   

    " วรยุทธขั้นแปด เจ้าคือผู้ใดกัน อ๋องหยู่มียอดฝีมือสูงส่งเช่นนี้ด้วยหรือไร" 

  หัวหน้ามือปราบร้องถามไปแต่ในใจ คิดแผนเตรียมการหลบหนี ขอเพียงข้ามไปอีกฝั่งของแม่น้ำ ตนก็จะรอดด้วยนัดหมายกับองครักษ์เสื้อแพรไว้ 

  " หึ หึ  หึ ... มือปราบไป้ คำถามนี้ ไว้เจ้าไปถามในนรกเถอะ.... " 

  กล่าวจบอีกฝ่ายซัดฝ่ามืออันเข้มข้นด้วยพลังยุทธขั้นที่แปดหมายปลิดชีพคู่เป้าหมายด้วยกระบวนท่าฝ่ามือเดียว กระแสพลังลมปราณขั้นที่แปดรวมตัวหนาแน่นหมุนวนตรงเข้าปะทะ ส่งผลให้ หัวหน้ามือปราบยากเกินต้านทานพลังฝ่ามือนี้ไว้ได้ กระแสพลังฝ่ามือพุ่งตรงเข้าแทรกชีพจรหัวหน้ามือปราบจนกระอักโลหิตออกมากองโต แต่ยังคงฝืนกลืนเลือดเร่งพลังลมปราณที่แสนอันน้อยนิดเหลือแรงเฮือกสุดท้ายคว้าร่างลูกน้องคนสนิทเจียงสง กระโจนหายลงสู่แม่น้ำไปในทันที เวลานั้นตรงกับปรากฎการณ์ราหูเข้าอมจันทร์แสงแห่งคืนพระจันทร์สีเลือด หายลับไปครู่หนึ่ง ก่อนกลับมาทอแสงสีนวลเฉิดฉายเป็นปรกติไร้วี่แววแห่งคืนวันพระจันทร์สีเลือด 

    ยอดฝีมือลึกลับหลังจากลงมือ  ค่อยเดินเยื้องย่างไปดูผลงานของตนที่ริมตลิ่ง เมื่อแน่ชัดว่าอีกฝ่ายมิอาจมีชีวิตรอดไปอีกฝั่งหนึ่งเป็นแน่ จึงหันกายเดินจาก กลืนหายไปในความมืดแห่งราตรีนั้นเอง 

  %%%%%%%%%%%%%%%

เดินเรื่องมาถึงตอนที่3 แล้ว ตอนต่อไปจะยิ่งเข้มข้นขึ้น ขอฝากอีกหนึ่งผลงานไว้ด้วยนะครับ ผิดพลาดประการใด ติชมชี้แนะได้นะครับ 

        โปรดติดตามตอนต่อไป

ขอบคุณครับ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel