EP.4 : เเม็กเครย์
“ นายครับ มีอะไรหรือเปล่า ” วิคเตอร์ลูกน้องคนสนิทรีบเดินเข้ามาถามขึ้นเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินออกมาจากห้อง เขาชำเลืองสายตามองหญิงสาวที่เดินตามหลังเจ้าหนุ่มออกมาติดๆ สภาพชุดเดรสด้านบนที่ฉีกขาดและรอยแดงบนแก้มทั้งสองข้างของเธอทำให้เขาหมวดคิ้วย่นเข้าหากันด้วยความสงสัย
“ ไม่มีอะไร กูจะกลับแล้ว ”
“ ผมให้ก้องไปเตรียมรถรอไว้แล้วครับ เอ่อ..แล้วผู้หญิงด้านหหลังนายล่ะครับ ” วิคเตอร์มองจ้องหญิงสาวที่ยืนข้างหลังเจ้านาย
“…” แม็กเครย์ไม่ได้ตอบ เขาเดินออกไปจากที่ตรงนั้นโดยไม่ได้หันมาสนใจหญิงสาวอีก
“ เอ่อ..เชิญครับนาย ”
เฌอแตมได้แต่ทำตาปริบๆ มองตามแผ่นหลังกว้างของเขาที่ห่างสายตาไปเรื่อย เธอก้มลงมาดชุดเดรสสายเดี่ยวที่ถูกฉีกขาดอยู่ครู่หนึ่ง ถ้าเธอเผลอปล่อยมือเมื่อไหร่มันคงจะร่วงลงมาแน่ๆ เมื่อฉุกคิดได้แบบนั้นเท้าเล็กก็ขยับเดินตามหลังชายหนุ่มทั้งคู่ออกไป หญิงสาวเดินผ่านผู้คนที่เดินสวนกันไปตรงโถงทางเดินด้วยใจเต้นแรง สภาพของเธอตอนนี้
“ ดะเดี๋ยวค่ะ คุณคะ!! ”
เสียงเรียกของเธอทำให้ร่างสูงที่กำลังเดินตรงไปยังรถยนต์หรูที่จอดรออยู่หยุดชะงัก แม็กเครย์พ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด เขาหันหลังกลับไปมองหญิงสาวที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา
“ มีอะไร? ”
“ ขอบคุณมากๆที่ช่วยหนูนะคะ ”
“ ฉันแค่รู้สึกรำคาญ มีอะไรอีกไหม ”
“ หนูอยากรู้จักชื่อคุณ หนูรู้สึกคุ้นกับคุณจังเลย เราเคยเจอกันที่ไหนหรือเปล่าคะ”
“ หึ..นี่เป็นวิธีเข้าหาผู้ชายของเธอ? ”
“ หะ! มะไม่ใช่ค่ะ หนูไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น แค่รู้สึก..” เธอลืมตัวเผลอยกมือขึ้นมาโบกไม้โบกมือปฏิเสธเขาเป็นพัลวัน ส่งผลให้ชุดเดรสที่ฉีดขาดร่วงลงมาจนถึงเอวขอด เฌอแตมเบิกตากว้างมองหน้าอกของตัวเองด้วยความตกใจก่อนจะยกกระเป๋าสะพายสีดำขึ้นมาปกปิดไว้
ชายหนุ่มยืนมองท่าทางตกใจของหญิงสาวตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบเฉย สายตาคมกริบสำรวจมองดูแก้มขาวที่ขึ้นรอยแดงเป็นริ้วๆ และรอยเลือดที่ติดอยู่ที่มุมปากด้านขวา เขาเอื้อมมือออกมาแตะตรงใบหน้าของเธอแผ่วเบา
“…” เธอปัดมือหนาออกจากพวงแก้มอัตโนมัติ ร่างบางขยับออกห่างจากเขาอย่างระแวดระวัง
“ หึ..ดูๆไปเธอก็น่าสนใจดี ขึ้นรถมาสิเดี๋ยวฉันไปส่ง ”
“ เอ่อ..หนูกลับเองได้ค่ะ แค่อยากมาขอบคุณแล้วอยากจะ...” เธอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ขณะที่มองดวงตาสีดำนิลที่ดูน่าลึกลับคู่นั้นของเขา
“ กลับในสภาพนี้? คงถึงบ้านอยู่หรอก ”
“ เอ่อ.. หนูเกรงใจ.. เอ่อ..ถ้าจะรบกวนขอยืมเสื้อสูทของคุณจะได้ไหมคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจะเอามาคืนให้ค่ะ ”
“ ที่พูดนี่เกรงใจแล้ว? ”
“…”
เฌอแตมกัดริมฝีปากล่างเบาๆพลางก้มหน้าลงมองหน้าอกตัวเองผ่านด้านหลังกระเป๋าสะพายสีดำแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ใช่..เขาพูดถูก ในเวลาขนาดนี้และในสภาพแบบนี้ ถ้าให้นั่งรถแท็กซี่กลับคงดูไม่ปลอดภัยสำหรับเธอแน่ แต่นั่งรถไปกับคนแปลกหน้าแบบเขา เธอก็รู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยสำหรับเธอเหมือนกัน ยิ่งผ่านเหตุการณ์แบบนั้นมาหมาดๆ เธอก็ยิ่งรู้สึกกลัวและระแวงไปหมด
“ หนูแค่ไม่อยากรบกวนคุณไปมากกว่านี้ค่ะ”
“…”
ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรตอบ ร่างสูงขยับโปร่งตัวเดินเข้าไปนั่งในรถยนต์ที่วิคเตอร์เปิดประตูรออยู่ ขณะที่ประตูรถกำลังจะปิดลง เธอก็รีบเดินเข้าไปหาชายหนุ่มทันที มือเล็กข้างหนึ่งเอื้อมออกไปจับบานประตูรถไว้แน่น
“ เอ่อ..นะหนู ”
สายตาคมกริบที่ดูเย็นชาคู่นั้นตวัดมองจ้องเธอเขม็ง ความรู้สึกเย็นวาบที่เกิดขึ้นอัตโนมัติมันทำให้เธอรีบปล่อยมือออกจากบานประตูรถทันที
วิคเตอร์ที่ยืนมองอยู่เดินเข้ามาจับแขนของหญิงสาวไว้ก่อนจะกระชากร่างบางให้ออกห่างจากประตูรถยนต์ สายตามองหญิงสาวด้วยแววตาดุดันเมื่อเธอพยายามจะเข้าใกล้เจ้านายของเขามากเกินไป
แมกเครย์ถอดเสื้อสูทตัวนอกออกและโยนมันใส่หญิงสาวที่ยืนมองเขาด้วยความงุนงง มือเล็กคว้ามันมาสวมไว้ด้วยความรวดเร็ว
“ เอ่อ..ขอบคุณมากๆค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูเอาเสื้อสูทไปคืนให้คุณนะคะ ” เฌอแตมฉีกยิ้มกว้างออกมาขณะที่มองหน้าชายหนุ่มไม่กะพริบตา
“ ไม่ต้อง ฉันให้ ”
“ แต่...”
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจจะคุยกับเธออีก เขารู้สึกว่าเสียเวลามามากพอสมควรแล้วกับการคุยกับหญิงสาวตรงหน้า มือหนาเอื้อมออกมาปิดประตูรถยนต์ทันที
เมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของแม็กเครย์ เธอก็ได้แต่ยืนนิ่งเงียบ สายตามองดูลูกน้องของเขาที่ผละออกห่างจากตัวเธอ ร่างสูงขยับตัวกลับไปที่ประตูรถที่นั่งข้างคนขับ พอเห็นแบบนั้นเธอก็ได้สติและรีบขยับตัวออกไปหาชายหนุ่มที่กำลังจะเปิดหระตูรถที่นั่งข้างคนขับออก มือเล็กเอื้อมออกมาคว้าแขนข้างหนึ่งของวิคเตอร์ไว้อย่างลืมตัว แต่เมื่อเห็นสายตาดุๆที่มองมาเธอก็รีบปล่อยมือออกทันที
“ เอ่อ..ขอโทษค่ะ หนูอยากรู้ว่าเจ้านายพี่ชื่ออะไร แล้วอยากจะเอาเสื้อไปคืนให้เขาก็เท่านั้นเอง ”
“ คุณแม็กเครย์ เมื่อกี้เจ้านายผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ต้อง ” วิคเตอร์พูดจบ ชายหนุ่มก็ขยับตัวเข้าไปนั่งในรถและปิดประตูรถทันทีโดยไม่ได้สนใจหญิงสาวอีก
“ แม็กเครย์? ทำไมชื่อคุ้นหูจัง ”
เฌอแตมยืนมองรถยนต์คันหรู 2 คันที่เคลื่อนออกไปจากหน้าคลับและยืนมองมันจนกระทั่งลับสายตา เธอก้มมองดูเสื้อสูทสีดำอยู่ครู่หนึ่ง กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆของผู้ชายลอยขึ้นมาแตะจมูก อะไรในตัวของผู้ชายที่ชื่อแม็กเครย์ทำให้เธอรู้สึกสนใจ วิธีการพูด น้ำเสียงของเขาช่างคล้ายคลึงกับใครบางคนที่อยู่ในความทรงจำของเธอเหลือเกิน