9 เธอผิดสัญญา nc
กลับมาถึงห้องมิรันดาก็รีบอาบน้ำอย่างรวดเร็วจากนั้นก็เอาน้ำหอมสองขวดถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงไอจีและเฟซบุ๊ก ยังไม่ทันได้ดูว่ามีคนมากดถูกใจเยอะไหมโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นเสียก่อน
“สวัสดีค่ะพี่ต้น”
“รันอยู่ที่บ้านหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะพี่ต้นมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“พี่ติดต่อโยไม่เลย ถ้ารันเจอบอกโทรหาพี่ด้วยนะพี่มีเรื่องจะคุยกับเขา”
“ได้ค่ะ ถ้ารันเจอรันจะรีบโทรหาพี่ต้นนะคะ”
“คุณคุยกับใครมิรันดา” เสียงมาร์คัสตะโกนถาม
“พี่ต้นค่ะ พอดีว่าเขาโทรถามอะไรนิดหน่อย”
“แต่ในสัญญาระบุไว้แล้วว่าเธอจะติดต่อเขาอีก”
“ก็แค่คุยกันทางโทรศัพท์เองนะคะ ไม่ได้มีอะไรเลย”
“แล้วมันเรียกว่าติดต่อกันไหมล่ะ”
“ฉันก็แค่คุยกับเขาเอง ไม่กี่นาที ถ้าไม่เชื่อคุณจะลองดูก็ได้ว่าสายล่าสุดฉันคุยไปนิดเดียว”
“นิดเดียวก็ไม่ได้ ในเมื่อมาอยู่กับฉันก็ต้องเชื่อฟังฉัน” พูดจบเขาก็คว้าโทรศัพท์ของเธอปาลงบนพื้นอย่างแรง จนมันแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี
“คุณมาร์คัส มันจะเกินไปแล้วนะ”
“เธอไม่มีสิทธิ์มาขึ้นเสียงกับฉัน สั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำตามนั้น”
“แต่สิ่งที่คุณทำมันไร้เหตุผลสิ้น คุณมันบ้าอำนาจ”
“ใช้สิ ฉันจะใจดี อ่อนโยนอบอุ่นเหมือนพี่ต้นของเธอได้ยังไงล่ะคนบ้าอำนาจอย่างฉัน ทำอะไรได้มากกว่าที่เธอคิดนะมิรันดา”
พูดจบมาร์คัสก็กระชากมิรันดาเข้ามาหา มือทั้งสองประคองใบหน้าและบดขยี้ปากร้อนๆ แนบปากนุ่มอย่างรุนแรง
ร่างกายมิรันดาอ่อนปวกเปียก เพราะไม่เคยถูกจูบมาก่อนในชีวิต หญิงสาวอ่อนระทวยเอนกายเข้าหามาร์คัสอย่างไม่รู้ตัว กลีบปากนุ่มถูกแทรกด้วยปลายลิ้นสากที่สอดเข้าไปกวาดต้อนความหวานราวน้ำผึ้งเดือนห้าอย่างหิวกระหาย เมื่อจูบจนพอใจเขาถอนริมฝีปากออกด้วยความเสียดาย
“จำไว้นะมิรันดาว่าตอนนี้เธอคือคนของฉันเพราะฉะนั้นอย่าเอ่ยชื่อนั่นให้ฉันได้ยินอีก ถ้าร่านมากนักเดี๋ยวฉันจะจัดให้”
“เพี๊ยะ”
เสียงฝ่ามือสะบัดใส่แก้มสาก มาร์คัสหันกลับมามองคนที่กล้าตบหน้าเขาเป็นคนแรกด้วยดวงตาวาวโรจน์
“เธอกล้าตบฉันเป็นคนแรกนะมิรันดาเพราะฉะนั้นก็เตรียมตัวรับผลกรรมที่จะตามมาได้เลย”
ชายหนุ่มประกาศกร้าว เขาไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนตบมาก่อนเลยสักครั้ง จากนี้เขาจะทำให้เธอรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นมันผิดและจะทำให้ตัวเองเดือดร้อนมากแค่ไหน
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะคุณมาร์คัส” มิรันดาถอยหลังจนเสียหลักล้มลงบนเตียงนอนอย่างพอดี
“หึ เธอกำลังพยายามทำให้ฉันคิดว่าเธอยังไม่เคยกับเรื่องอย่างว่า ถ้าฉันไม่รู้ว่าเธอเคยเป็นเมียน้อยมาก่อนฉันคงหลงเชื่อท่าทางใสซื่อของเธอไปนานแล้ว”
“ก็ฉันบอกคุณแล้วว่าฉันไม่เคยเป็นเมียน้อยใคร”
“ยังจะปากแข็งอีกนะ ฉันว่าเธอเก็บแรงที่เถียงฉันไว้ครางจะดีกว่านะมิรันดา”
“คุณมัน หยาบอื้อ..”
เมื่อเขาก้มลงปิดปากนุ่มอีกครั้ง ปลายลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงอุ่น เกี่ยวพันกับเรียวลิ้นเล็กอย่างหิวกระหาย ความหวานที่ได้รับทำให้มาร์คัสหลงลืมไปเสียสนิทว่าเธอเคยเป็นอะไรกับเขมทัตมาก่อน เพียงแค่จูบเขาก็หลงใหลจนแทบไม่อยากจะหยุด ผู้ชายมากประสบการณ์อย่างเขาผ่านผู้หญิงมานักต่อนัก แต่ยังไม่มีผู้หญิง คนไหนที่กระตุ้นอารมณ์ปรารถนาของเขาให้ลุกโชนได้มากเท่านี้มาก่อนเลย
ความรู้สึกต่อต้านของมิรันดาแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นความซาบซ่านรัญจวน มิรันดาถูกเขามอมเมาด้วยรสจูบที่เพิ่งเคยได้สัมผัสจากเขาเป็นคนแรก เขียนเรียวยกขึ้นโอบรอบลำคอแข็งแรงเอาไว้อย่างลืมตัว
“จูบหวานแบบนี้ไอ้ต้นมันถึงได้ติดใจ”
“ฉันคิดว่าคุณคงไม่หลงฉันอีกคนหรอกนะ”
มิรันดารีบพูดเพราะอยากให้เขาหยุดการกระทำที่จาบจ้วงนี้ก่อนที่จะเกินอะไรขึ้นไปมากกว่าการจูบ
“ฉันยังไม่ได้ลองเลยจะรู้ได้ยังไง”
“ไหนคุณเคยบอกว่าจะไม่ทำอะไรฉันเพราะฉันไม่ใช่สเปกของคุณ”
“ฉันจำไม่ได้ว่าเคยพูดไปตอนไหน เอาน่าฉันจ่ายไปตั้ง 40 ล้านนะ คิดว่าฉันจะจ่ายให้คุณมาด่าฉันเหรอ”
“ใจเย็นก่อน ฉันขอโทษ สัญญาเลยจากนี้จะไม่ติดต่อเขาอีก ฉันจะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง” หญิงสาวพยายามต่อรองเพราะดูจากสถานการณ์แล้วเธอเสียเปรียบเขาอยู่มาก
“มันสายไปแล้วล่ะมิรันดาเพราะตอนนี้ร่างกายของฉันเรียกร้องให้เธอรับผิดชอบ”
มาร์คัสไม่อยากจะเสียเวลาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ร่างกายของเขามันปวดหนึบจนแทบจะระเบิด ชายหนุ่มทับทาบลงไปยังร่างที่นอนอยู่บนเตียง กดจูบลงบนเรียวปากนุ่มอย่างเร่าร้อน ใช้ประสบการณ์ที่มีหลอกล่อจนเธอยอมเผยอปากให้เขาได้ดูดกินน้ำหวาน จากท่าทีต่อด้านก็เริ่มอ่อนระทวยอีกครั้ง
ชุดนอนถูกจับโยนไปยังมุมห้อง ปากร้อนกดจูบไปตามลำคอระหง สุดดมกลิ่นกายที่แสนหอมหวาน ฝ่ามือร้อนเกาะกุมทรวงอกขนาดพอดีมือราวกับ พระเจ้าสร้างร่างกายของเธอขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ มาร์คัสบีบเคล้นเบาๆ ก่อนจะถอดบราเซียร์ของเธอออกอย่างชำนาญ เมื่อสัมผัสกับเนื้อเนียนนุ่มที่แท้จริง เขาก็ครางในลำคออย่างพอใจ สองมือคลึงเคล้นเบาๆ สลับกับหนักหน่วงอย่างหลงใหล ความนุ่มหยุ่นเป็นธรรมชาติทำให้เขาสติแตกกระเจิง
มิรันดาเองก็สมองเบลอไปหมดเมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวดูดกลืนยอดทรวงสีชมพูระเรื่อที่แข็งชูชันเข้าไปในโพรงปากอุ่นชื้น เขาทั้งดูดและขบเม้มจนมิรันดาแอ่นร่างเข้าหาอย่างลืมตัว
ไฟพิศวาสที่มาร์คัสจุดขึ้นแผดเผาจนเธอแทบมอดไหม้ ด้วยริมฝีปากที่คลุกเคล้าไปทั่วร่างงามอย่างหลงใหล ริมฝีปากร้อนแนบไปกับทุกสัดส่วน จนหญิงสาวร้อนระอุไปทั่วทั้งร่างราวกับเป็นไข้
มาร์คัสผละจากร่างมิรันดาออกเพียงไม่กี่วินาทีเพื่อจัดการกับเสื้อผ้าของตนเองออกจนหมด จากนั้นเขาก็ทับทาบกายแกร่งลงมาอีกครั้ง กดคลึงสัดส่วนความเป็นชายที่แข็งร้อนกับกลีบกุหลาบดอกงาม ก่อนจะกดเข้าไปช้าๆ
“อื้อ เจ็บ”
มิรันดากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างกายเธอปวดร้าวและรู้สึกเหมือนกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง เมื่อความใหญ่โตของมาร์คัสลุกล้ำเข้ามาเพียงนิด น้ำตา ไหลออกมาทางหางตาเป็นทางยาว
“มิรันดา ทำไม...”
มาร์คัสชะงักค้างด้วยความตกใจ ที่ผ่านมาเธอก็พยายามบอกเขามาตลอดว่าเธอไม่ใช้เมียน้อยของเขมทัตแต่เข้ากลับไม่ยอมฟังเธอเลยสักนิด
ชายหนุ่มรู้สึกผิดแต่มันก็สายไปเสียแล้วเพราะถ้าให้เขาถอยตอนนี้เขาคงได้ทรมานจนตายแน่ๆ
“คราวนี้เชื่อฉันหรือยังล่ะว่าฉันไม่ใช่เมียน้อยของใคร”
“เชื่อแล้ว ผมเชื่อคุณแล้วชื่อย่างหมดใจเลย ไม่ร้องนะครับคนเก่ง” พอรู้ว่าเธอไม่เคยเป็นของใครมาก่อนสรรพนามก็เปลี่ยนไป อีกทั้งยังรู้สึกหวงแหนเธอขึ้นทันที
“ออกไปก่อนได้ไหม ฉันเจ็บ”
“ผมเข้ามาแล้วก็เท่ากับตอนนี้คุณเป็นของผมแล้วนะมิรันดา คุณได้ได้ยินไหมคุณเป็นของผมเป็นผู้หญิงของผมคนเดียว”
“คุณก็ไม่ต่างจากน้องเขยของคุณใช่ไหม หาเด็กสาวมาเป็นเมียน้อย”
“อย่าเข้าใจผิดผมยังไม่มีเมียเพราะฉะนั้นคุณไม่ใช่เมียน้อยของใครทั้งนั้น มิรันดาให้ผมเถอะนะอย่าทรมานกันแบบนี้เลย”
“แต่ฉันเจ็บ”
“เชื่อใจผมนะเดี๋ยวมันจะดีขึ้นนะ มิรันดาเชื่อผมนะ”
เพราะคำพูดที่ดูจริงใจทำให้มิรันดาเชื่อเขาอย่างง่ายดาย หญิงสาวพยักหน้าให้เขา มาร์คัสจูบซับน้ำตาจนแห้งจากนั้นก็มอบจูบหวานล้ำให้กับเธอเพื่อเป็นการปลอบใจ
“อื้อ”
มิรันดาครางสะท้านเมื่อเขาดันสะโพกเข้าหาโพรงอ่อนนุ่มที่ละนิด จนในที่สุดเธอก็รับความใหญ่โตของเขาเข้าไปจนหมด ชายหนุ่มนิ่งอยู่ในโพรงอ่อนนุ่มชั่วครู่ก็เริ่มขยับสะโพกอย่างช้า เนิบนาบกดวนให้โพรงอ่อนนุ่มโอบรัดทุกทิศทาง
เพียงไม่นานมิรันดาก็หลงลืมความเจ็บปวดแล้วความเสียวซ่านก็เข้ามาแทนที่เธอเสียวซ่านมากกว่าเจ็บปวด ร่างกายร้อนขึ้นทีละนิด ทุกจังหวะที่มาร์คัสกระแทกเข้ามันเสียวอย่างที่ไม่เคยมาก่อน ท้องน้อยหญิงสาวหดเกร็ง มิรันดารู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยคว้างอยู่ในท้องฟ้ากว้าง
“มิรันดาแน่นไปหมดเลย มันดีมาก”
มาร์คัสครางแทบไม่เป็นภาษาเมื่อตัวตนของเขาถูดรัดลึงด้วยความอ่อนนุ่มจนแทบปริแตก
“คุณมาร์คัส ฉันไม่ไหว ช่วยด้วย มันเหมือนใจจะขาด”
หญิงสาวพูดกระท่อนกระแท่น ลมหายใจเริ่มขาดช่วง
“ปล่อยตัวตามสบายมิรันดา อย่าคิดอะไรมาก อีกนิดนะ ผมจะพาคุณเอง”
มิรันดากรีดร้องอย่างสุดเสียง เมื่อความสุขมาเยือนเป็นครั้งแรก ร่างสาวเกร็งกระตุกสมองจะขาวโพลนไปหมด มาร์คัสรู้สึกถึงแรงบีบรัดที่มากว่าทุกครั้ง เขาโจนทะยานเข้าไปในช่องทางรักอย่างหนักหน่วงจากนั้นเสียงแหบพร่าก็ดังขึ้นพร้อมกับลาวาร้อนที่พวยพุ่งเขาไปในโพรงถ้ำอย่างมากมายจนมันแทบจะเอ่อล้นออกมาทางด้านนอก
“อ้าห์...”
ร่างกายของมาร์คัสกระตุกอย่างสุขสมและยาวนานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“มิรันดา คุณวิเศษมาก ขอบคุณที่มอบสิ่งที่พิเศษสุดให้กับผม นานแล้วที่ผมไม่มีความสุขแบบนี้ นานแล้วที่ไม่เคยมีใครทำให้ผมอิ่มใจอย่างนี้มาก่อน”
เขาถอนตัวตนออกด้วยความเสียดาย จากนั้นรั้งให้เธอมานอนแนบอกอย่างอ่อนโยน
มิรันดาร้องไห้ขณะที่อีกคนกำลังมีความสุข เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าความบริสุทธิ์ที่ตนเองหวงแหนจะมาจบลงกับผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่เธอคิดว่าเขาคือผู้มีพระคุณ แต่เขากลับทำเหมือนเธอเป็นแค่หญิงขายบริการหรือเป็นแค่สิ่งของสักชิ้นเท่านั้น
“ผู้ชายทุกคนก็คงพูดอย่างนี้เวลาที่ได้เป็นคนแรกของใครสักคน” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น
สิ่งที่หวงแหนมาตลอดเสียไปแล้ว เธอเสียใจที่ไม่อาจรักษาสิ่งมีค่าไว้กับตัวได้ มิรันดาไม่รู้ว่าครบสัญญาสามเดือนแล้วชีวิตของเธอจะเป็นยังไงต่อ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เคยอยู่ในแผนของการใช้ชีวิตมาก่อน
“ทำไมต้องร้องไห้ ผมเป็นผู้ชายคนแรกมันน่าเสียใจขนาดนั้นเชียวเหรอ”
“แล้วคุณคิดว่าฉันควรจะดีใจหรือไง”
“แน่นอนใครก็อยากเป็นผู้หญิงของผมทั้งนั้นแหละ”
“แต่หนึ่งในนั้นคงไม่ใช่ฉัน คุณมันก็แค่ผู้ชายเฮงซวย ผู้ชายเห็นแก่ตัว ผู้ชายฉวยโอกาส”
มาร์คัสไม่ชอบเลยที่เธอต่อว่าเขาแบบนี้ เพราะมีผู้หญิงอีกมากมายที่อยากจะเป็นผู้หญิงของเขา แต่เธอกลับปฏิเสธ ความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกหยามจากผู้หญิงที่เขาซื้อมาด้วยเงิน
“งั้นฉันจะแสดงให้เธอดูว่าคนเฮงซวยจริงๆ นะเขาทำยังไงกับผู้หญิงที่ซื้อมาด้วยเงิน”