7.เชื่อข้าสิ
นาทาเลียเผลอเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเธอได้ยินคำกล่าวของเขา เท่าเทียมในความหมายของเขามันมีความหมายว่าหากเธอเห็นก้นเขา เขาก็จะต้องเห็นก้นเธอแบบนั้นเรอะ!!
“หมายความว่าเจ้าต้องการที่จะทำแบบเดียวกันกับที่ข้าทำ?”
เธอย้อนเขาอีกครั้ง
“ครับ ข้าไม่เห็นว่าคำกล่าวของข้ามันจะเข้าใจยากตรงไหนเลย แต่ทว่าในยามนี้ข้าจะต้องทำให้ร่างกายของท่านอบอุ่นซะก่อนไม่อย่างนั้นสาวใช้มากมายจะเดือดร้อนในวันพรุ่งนี้”
เขาจับที่ไหล่ของเธอก่อนจะหมุนตัวเพื่อให้เธอหันหลังให้กับเขา แกสทอนถอดผ้ากันเปื้อนที่ผูกอยู่บนเอวของนาทาเลียออกมา ตามด้วยชุดของสาวใช้ที่เธอกำลังสวมอยู่
แกสทอนไม่ได้ให้โอกาสในการปฏิเสธแก่นาทาเลียเพราะว่าเขาเร่งรีบถอดชุดที่เปียกชุ่มพวกนั้นออกจากร่างกายของเธอ หลังจากนั้นเขาใช้ผ้าห่มคลุมตัวเธอเอาไว้ด้วยความรวดเร็วและคล่องแคล่ว
หลังจากนั้นเขาก็ห่อตัวของนาทาเลียด้วยผ้าห่มแล้วอุ้มเธอขึ้นมาเพื่อพาเธอไปยังห้องนอนของเขา
“แกสทอน..”
ทำไมนะเธอถึงได้ขยันเรียกชื่อของเขานักหนา และชื่อของเขาที่เปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงของเธอมันสร้างความสั่นไหวในใจของแกสทอนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ทำไมครับ ไม่สะดวกให้ข้าเปลี่ยนชุดให้อย่างนั้นหรือ? หากจะนับกันจริงๆ ข้าคือพ่อบ้านและการดูแลท่านหญิงคือหน้าที่ของข้า..”
“ไม่ใช่แบบนั้น..”
จะพูดอย่างไรดีว่าเธอไม่ได้อยากจะอยู่กับเขา หรือว่ารบกวนเวลาของเขานานมากขนาดนั้น นาทาเลียแค่อยากจะทำภารกิจของเธอให้เสร็จสิ้นเพื่อที่เธอจะได้ไปจากที่นี่
เธอรู้ว่าแกสทอนเองก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าของเธอเท่าไหร่นัก และการที่เขายื่นข้อเสนอของเท่าเทียมอะไรนั่นมา มันน่าจะมาจากความอยากแก้แค้นของเขาหรือไม่ก็..เขาอยากทำให้เธออับอาย นาทาเลียไม่ได้โกรธแกสทอนและเธอไม่มีทางเลือกแล้วนอกจากจะยินยอมรับข้อเสนอความเท่าเทียมอะไรนั่นของเขา หลังจากนั้นเราก็ผลัดกันตีก้น แล้วต่างคนต่างแยกย้ายไปนอน
“หากท่านกังวลเรื่องที่ท่านหญิงต้องการ เราจะมาพูดคุยเรื่องนี้กันอีกครั้ง หลังจากที่ท่านสวมใส่ชุดที่ไม่เปียกชื้นเช่นนี้”
นาทาเลียกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่น่าอับอาย เพราะแกสทอนยืนกรานว่าเขาจะสวมเสื้อผ้าของเขาให้เธอก่อน ในบ้านของเขามันไม่มีเสื้อผ้าสตรีชุด อีกทั้งที่แห่งนี้มีแค่เรา เพราะว่าเขาไล่ทหารทั้งหมดไปแล้ว เรื่องนั้นเธอรู้ดีว่าเขาไม่สามารถสั่งการให้ทหารไปนำเสื้อผ้าของสตรีมาให้เธอที่นี่ได้ เพราะอย่างนั้นการสวมเสื้อของเขามันก็เป็นอีกอย่างที่เธอหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ข้าจะใส่เองค่ะ”
“ท่านสวมมันด้วยตัวเองไม่ได้หรอกครับ เพราะอย่างนั้นหากว่าท่านหญิงอยากจะให้ช่วงเวลานี้จบลงอย่างรวดเร็วท่านจะต้องอยู่เฉยๆ เพื่อให้ข้าสวมมันให้แก่ท่าน”
เขาหมุนตัวเพื่อให้เธอหันหลังให้เขาอีกครั้ง แกสทอนค่อยๆ ถอดเสื้อซับในของนาทาเลียออก เธอเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัวเมื่อสิ่งปกปิดร่างกายเพียงชิ้นเดียวของเธอถูกถอดออกไป
แกสทอนเหลือมองแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าและก้นขาวกลมด้วยสายตาเรียบเฉย เขาพยายามเก็บซ่อนสีหน้าให้มิดชิดก่อนจะรีบสวมเสื้อของเขาให้เธอ
แน่นอนว่าเสื้อสีขาวตัวบางของเขานั้นนับว่าอันตรายยิ่งนัก เพราะว่ามันไม่ได้ปกปิดส่วนเว้าส่วนโค้งของโฉมงามได้เลยแม้แต่นิดเดียว
และเสื้อของเขาเพียงตัวเดียวสามารถคลุมได้เกือบถึงเข่าของเธอเพราะอย่างนั้นแกสทอนจึงไม่ได้สวมกางเกงตัวใหญ่ของเขาให้กับเธอแต่เขาเลือกที่จะสวมกางเกงผ้าแพรให้เธอแทน
เมื่อนาทาเลียอยู่ในสภาพที่พร้อมจะพูดคุยกันแล้ว แกสทอนจึงส่งแส้หนังสีดำใส่มือของเธอ
“เราคงจะไม่ต้องพูดคุยกันให้มากกว่าอีกแล้วนะครับเพราะเมื่อครู่ ข้าน่าจะหาคำตอบสำหรับการกระทำของท่านได้แล้ว”
เขากล่าวพร้อมกับหันหลังให้เธอ แกสทอนถอดกางเกงของเขาออก และเพราะว่ากางเกงของเขามันเปียกชุ่มทำให้มันร่วงหล่นไปกองที่พื้นในทันทีที่เขาปลดกระดุมมัน
เธอกัดริมฝีปากเบาๆ ด้วยความเขินอาย ก่อนจะเดินเข้าไปหาเขา เอาล่ะ..ตอนนี้ไม่มีเวลาอะไรให้มานั่งคิดอีกแล้ว ก้นที่เปลือยเปล่าของแกสทอน ภารกิจที่หนึ่งของเธอกำลังจะสำเร็จแล้ว
นาทาเลียฟาดแซ่ลงไปบนบั้นท้ายของแกสทอนอย่างแรง
“เพี๊ยะ!!”
“อะ..อึ่ก!”
ดวงหน้าหวานพลันร้อนฉ่าขึ้นมาเมื่อเธอได้ยินเสียงร้องครางในลำคอของเขา เธอไม่รู้ว่าเขาเจ็บหรือว่า..รู้สึกแบบอื่นกันแน่ แต่ทว่าในยามนี้มีหน้าต่างเกมเด้งขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับข้อความแสดงความยินดีที่ภารกิจแรกของเธอสำเร็จแล้ว
ขอบตาของนาทาเลียร้อนผ่านราวกับน้ำตาจะไหลออกมาเลย และยังไม่ทันที่เธอจะได้ดีใจ แกสทอนก็แย่งชิงแซ่หนังไปจากมือของเธอพร้อมกับผลักเธออย่างแรงจนนาทาเลียล้มลงไปนอนบนเตียง
“คุกเข่าสิครับ..”
เธอเบิกตากล้าวมองหน้าเขาด้วยความไม่เข้าใจ ทีกับเขาเธอยังยินยอมให้เขายืนหันหลังได้เลยแล้วทำไมกับเธอถึงจะต้องคุกเข่าด้วยล่ะ
“แกสทอน ข้าไม่คิดว่าตัวเองจะต้องคุกเข่า”
“ข้าคิดว่าท่านต้องทำเพราะว่านั่นมันคือคำสั่งของข้า ท่านจะทำตามดีๆ หรือว่าจะให้ข้ามัดมือของท่านเอาไว้ แต่ข้าไม่รับปากหรอกนะครับว่าจะแก้มัดให้ท่านตอนไหน”
เขาเปลี่ยนไป..แกสทอนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของเธอในยามนี้เปลี่ยนไปราวกับแกสทอนที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน (อันที่จริงเธอก็ไม่รู้จักเขามาก่อนเลยนี่หว่า)
เขาพลิกตัวของนาทาเลียให้นอนคว่ำก่อนจะจับยกบั้นท้ายของเธอขึ้นมาแล้วให้เธอคุกเข่าโดยที่มือของเขาจับกดใบหน้าของนาทาเลียให้แนบลงไปบนหมอนใบใหญ่
เธอกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาดเพราะว่าท่าทางเช่นนี้มันน่าหวาดเสียวยังไงไม่รู้ ก่อนที่นาทาเลียจะได้ตั้งตัวแกสทอนก็ถอดกางเกงผ้าแพรของเธอออกมา
และด้วยการคุกเข่าจากท่านี้มันทำให้เขาไม่ได้มองเห็นเพียงบั้นท้ายของเธอเพียงอย่างเดียว แต่ส่วนนั้นของเธอเขาก็สามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน!!
นาทาเลียกัดริมฝีปากแน่น เธอกำลังอับอายเพราะเขาจ้องมองบั้นท้ายของเธอเงียบๆ ก่อนจะใช้แส้หนังในมือไล้ไปตามบั้นท้ายของเธอเบาๆ
“ท่านอาจจะเคยชินกับการถูกปฏิบัติด้วยความเทิดทูนสินะครับ เพราะอย่างนั้นในสายตาของท่านหญิง บุรุษทุกคนจะต้องยอมท่านไปเสียหมด แต่ข้าไม่ใช่แบบนั้น ข้าไม่คิดยินยอมทำตามคำสั่งของท่าน..อ่า..เฉพาะเรื่องบนเตียง หากว่าเป็นเรื่องงานข้ายินดีทำตามที่ท่านบอกทุกอย่างเลย...นาทาเลียเจ้าจะไม่มีวันลืมวันนี้เลย..เชื่อข้าสิว่ารสชาติของความไม่ได้ดั่งใจมันตราตรึงใจมากกว่าเสมอ”