บทที่ 3 เมื่อราฟาเอ็ดถูกข่มขืน 4
ร่างสูงเดินสำรวจไปทั่วห้องก่อนสะดุดตาที่รูปใบหนึ่งซึ่งตั้งไว้หลังตู้เย็น ภาพถ่ายเห็นชัดว่าถ่ายหลายปีแล้ว ในภาพเป็นผู้หญิงผมยาวเป็นลอนสวย แม้จะเห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้าง เขาก็จดจำได้เป็นอย่างดีว่าคือปิยะดา หล่อนใส่เสื้อสายเดี่ยวโชว์เอวเล็ก กางเกงสั้นแค่คืบฟิตเปี๊ยะ แขนหล่อนคล้องต้นคอหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง ริมฝีปากของหล่อนประกบแนบแก้มผู้ชายคนนั้น
ราฟาเอ็ดขบกรามดังกรอด การแต่งกายของหล่อนไม่ต่างจากสาวใจแตก แถมกล้าถ่ายรูปแบบนี้ซะด้วย เขาเกือบจะใจอ่อนตอนเห็นน้ำตาหล่อนว่าหล่อนอาจไม่ใช่ผู้หญิงร่านรักเหมือนที่ใครหลายๆคนเล่าให้เขาฟัง แต่ตอนนี้…เขาคงต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่
“ปิดตรงหนาย ปิดตรงหนาย หนาว หนาววว” เสียงยานคางพึมพำแผ่วๆแต่เขากลับได้ยินชัดเจน รีบเดินไปผลักประตูห้องน้ำให้เปิดออก เห็นร่างบางยืนหันซ้ายหันขวาอยู่ใต้ฝักบัวที่กำลังพร่างพรมลงมาไม่ขาดสาย ปากก็พร่ำพูดอยู่แต่เพียงว่า
“หนาว หนาว…”
ชายหนุ่มยกมือขึ้นกอดอก กวาดตามองทั่วกายสาวที่บัดนี้เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำ เสื้อสีขาวที่หล่อนสวม…ในเวลาปกติก็เรียบร้อยดี แต่เมื่อสัมผัสน้ำ ตัวเสื้อแนบผิวกายจนมองทะลุถึงเสื้อชั้นในสีชมพูหวานอย่างเด่นชัด
ราฟาเอ็ดบดกรามแน่น เมื่อความต้องการบางอย่างปะทุขึ้นมาจนร่างกายเดือดพล่าน เลือดวัยหนุ่มกำลังเรียกร้องอยากสัมผัสผิวขาวๆ ร่างบอบบางน่าถนอมนั่น แต่เขาพยายามสะกดกลั้นความรู้สึกนั้น
ตอนแรกที่สบตาหล่อนในงานประมูล ยอมรับเลยว่าหลงใหลและอยากเป็นเจ้าของปิยะดา แม้จะได้ยินกิตติศัพท์ความร้ายกาจของหล่อนมามากก็ตาม
แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจ แม้หล่อนจะถูกใจเขา แต่เขาก็ไม่อยากเป็นลาโง่ๆถูกหล่อนหลอก ไม่อยากมัวเมาความสวยที่มาพร้อมพิษสงของหล่อนเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ
ชายหนุ่มหันหลังเตรียมออกจากห้องน้ำ ทว่าเสียงสั่นๆที่ดังข้างหู ทำให้เท้าใหญ่ไม่ยอมก้าวต่อ
“หนาว…หนาวจัง แม่จ๋า หนาว” หล่อนเรียกหาแม่อย่างน่าสงสาร มือควานสะเปะสะปะหวังจะปิดน้ำ แต่เพราะตาพร่าเบลอด้วยฤทธิ์น้ำเมา หล่อนจึงไม่สามารถบังคับตัวเองได้เลย
เห็นแล้วก็อดเวทนาไม่ได้ ราฟาเอ็ดจึงเดินไปปิดน้ำให้หล่อน พร้อมบ่นเสียงดัง “เดี๋ยวก็ปอดบวมตายหรอก”
ปิยะดาเหล่ตามองชายหนุ่มด้วยดวงตาหวานเยิ้ม ประกายบางอย่างในดวงตาของหล่อน ทำให้ราฟาเอ็ดเริ่มไหวตัว ยิ่งถูกร่างนิ่มตรงเข้ากอด เขาก็ยิ่งสะดุ้งโหยง รีบถอยร่นออกจากห้องน้ำอย่างรวดเร็วดุจติดปีก
“จะ…จะทำบ้าอะไรของคุณ คิดจะยั่วผมเหรอไง มะ…ไม่มีทาง ผมจะไม่ยอมเป็นผู้ชายหนึ่งในสต๊อกของคุณแน่ๆ” พูดเสียงตะกุกตะกัก ขณะที่หญิงสาวเดินโซซัดโซเซตามเขาออกมา
“หนาว…หนาว ขอกอดหน่อยนะ ตุ๊กตาหมีจ๋า”
ราฟาเอ็ดแทบหน้าคะมำ เบิกตากว้างเมื่อปฏิเสธเสียงห้วน “ไม่ให้กอด ผมไม่ใช่ตุ๊กตาหมีนะ”
“คิกๆ ตุ๊กตาหมีพูดได้ น่ารักจริงๆ” มือเรียวจับแก้มเขาดึงไปมา ปากก็หัวเราะคิกคัก ขณะที่ตาคู่คมหลุบลงมองทรวงอกอวบที่อยู่ห่างเขาไม่ถึง30เซ็นต์
อันตรายจริงๆ ขืนอยู่ต่อ เขาต้องอดใจไม่ไหวแน่ๆ ใช่แล้ว… เขาต้องรีบไปจากที่นี่ ก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายไปมากกว่านี้
“ผม…ผมขอตัวก่อน นึกขึ้นมาได้ว่ามีงานด่วน” เขาเอ่ยปากขอตัว ตัดใจหันหลังหนีออกจากบ้าน ทว่าเท้ายังไม่ทันเดินถึงประตู มือนุ่มก็คว้าต้นแขนเขาจากทางด้านหลังเสียก่อน
“ตุ๊กตาหมีขยันจัง ทำงานด้วยเหรอ” ปิยะดาหัวเราะคิก แต่ชายหนุ่มหัวเราะไม่ออก ได้แต่ย้อนกลับเสียงขุ่น
“ผมไม่ใช่คนว่างงานเหมือนคุณนิลูกเป็ด” วันก่อนหล่อนว่าเขาเป็นลูกวัว วันนี้หล่อนเรียกเขาว่าตุ๊กตาหมี ให้ตายเถอะ ! ผู้หญิงแบบหล่อน เขาไม่เคยพบไม่เคยเจอเลยจริงๆ
“ฮือๆ นั่นสิ ฉันมันคนว่างงาน ฮือๆ ถูกไล่ออกจากงานในยุคที่เศรษฐกิจย่ำแย่ แม้แต่ลูกอมยังขึ้นราคา แล้วฉันจะทำยังไงต่อไป ฮือๆ เพราะคุณ…ไอ้ฝรั่งขี้แกล้ง ช่างฟ้อง ผู้ชายไม่น่ารัก กลั่นแกล้งผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างฉันได้ลงคอ” จากหัวเราะเริงร่า เริ่มเปลี่ยนเป็นดราม่าน้ำตาตก ยกหลังมือปาดหยดน้ำที่ไหลจากดวงตาป้อยๆ ขณะที่ชายหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ
“คุณเมาแล้วนะลูกเป็ด”
“ไม่จริ๊ง ฉันไม่ได้เมา ฮือๆ” หญิงสาวปฏิเสธเสียงสูง นวลแก้มเปื้อนคราบน้ำตาจนเขาอดรู้สึกผิดไม่ได้
“ไม่มีคนเมาที่ไหนยอมรับว่าตัวเองเมาหรอกนะ”
“คนเมาจะลืมหมดทุกอย่างที่ทำให้เกิดทุกข์ แต่ฉันไม่ลืม ฮือๆ ฉันยังไม่เมา ยังไม่เมา” มือเล็กจิกแขนเสื้อชายหนุ่มเขย่าไปมา จนเขาต้องตะคอกดังลั่นเพื่อเรียกสติหล่อน
“ถ้าไม่เมาก็เลิกมาเกาะแกะผมซะที ผมจะกลับบ้าน ได้ยินลูกเป็ด ปล่อยผม”
ตากลมโตเบิกกว้าง ริมฝีปากห่อเข้าหากัน หยุดโวยวาย หยุดร่ำร้องแล้วถามเขาอย่างประหลาดใจ
“เด็กน้อยจะรีบกลับบ้านไปหาแม่เหรอ”
“ผมไม่ใช่เด็ก ผมโตแล้ว”
“โตแล้วเหรอ” หลล่อนยังทำหน้าฉงนไม่เลิก ขณะที่ราฟาเอ็ดแกะมือหล่อนออกจากต้นแขนพลางตอบเสียงขรึม
“ใช่ ผมเป็นหนุ่มแล้ว”
“เป็นหนุ่มแล้วจริงดิ๊ ?” ยังทำท่าเหมือนไม่เชื่อ จนเขาต้องกระแทกเสียงใส่
“เออ…ผมเป็นหนุ่มแล้ว…ทุกสัดส่วน
“ทุกสัดส่วนจริงเหรอ” หญิงสาวหัวเราะ ดวงตาฉ่ำเยิ้มพราวประกายเจ้าเล่ห์ มือเริ่มขยับขยุกขยิกไปตามแผงอกกว้างเปลือยเปล่า “อืม…อกกว้าง โตเป็นหนุ่มแล้วจริงๆด้วย” ปิยะดาลากเสียง ซึ่งเขาก็พยักหน้ารับ
“ใช่…ถ้าพอใจแล้วก็ช่วยถอยให้ไกลผมเลย สักสิบเมตรได้ยิ่งดี”
“เดี๋ยวสิ ยังพิสูจน์ไม่หมดเลย!” เสียงใสอ้อแอ้ฟังแทบไม่รู้เรื่อง แต่กระนั้นเขาก็ยังแปลออกทุกคำ
“จะพิสูจน์บ้าอะไรอีก”
“ส่วนบนเป็นหนุ่ม ฉันเชื่อแล้ว แต่ส่วนล่างล่ะ…โตหรือยัง”
“หมายถึงอะไรที่ว่าโตหรือยัง” ชายหนุ่มสบถ โหนกแก้มเป็นสีระเรื่อ เมื่อมือนุ่มลูบไล้ไปตามช่วงท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งปึ๋งของเขาไปมา “เวลาพูดไม่ต้องลูบไล้ผมก็ได้ ผมไม่ชิน”
“ไม่ชอบเหรอ” หญิงสาวถามไร้เดียงสา ซึ่งเขาก็ตอบทันควัน
“ไม่ชินก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ชอบ”
“งั้นแสดงว่าคุณชอบให้ลูบ คิกๆ ขอพิสูจน์ๆๆๆหน่อยนะ” ปิยะดาจับหมับที่เข็มขัดของเขา การจู่โจมของหล่อนทำให้ชายหนุ่มตกใจไม่น้อย เพราะไม่ทันได้ตั้งหลัก ร่างสูงจึงถอยไปสะดุดขวดเหล้าที่กลิ้งระเนระนาดอยู่บริเวณนั้น ส่งผลให้เขาหงายหลังล้มลงโดยมีคนตัวเล็กตามมานั่งทับต้นขาแกร่ง
“ถอยไปเลยนะลูกเป็ด ผมจะลุก” เสียงทุ้มบอกสะบัด หน้าคมแดงก่ำ ใจเต้นไม่เป็นส่ำ… เขาแทบทนไม่ไหวอยู่แล้ว หล่อนคงไม่รู้ตัวว่ากำลังยั่วยวนอารมณ์หนุ่มจนเขาปั่นป่วนไปทั้งร่าง หากไม่รีบชิ่งหนีตอนนี้ เขาคงเผลอทำตามความต้องการของตัวเองแน่ๆ
ระหว่างคิดหาวิธีหนีกลับบ้านอยู่นั้น ความคิดของราฟาเอ็ดก็สะดุดลงเมื่อหูแว่วได้ยินเสียงหล่อน
“ไม่…ไม่ให้ไปไหน ขอพิสูจน์ก่อนว่าเป็นหนุ่มทั้งตัวจริงหรือเปล่า”
“จะพิสูจน์ยังไง” ถามอย่างกังขา ก่อนจะกระพริบตาปริบๆเมื่อได้ฟังคำตอบ
“ถอดกางเกงคุณไง”
ชายหนุ่มรีบกระถดกายหนี ระล่ำระลักขู่หล่อนเสียงขุ่นว่า “อย่านะลูกเป็ด ถ้าคุณถอดกางเกงผม ผมจะแจ้งความว่าคุณทำอนาจาร ลวนลามผม”
“คุณนี่ขี้ฟ้องจังนะ” ปิยะดาทำเสียงจิ๊กจั๊กในลำคอ พลางหรี่ตาลง “ฉันไม่กลัวคุณหรอก อยากขี่ควายห้าศอกไปฟ้องใครก็เชิญ”
“คุณ…” ตาคมแฝงแววประหลาด เถียงไม่ออกเลยจะลุกหนี แต่หล่อนโถมร่างเข้าหาจนเขาลุกไม่ถนัด เสียงเล็กกระซิบข้างหูเขาอย่างหมายมาด
“คุณทำฉันอารมณ์เสีย ต้องโดนลงโทษ”
“คุณจะทำอะไรผม” ถามอย่างระแวง
“ทำในสิ่งที่คุณคาดไม่ถึง” หล่อนหัวเราะเบาๆ พลางกรีดนิ้วไปตามหน้าขาเขาแล้ววกมาที่เข็มขัด จัดแจงปลดออกอย่างช้าๆ ขณะที่ราฟาเอ็ดเค้นเสียงถามอย่างตื่นตะลึง
“ลูกเป็ด…หรือว่าคุณจะข่มขืนผม ! ผู้หญิงร้ายกาจ คุณคงจ้องจะฟันผมตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแล้วใช่มั้ย ผมไม่ยอม ผมไม่ยอม !!”