ยามที่ใจมันพัง
ตอนที่ 2
ยามที่ใจมันพัง
“ตื่นเต้นแทบแย่เลยค่ะ ไม่เคยได้สื่อสารภาษาอังกฤษอะไรที่ใช้คำศัพท์ยากแบบนี้มาก่อน”
เลขาสาวคนใหม่ที่เพิ่งผ่านการทดลองงานในช่วง 3 เดือนส่งยิ้มให้กับเจ้านายเป็นรอยยิ้มที่ โล่งอกและสบายใจเพราะก่อนหน้าที่เธอจะเดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ หญิงสาวแอบเป็นกังวลมาตลอดว่าเธอจะไม่สามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้เข้าใจกับลูกค้าถึงแม้เธอจะมีความรู้ในเรื่องของภาษาแต่ก็ไม่เคยได้ใช้คำศัพท์ยากๆแบบนี้
“ทำเป็นถ่อมตัว พี่เห็นเราพูดภาษาอังกฤษฉะฉานเชียวนะ”
ชายหนุ่มในชุดสูทยกมือขึ้นมาจับศีรษะของคนตัวเล็กอย่างเอ็นดูแต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะเดินกลับเข้าไปยังโรงแรมเจ้านายก็ดึงแขนของลูกน้องให้เดินมาหลบอยู่ข้างรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านข้าง
“อะไรกันคะ”
เหมทัตยกนิ้วชี้เรียวขึ้นมาวางทาบทับปากหยักได้รูปเพื่อให้คนตัวเล็กข้างๆรู้ว่าตอนนี้เขากำลังแอบดูใครบางคน
ปุณยวีร์มองตามที่เจ้านายของเธอกำลังจ้องมองไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินจับมือกันกำลังจะเข้าไปในโรงแรม ภาพความสนิทสนมของทั้งสองแสดงออกอย่างชัดเจนว่าคงไม่ใช่แค่เพียงเพื่อนที่เดินมาส่งกันเพราะฝ่ายหญิงจับแขนของฝ่ายชายแน่นพูดจาหัวเราะส่งยิ้มอย่างสนุกสนาน
“จะไปไหนคะ”
เลขาสาวดึงแขนของเจ้านายไว้เมื่อเห็นว่า อีกฝ่ายเหมือนกำลังจะเดินไปหาคนทั้งสองเพราะจากลักษณะท่าทางแววตาและสีหน้าปุณยวีร์มีมั่นใจว่าเจ้านายของเธอคงไม่จะเข้าไปในลักษณะที่ดีแน่
“ใจเย็นๆค่ะ 2 คนนั้นเป็นใครพอจะบอกปุณได้ไหมคะ”
คำพูดของหญิงสาวทำให้เวลานี้ท่านประธานได้มีสติมากขึ้นทันทีที่เขาได้เห็นภาพตรงหน้ามือทั้งสองข้างก็กำแน่นเขาอยากจะพุ่งตรงไปสาวหมัดใส่หน้าของชายหนุ่มที่กำลังเดินคลอเคลียกับคนรักของเขาไป
เหมทัตเปลี่ยนใจจากที่จะกลับเข้าห้องที่โรงแรมเป็นขอร้องให้หญิงสาวไปเป็นเพื่อนเขานั่งดื่มที่ร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆกับที่พักเพราะเวลานี้เขาไม่อยากกลับเข้าไปในห้องเพราะรู้ว่าทั้งสองคนก็คงจะพักอยู่ที่นั่น
“พอจะบอกได้ไหมคะว่า 2 คนนั้นเป็นใคร แล้วทำไมพี่ต้องดื่มมากขนาดนี้”
ปุณยวีได้แต่นั่งมองอีกฝ่ายดื่มแก้วต่อแก้วจนเธอทนไม่ไหวจึงต้องการถามให้รู้เรื่องว่า 2 คนนั้นเป็นอะไรกับเหมทัตแล้วทำไมการที่เขาได้พบเจอทั้งคู่ถึงทำให้เขาต้องมานั่งดื่มแบบนี้
“ผู้หญิงคนที่เราเห็นเป็นแฟนของพี่”
คนเล่ายังไม่ทันอธิบายรายละเอียดอะไรให้ฟังเขาก็เลือกที่จะยกแก้วขึ้นดื่มเหมือนต้องการย้อมหัวใจตัวเองก่อนที่จะเริ่มพูดถึงเรื่องราวทั้งหมด
“ก่อนที่พี่จะเดินทางมาที่นี่พี่บอกเขาว่าต้องไปทำงานต่างจังหวัดแต่ไม่ได้บอกว่าที่ไหนก็ยังแปลกใจอยู่ที่เขาไม่ถาม พี่บอกว่าจะไปหาเขาก่อนที่จะเดินทางก็บอกว่าติดงานด่วนไม่สะดวกเจอแต่วันนี้พี่ก็รู้แล้วว่าเพราะอะไรพี่ถึงไปหาเขาไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้อยู่ที่บ้านแต่เขามาอยู่ที่นี่กับผู้ชายที่เขาเคยแนะนำให้พี่รู้จักในฐานะลูกพี่ลูกน้อง”
ชายหนุ่มพูดจบน้ำตาที่เขาคิดว่าไม่มีทางจะหยดไหลลงมามันก็แพ้พ่ายให้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วถ้าเขาถามคนรักไปว่าเพราะอะไรถึงได้ไปเดินอยู่เคียงข้างผู้ชายคนนั้น อีกฝ่ายก็คงจะยังปากแข็งยืนยันว่าเป็นเพียงแค่ลูกพี่ลูกน้องแต่จากภาพที่เขาได้เห็นกับตา เป็นใครก็ดูออกว่าทั้งสองคนไม่ได้เป็นแค่เพียงพี่น้องกัน