ตอนที่ 1 สถานการณ์พลิกผัน
สถานการณ์พลิกผัน
กลางดึก
ณ บ้านเรืองพาณิชยากุล
สองร่างกายอันเปลือยเปล่าที่โยกขย่มกันอย่างเมามัน ภายใต้แสงสลัวจากดวงจันทร์ ที่สาดส่องลงมามาทางช่องหน้าต่าง ที่มีม่านผืนบางปกป้องอยู่ ในเงามืดอันสลัวนั้นที่พอจะสามารถมองเห็นร่างอันเปลือยเปล่าของกันและกันอยู่พอรางๆ แต่ทั้งสองร่างไม่ทราบเลยว่าคนที่ร่วมรักด้วยนั้นเป็นใครกัน เพราะด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ผสมกับยาปลุกเซ็กส์ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จึงไม่สามารถที่จะควบคุมสติได้ และไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น เพราะต่างคนต่างต้องการการปลดปล่อยเป็นสิ่งแรก
รุ่งเช้า
“ตาพีทไปไหน ทำไมยังไม่ลงมาสักที วันนี้มีรายงานที่มหาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอ หรือเปลี่ยนใจไม่อยากเรียนแล้ว” พัฒน์พงษ์ ผู้อาวุโส แห่งบ้านเอ่ยขึ้นถาม ภรรยาของเขาที่นั่งอยู่ข้างๆ เตรียมจะรับประทานอาหารเช้ากัน
“ไม่รู้สิค่ะ” นิษฐา ภรรยาของพัฒน์พงษ์เอ่ยตอบกลับอย่างเฉไฉ และพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด
“แล้วหนูนัชชาล่ะ เมื่อคืนกลับยังไง ใครเป็นคนไปส่ง” พัฒน์พงษ์เปลี่ยนเรื่องถามภรรยาทันที
“หนูนัชน่าจะค้างที่นี่แหล่ะ” นิษฐา ตอบสามีออกมา พร้อมกับใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข
“ห๊า...ค้างที่นี่ แล้วนอนที่ไหนกัน ที่ห้องรองรับแขกก็ว่างนี้ ไม่เห็นมีใครใช้เลย” พงศกร หรือ เพชร ลูกชายคนโตของบ้านพูดขึ้นมา เพราะเขาเดินลงมาผ่านห้องเอาไว้รองรับแขกของบ้าน และพบว่าไม่มีการใช้งาน หรือใครเข้าไปพักใดๆ
“หรือว่า...” พจีกานต์ หรือ แพท ลูกคนกลาง และเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของบ้าน พูดขึ้น ชวนให้ทุกคนสงสัย
ทุกคนมองหน้ากันสลับไปมา ต่างคิดวิตกไม่แพ้กัน และพากันลุกขึ้น เดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน และมุ่งหน้าตรงสู่ห้องลูกชายคนเล็กของบ้านทันที
ณ บนที่นอนเตียงกว้าง ภายในห้องนอนสุดหรูของบ้านหลังอันใหญ่โตที่เต็มไปด้วยคราบน้ำรักผสมกับเลือดอันบริสุทธิ์ ที่ไหลเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้างอยู่บนผ้าปูที่นอนอันสีขาวสะอาดตา พร้อมกับสองร่างที่นอนเปลือยกายกอดกันแน่นแฟ้น เพราะหมดฤทธิ์ลงอย่างเหน็ดเหนื่อย
“ตาพีท...” เสียงนิษฐาผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นทันทีที่เข้ามาภายในห้องนอนส่วนตัวของลูกชายคนเล็ก
ชายหนุ่มปรี่ตาขึ้นตาเสียงเรียกของนิษฐา ผู้เป็นแม่อย่างช้าๆ
“อืม หาววว" พร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากหาว
ทุกคนที่เข้ามาภายในห้องยืนตาค้างทันทีกับสภาพของลูกชายที่เปลือยท่อนบน เพราะท่อนล่างยังคงมีผ้าห่มผืนหนาปกคลุมเอาไว้อยู่
"มีอะไรกันหรือครับ คุณพ่อ คุณแม่ พี่เพชร พี่แพท แล้วนี้ทุกคนเข้ามาที่ห้องผมทำไมกันครับ” พจีพัฒน์ หรือ พีท คือลูกคนเล็กของบ้านถามออกไปอย่างงุนงง ไม่เข้าใจที่ทุกคนเข้ามาที่ห้องนอนของเขา แถมยังจ้องจะเอาผิดกับเขาอีก
“หนูนัชชาไม่ได้อยู่ที่ห้องรองรับแขก” พัฒน์พงษ์ พูดเข้าประเด็นทันที ตามจุดประสงค์ที่เข้ามาถึงห้องของลูกชาย
“ไม่ได้อยู่ที่ห้องรองรับแขก แล้วเข้ามาบอกผมทำไมกันครับ รบกวนการนอนของผม” พจีพัฒน์พูดโพล้งออกมาทันที อย่างหัวเสีย เมื่อได้ยินพ่อบอกว่าหญิงสาวที่มาสังสรรค์ด้วยเมื่อคืนไม่ได้อยู่ที่ห้องรองรับแขกของบ้าน และกำลังจะทิ้งตัวลงนอนคืน
“แล้วแกพาใครมานอนด้วย” พัฒน์พงษ์ถามขึ้นมา เพราะเห็นร่างใต้ผ้าห่ม และขาที่ลอดออกมา อย่างเห็นได้ชัดว่ามีคนอยู่กับลูกชาย
“ก็...” พจีพัฒน์มองไปที่ร่างบาง ที่มุดหลับสนิทอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างลังเล เพราะไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นใคร
นิษฐาที่ทนไม่ไหว เดินเข้าไปกระชากผ้าห่มที่ปกคลุมอีกร่างหนึ่งออกมาอย่างแรง จนผ้าเปิดออกมาถึงเอวของหญิงสาว
"ว้าย..." เสียงร้องดังขึ้นมาอย่างตกใจ และรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปกปิดร่างกายไว้ทันที
“หรีดหริ่ง!” เป็นเสียงเดียวกันที่ทุกคน ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น เอ่ยขึ้นเป็นเสียงเดียวกันทันที อย่างสามัคคีกัน
“เฮ้ย...นี้เธอเข้ามาอยู่ที่ห้องของฉันได้ยังไงกันยัยเปีย” พจีพัฒน์ เมื่อได้ยินดังนั้นรีบหันหลังกลับไปมอง เป็นอันต้องตกใจ เพราะมีหญิงสาวร่างกายเปลือยเปล่าเหมือนกับเขามุดใต้ผ้าห่มอย่างเอียงอาย
“หริ่ง...โอ้ยยย ซีดดด” หญิงสาวโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม และกำลังจะขยับตัวหนี แต่ก็ต้องซีดปากร้องออกมาเพราะความเจ็บปวดของร่างกาย
“หึ...ไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว รีบพากันแต่งตัว แล้วลงมาคุยกันข้างล่าง” พัฒน์พงษ์ด่วนสรุปทันที เมื่อเห็นสภาพร่างกายของทั้งสอง
“นี่เธอเข้ามาที่ห้องฉันได้ยังไงกันยัยเปีย” พจีพัฒน์ หันมาถามความจริงจากหญิงสาวทันที เมื่อทุกคนออกไปกันหมดแล้ว
“หริ่งจะไปรู้ได้ยังล่ะ โอ้ย..เจ็บชะมัดเลย ซีดดด” พีรดา หรือ หรีดหริ่ง หญิงสาวที่อยู่ในห้องนี้กับชายหนุ่มพูดขึ้น พร้อมกับซีดปากร้องทุกที ที่ขยับร่างกาย
“เฮ้อ...จบแล้วชีวิตฉัน นั่งเหม่อทำไม ไม่รีบลุก” พจีพัฒน์ได้แต่กุมขมับตัวเอง แล้วขยี้ผมแรงๆอย่างคนสิ้นหวัง
“คือ...” หญิงสาวอ้ำอึ้ง ไม่กล้าบอก แต่กลับใช้สายตามองหาเสื้อผ้าของเธอแทน
ชายหนุ่มจึงลุกลงมาจากเตียงอย่างโทงๆไม่รู้สึกอายแม้แต่น้อย เดินไปหยิบเสื้อผ้าของหญิงสาว แล้วโยนให้เธอได้สวมใส่ทันที
“รีบใส่สิ” เสียงเข้มตวาดสั่ง เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งนิ่ง ไม่ยอมทำอะไร
“คือ...ลุกไม่ได้เจ็บ” หญิงสาวพูดออกไปอย่างรู้สึกอาย เพราะเธอเจ็บตรงนั้น
“สำออย” พจีพัฒน์พูดพร้อมกับสลัดผ้าห่มออกอย่าง จนทำให้หญิงสาวเซไปตามแรงของผ้าห่มทันที
“โอ้ยยย...เจ็บน่ะ” เสียงร้องโอดโอยของเธอดังขึ้นเมื่อนอนแนบอยู่บนที่นอน
พจีพัฒน์ตาค้างทันที ที่เห็นสิ่งตรงหน้าบนที่นอนสีขาว ที่เต็มไปด้วยคราบเลือด และน้ำรักเปรอะเปื้อนเป็นวงกว้าง ไหนจะร่างกายของหญิงสาวที่เปลือยเปล่า แถมตรงนั้นยังบวมแดงอีก
“...นี่ฉันรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอ” ชายหนุ่มพูดขึ้นอย่างไม่อยากกเชื่อในสายตาของตัวเอง
“ปิดตาน่ะไอ้บ้า จะมองทำไม” หญิงสาวพ่นคำด่าออกมาทันที เมื่อรู้ตัวว่าชายหนุ่มกำลังจ้องมองมาที่เธอ
“อยากมองตายแหล่ะ จะเป็นตากุ้งยิงหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“หันหลัง” หญิงสาวสั่งขึ้นมาทันที
“ชิ...ใครอยากมอง” พจีพัฒน์มองบน แต่ก็ต้องทำตามที่หญิงสาวบอก
ชายหนุ่มจึงจัดการสวมเสื้อผ้าของตัวเองทันที อย่างเร่งรีบ เพราะรีบลงไปเคลียร์กับทุกคนที่ด้างล่างต่อ
“เสร็จแล้ว” หญิงสาวเอ่ยขึ้น เมื่อสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วแต่ไม่ยอมลุกออกจากที่นอน
“เสร็จแล้วก็...เธอนี้น่ะ เข้ามาห้องฉัน แล้วยังลำบากฉันอีก นี้มันเวรกรรมอะไรของฉันว่ะ” พจีพัฒน์กำลังจะพูดขึ้น แต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั่งนิ่งไม่ยอมขยับ ก็รับรู้ได้ทันที
ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ๆกับหญิงสาว แล้วย่อตัวลงเพียงเล็กน้อย ยอมเสียสละให้เธอได้ขึ้นหลัง เพื่อจะพาลงไปด้านล่าง เพราะดูจากสภาพแล้วคงจะเดินลงบันไดไม่ได้แน่