บทที่ 6 พนักงานคนใหม่++ [2/2]
“เรียกพนักงานคนใหม่มาพบฉันที่ห้อง”
[ครับเฮีย]
หลังใช้เวลาเพียงไม่นานเจ้าของกลุ่มผมสีพืชที่วันนี้รวบขึ้นอวดต้นคอระหงส์ก็มาหยุดอยู่เบื้องหน้าหนุ่มใหญ่ ใบหน้าเกลี้ยงเกลาชวนหลงใหลเต็มไปความเคลือบแคลงและคำถามมากมาย โดยไม่รู้เลยว่ายิ่งเห็นคิ้วเรียวขมวดยิ่งทำเอาร่างสูงอดหัวเราะด้วยความเอ็นดูไม่ได้
“เรียกหนูเหรอ”
“มานี่สิ” สุ้มเสียงทุ้มแฝงเอ็นดูเอ่ยขึ้นพลางตบลงบนหน้าตัก
หมวยลี่ชั่งใจครู่หนึ่งก่อนขาเรียวสวยจะก้าวไปยังอีกฝ่าย พลันทิ้งกายบนตักเอนแผ่นหลังเล็กแนบแผงอกกว้างราวกับเขาเป็นเก้าอี้ส่วนตัว
หวังว่าพี่ทศคงไม่ได้คิดแกล้งเธอหรอกนะ
“กูบอกให้นั่งสวย ๆ ประดับร้านพอ เจ็บหรือเปล่า”
หนุ่มใหญ่ว่าพลางไล้นิ้วเรียวบนหลังมือขาวที่มีร่องรอยขีดข่วนเล็ก ๆ แผ่วเบาราวกับไข่ในหิน
“เห็นด้วยเหรอ”
หญิงสาวเงยหน้าถามด้วยความสงสัย พลันสบนัยน์ตากลมใสฉายแววใคร่รู้เหมือนดั่งลูกแมวน้อยอยากรู้อยากเห็นเข้ากับดวงตาคู่คม ทำเอาพ่อหม้ายอย่างทศอดไม่ได้ที่จะประทับริมฝีปากบนหน้าปากเนียน
“อย่าลืมสิ นี่ร้านกู”
“อย่างกับสตอล์กเกอร์แหนะ อย่าบอกเชียวว่าพี่ทศเอาแต่มองหนูผ่านจอแก้วนี่”
น้ำเสียงหวานฉ่ำเอ่ยพลันโน้มกายไปข้างหน้าเคาะนิ้วเรียวบนจอแก้วที่สะท้อนภาพสกรีนจากกล้องวงจรปิดทั่วทุกมุมของร้านอาหาร
“ใช่”
“ไม่ปฏิเสธด้วยแฮะ โรคจิตสุด ๆ เลยนี่หน่า”
เสียงทุ้มแค่นเสียงหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ “ก็คนโรคจิตคนนี้ไม่ใช่เหรอที่เมื่อคืนทำมึงครางเสียงหวาน ขนาดโดนแค่นิ้วกับลิ้นกูยังดิ้นพล่านขนาดนี้ เจอของจริงไม่ครางระงมเชียวรึนังหนู”
ในเวลาเดียวกันหน้าท้องแบนราบของหมวยลี่ถูกฝ่ามือร้อนไล้ตามผิวขาวเนียนอย่างหยาบโยน ส่วนอีกข้างบีบเคล้นต้นขาผ่านผ้ายีนส์สีซีดจวนให้ท้องน้อยของเธอหดเกร็งรู้สึกวูบวาบไปทั่วร่าง ยิ่งเขาได้ยินเสียงลมหายใจกระชั้นชิดของเธอยิ่งพาให้อยากรังแก
“พ...พี่ทศ”
“ว่าไงนังหนู”
ริมฝีปากบางยกยิ้มเจ้าเล่ห์พลันพรมจูบตามกกหูขาว พร้อมเอ่ยกระซิบด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าคล้ายปลุกปั่นความต้องการของหมวยลี่
“ไม่เอา...”
“อะไรนะ”
หมวยลี่สะดุ้งเฮือกหลังเสื้อครอปตัวโปรดของเธอถูกถอดออกไปโดยไม่ทันตั้งตัว หลงเหลือเพียงบราลูกไม้สีขาวที่คอยประคับประคองหน้าอกอวบอิ่มทั้งสอง ซ้ำยังโดนมือหนาสองข้างนวดคลึงผ่านเนื้อผ้าก่อนจะออกแรงบีบไม่เบามือจนเนื้อนุ่มล้นตามซอกนิ้วเรียว
“อื้อ...พี่ทศหนูเจ็บ”
สุ้มเสียงหวานหลุดครางเสียว เธอเลยพยายามกัดริมฝีปากสีเชอร์รี่คล้ายสะกดกลั้นเสียงไม่ได้อีกฝ่ายได้ใจจนเกินไป
“นมใหญ่ขึ้นหรือเปล่านังหนู”
“จะบ้าเหรอตาลุงหื่นกาม!”
ฉับพลันใบหน้าเรียวเล็กเห่อร้อนด้วยความเขินอายกับคำพูดแสนลามกของพ่อหม้ายอย่างทศ มือเล็กฟาดลงบนหน้าขาแกร่งอย่างแรงจนดังเพียะลั่นห้องสี่เหลี่ยม แต่ทว่าไม่ได้ทำให้คนโดนสำนึกแม้แต่น้อย
“สงสัยโดนกูนวดทุกวัน ของมันเคย ๆ มือทำไมจะไม่รู้”
หญิงสาวแทบแทรกพื้นดินหนีหรือไม่ก็ดำดิ่งลงใต้มหาสมุทรแปซิฟิก เธอรู้สึกอับอายจนทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ทำไมอีกฝ่ายถึงได้เอ่ยออกมาหน้าตาเฉยแบบนี้!
เผลอแป๊ปเดียวบราลูกไม้สีขาวถูกเลื่อนขึ้นมากองบนเนินอก ทันทีที่ความเย็นของเครื่องปรับอากาศปะทะเข้ากับผิวกาย พาให้ขนอ่อนลุกชันแถมยอดอกสีหวานพลันแข็งเป็นไตทั้งยังไม่ถูกสัมผัส
“เด็กลามก”
สุ้มเสียงข้างหูคล้ายกำลังสะกดกลั้นอารมณ์เอ่ยกระซิบพลางขบเม้มใบหูเล็ก
“พี่ทศอย่าแกล้ง อึก...หนู”
ร่างบางสั่นระริกเมื่อสองเต้าอวบถูกโอบล้อมด้วยฝ่ามืออุ่นซ่านคลึงเคล้นราวกับก้อนแป้ง แกล้งไล้ปลายนิ้วลูบวนบนจุกแข็งก่อนจะกดย้ำ ๆ จนเธอเผลอแอ่นกายตามสัมผัสวาบกวามอย่างเสียการควบคุม ประจวบกับช่องทางรักที่ขมิบเข้าพอดี
“ชอบเลยดินังหนูแอ่นหามือกูเสียขนาดนี้”
เธอส่ายหน้าไปมาคล้ายปฏิเสธแต่ทว่ากลับสวนกลับการกระทำแสนร้อนร่าน บดเบียดสะโพกถูบนหน้าตักราวกับสุนัขตัวเมียยามติดสัด จนเรียกเสียงครางต่ำเบา ๆ ของทศ
“แฉะหมดแล้วนังหนู”
ว่าพลางลูบเป้ายีนส์สีซีดที่ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นเข้มเพียงเพราะเปียกชื้นด้วยน้ำหวานที่ผลิตออกมาจากกลีบดอกไม้ฉ่ำที่ซุกซ่อนด้านใน
ครั้นไร้เสียงหวานเอ่ยตอบรับมีเพียงร่างกายแสนยัวยวนที่ซื่อตรงโดยการตอบรับทุกการสัมผัสของเขา ไม่ว่าจะจุกชมพูที่แข็งเป็นไตกระทั่งผ้ายีนส์เปียกชื้นบริเวณเป้ากางเกงตัวสวยล้วนได้ตอบแทนหมดแล้ว
“ลองคิดดูสินังหนู ใครจะไปล่วงรู้ว่าภายในร้านอาหารแสนวุ่นวาย จะมีพวกเราสองคนที่กำลังทำเรื่องลามกแบบนี้”
หนุ่มใหญ่ว่าพลางสะกิดปลายถันด้วยนิ้วเรียว ก่อนจะคีบนิ้วพลันหมุนบดขยี้เน้นยํ้าทุกจังหวะการหอบหายใจของหญิงสาว
“ตื่นเต้นไหมหมวยลี่ โดนกูเขี่ยหัวนมต่อหน้าคนนับสิบแบบนี้”
“อ๊ะ พี่ทศอย่าเร้า หนูเสียวฮือ”
มือเรียวเล็กพลันยกปิดใบหน้าสวยด้วยความอับอายและตื่นเต้น เมื่อหันไปมองภาพสะท้อนบนจอแก้วที่ฉายภาพภายในร้านอาหารแสนวุ่นวาย ผู้คนมากมายกำลังยุ่งกับการทานอาหารตามปกติโดยไม่รู้ว่าเบื้องหลังกล้องวงจรปิดจะมีเธอที่โดนรังแกอย่างเสียวซ่าน
หัวใจดวงน้อย ๆ พลันสั่นระรัวตื่นเต้นยามจิตนาการตามคำพูดของร่างสูง
ให้ตายสิ ตอนนี้เธอกลายเป็นคนโรคจิตเหมือนกับเขาแล้วเหรอ...
ทศอาศัยจังหวะที่หมวยลี่กำลังสนใจกับสิ่งที่เขาพยายามเบี่ยงเบน เพียงชั่วพริบตายีนส์ตัวซีดของเธอถูกมือหนาร่นลงไปอยู่เหนือหัวเขา พลันถูกจับสองขาขาวอ้าออกอวดแพนตี้ลูกไม้เปียกชุ่มไปด้วยนํ้าหวานจนแนบกลีบเนื้ออวบที่ขมิบตอดรับอากาศ
“เอาไงดีนังหนู หยุดดีไหมนะ”
สุ้มเสียงทุ้มแสร้งถอนหายใจทำท่าทีจะจับคนตัวเล็กลุกขึ้น แต่ทว่ากลับโดนมือบางรั้งข้อมือแน่นพลันหมุนกายกลับไปเผชิญหน้ากับร่างสูงทั้งยังนั่งบนตักแกร่ง
“ไม่เอานะพี่ทศ”
เธอช้อนนัยน์ตาลูกแก้วใสแจ๋วออดอ้อนด้วยนํ้าเสียงหวานลํ้า คล้องเรียวแขนบนลำคอหนารั้งไว้ไม่ให้คนแก่กว่าขยับหนี ขณะเดียวกันก็จับสองมืออุ่นซ่านกดทับบนหน้าอกอวบอิ่มคล้ายซาลาเปา ร่อนเอวหวานบดกลีบเนื้ออวบฉํ่าวาวถูไถบนเปากางเกงวอร์มสีเทา ที่มีท่อนลึงค์อวบแข็งขืนโป่งนูนขึ้นมาแนบร่องรักผ่านเนื้อผ้าเปียกแฉะ
“เอาหนูนะพี่ทศ หนูเป็นของพี่”
เธอพรมจูบตามแผ่นอกกว้างไล่ขึ้นไปยังลำคอขาวก่อนจะสิ้นสุดบนปลายคางของหนุ่มใหญ่ คล้ายลูกแมวน้อยยามเรียกร้องความสนใจทำเอาใจพ่อหม้ายวัยสามสิบแปดใจสั่นไม่น้อย
“ส่วนถุงยางหนูเอามาแล้ว ครั้งนี้ได้ทำแน่”
ว่าพลางล้วงกล่องสีเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกง พลันชูขึ้นอย่างโอ้อวดคล้ายหวังคำชมจากร่างสูง
“กลัวกูไม่เอาจนต้องพกมาเองเลยเหรอนังหนู เมื่อคืนยังไม่พอใช่ไหม”
ทศผิวปากเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือเล็ก ไหนจะอาการร้อนร่านของหมวยลี่ที่ทำเอาริมฝีปากแห้งผากจวนอยากซดนํ้าหวานจากดอกไม้สวยสะพรั่งให้โล่งคอ
“อือ อยากโดนจนตัวสั่นแล้ว”
“ดี ดีมาก”
เขากลั้วหัวเราะเสียงตํ่าหากแฝงไปด้วยความกระหายจนปิดไม่มิด ผ่านริมฝีปากได้รูปที่ยกยิ้มกว้างพอใจประดับบนใบหน้าหล่อเหลา พลันเลื่อนถอยเก้าอี้ประจำกายเล็กน้อยให้เหลือช่องว่างระหว่างโต๊ะทำงานที่พอให้หมวยลี่นั่งได้โดยไม่ลำบากหรืออึดอัด
“อยากโดนมากนักก็ใช้ปากสวย ๆ สวมให้กู”
