บท
ตั้งค่า

เรือนสกุลจิว

บทที่ 1 เรือนสกุลจิว

“กรุบกรับ กรุบกรับ” เสียงฝีเท้าของรถม้ากำลังวิ่งอยู่หนทางอย่างรวดเร็วสตรีที่งดงามพร้อมกับท่านป้านั่งอยู่บนรถม้านั้นถูกบังคับโดยบ่าวรับใช้ของเขา กำลังมุ่งหน้าไปที่บ้านเกิดของจิวหลิน นางตื่นเต้นมากเพราะนางจำอะไรไม่ได้สักอย่างรวมถึงใบหน้าท่านพ่อและท่านแม่ หัวใจอยู่ไม่เป็นสุข นางพยายามข่มใจหายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ จนท่านป้าของนางมองออก

“จิวหลินเจ้าตื่นเต้นสินะ "

“ท่านป้า ข้าตื่นเต้นจนขาของข้าอยู่ไม่นิ่งแล้ว อยากรู้เหลือเกินว่าใบหน้าของท่านพ่อท่านแม่จะเป็นเช่นไร พี่สาวของข้าจะงดงามมากกว่าข้าไม่นะ” นางจินตนาการคิดถึงใบหน้าของครอบครัวก็ยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น

“เด็กน้อยเอ๋ย ท่านพ่อท่านแม่ของเจ้าก็มีใบหน้าเฉกเช่นเจ้า เจ้าถอดแบบทั้งสองออกมาทั้งหมด หากเจ้าอยากคลายความตื่นเต้นเจ้าก็เปิดหน้าต่างออกไปรับลมให้สบายใจเถิด อีกไม่นานก็ถึงเรือนสกุลจิวแล้วล่ะ” หญิงวัยชราเอ่ยกับนางอย่างเอ็นดู หากเด็กสาวที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แต่งงานออกเรือนไปเขาคงจะเศร้าไม่น้อย เพราะจิวหลินเป็นเด็กฉลาดพูดเก่ง ทำให้นางรักเช่นบุตรที่ออกมาจากท้องของนาง

จิวหลินเปิดหน้าต่างรับลมเล็กน้อย วันนี้อากาศค่อนข้างดีนางมองทอดไปด้านหน้าลมตีเข้ากับใบหน้าทำให้นางสบายใจขึ้น ไม่นานนักรถม้าก็มาถึงที่หมู่บ้าน จิวหลินตื่นตาเป็นอย่างมาก แม้ที่ที่นางอยู่จะมีตลาดเช่นกันแต่ที่นี่ก็มีอะไรที่ไม่เหมือนกับที่นางอยู่มากมาย จนกระทั่งรถม้ามาหยุดอยู่ที่หน้าเรือนหลังใหญ่ ป้ายชื่อสลักติดบนหน้าประตูทางเข้าคือบ้านสกุลจิว หัวใจของนางเต้นแรงจนแทบไม่เป็นจังหวะมือไม้เย็นเพราะความตื่นเต้น ท่านป้าของนางจับมือของนางเอาไว้และให้มืออีกข้างตบลงที่หลังมือเบา ๆ

“เจ้าคงตื่นเต้นมากสินะ มือของเจ้าถึงเย็นได้ขนาดนี้ มาเถิดตอนนี้ถึงบ้านสกุลจิวแล้ว” ท่านป้าได้เอ่ยบอกกับจิวหลิน

“ท่านป้าลงดี ๆ นะเจ้าคะ วันก่อนท่านป้าบ่นว่าปวดเข่าอยู่เมื่อกลับจากงานของพี่จิวซินข้าจะนวดให้ท่านป้าเองนะเจ้าคะ”

“เด็กคนนี้ช่างพูดเอาใจข้าเก่งเสียจริง ” ทั้งสองยิ้มให้กันและเดินลงจากรถม้าอย่างช้า ๆ

ชายชรากับสตรีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ใบหน้าซูบผอมแต่ก็มีราศีของฮูหยินจับอยู่ จิวหลินรู้ในทันทีว่านี่คือท่านพ่อและท่านแม่ของนาง เมื่อนางเห็นท่านทั้งสองจึงได้โค้งตัวลงคารวะ

“ข้าจิวหลิน คารวะท่านพ่อ คารวะท่านแม่” ผู้เป็นป้าที่เฝ้าฝึกสอนมาก็ยิ้มอย่างปลื้มปริ่มหัวใจ

“ท่านพี่สบายดีหรือ นี่เจ้าคือจิวหลินของเราหรือนี่” ท่านพ่อได้เอ่ยถามพี่สาวของตนก่อนจะมองดูสตรีร่างเล็กใบหน้าจิ้มลิ้มยืนคารวะเขาอยู่ส่วนผู้เป็นแม่นั้นก็ได้โผล่เข้ากอดบุตรของตนเองด้วยความคิดถึง

“จิวหลินของข้า เจ้าช่างเหมือนกับพี่สาวของเจ้าไม่มีผิด เป็นเช่นไรบ้างชีวิตเจ้าคงอยู่อย่างสุขสบายสินะดูสิเนื้อตัวของเจ้าสะอาดสะอ้านแถมใบหน้ายังเกรี้ยงเกรา ข้าต้องขอบน้ำใจท่านพี่ที่ดูแลจิวหลินของเราดีขนาดนี้”

“เอาเถิด ๆ พวกเจ้าจะไม่ชวนข้าเข้าเรือนหรืออย่างไร อีกอย่างพวกเจ้ามีเวลาที่จะอยู่จิวหลินอีกหลายวัน ข้าจะมาพักที่นี่เมื่อเสร็จงานของจิวซินแล้วจะกลับ " พี่สาวได้เอ่ยปรามทั้งสองคน

“เชิญท่านพี่ ข้าได้ให้สาวใช้เตรียมห้องไว้ให้แล้ว ส่วนเจ้าเองก็เดินทางมาเหนื่อยสินะ ดูสิมือเจ้าเย็นไปหมด ” ท่านแม่ของจิวหลินได้เอ่ยถามนาง ตอนนี้นางดีใจมากส่ะจนเอ่ยอันใดไม่ออกเอาแต่จับจ้องใบหน้าของทั้งสอง

“ข้า ไม่เหนื่อยเลยท่านแม่ ว่าแต่พี่สาวของข้าอยู่ที่ใด นางมีใบหน้าเช่นข้าจริงหรือ"

“ใช่แล้วล่ะ พี่สาวของเจ้ามีใบหน้าเช่นเจ้าทุกประการ มาเถิดเข้ามาข้างในก่อน ” ทั้งสี่คนก็ได้เดินเข้ามาในเรือน บ่าวรับใช้ก็ได้ยกของใช้ของท่านป้าและจิวหลินไปเก็บไว้ที่ห้องที่จัดเตรียมไว้ให้ ท่านป้าก็ได้ขอคุยกับท่านพ่อเป็นการส่วนตัว ทำให้ตอนนี้จิวหลินนั้นได้อยู่กับท่านแม่ของนางที่ห้องโถงใหญ่

ท่านแม่ได้ให้สาวใช้ไปตามจิวซินมาพบกับน้องสาวของตนเอง

ท่านแม่ก็ได้เอ่ยถามสารทุกข์สุขดิบกับจิวหลินอย่างสนใจความเป็นอยู่ นางเองก็เล่าเรื่องราวของตนเองให้ท่านแม่ฟังอย่างสนุกสนาน

“เจ้าคงคิดถึงพ่อกับแม่มากสินะ ต้องขอโทษเจ้าด้วยที่ไม่ได้ไปหาเจ้าที่เรือนของท่านพี่เลย "

“ข้ารู้ว่าร่างกายของท่านแม่ไม่ค่อยดีท่านป้ามักจะเล่าให้ข้าฟังบ่อย ๆ แถมท่านพ่อก็มีงานมากมายที่ต้องทำ ข้าไม่เคยน้อยใจเลยสักนิดท่านแม่อย่าเป็นกังวล เพราะข้ามีท่านป้าที่ใจดีเมตตาข้าดั่งเป็นบุตรสาวของท่านป้าเอง ข้าก็ไม่เคยขาดเหลืออันใดเลยเจ้าค่ะ” จิวหลินจับมือของท่านแม่มากุมไว้ผิวหนังที่เริ่มหุ่มกระดูกทำให้จิวหลินได้รู้ว่าท่านแม่ของตนเองนั้นป่วยหนักไม่น้อย

“นี่ท่านแม่ ท่านจะให้สาวใช้ไปตามข้ามาทำไมรู้หรือไม่นี่มันเป็นเวลานอนของข้า” เสียงแผดเข้ามาในห้องโถงทำให้จิงหลินรีบหันไปมอง สตรีที่เดินเข้ามาช่างมีใบหน้างดงามราวเทพธิดา ชุดสีส้มที่สวมใส่ช่างขับกับผิวของนางยิ่งนักใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยของประทินโฉม ปิ่นที่ปักมากมายบนศรีษะแม้กระทั่งริมฝีปากที่แดงดั่งสีของกุหลาบช่างเข้ากับนางยิ่งนัก ทำให้จิงหลินตกอยู่ในพวังภ์ของความงดงามของพี่สาวของตน ช่างแตกต่างจากนางที่แทบจะแต่งกายเป็นบุรุษอยู่ทุกครั้ง ใบหน้าที่ไม่เคยแต่งเติมมือเล็ก ๆ ของนางก็แข็งกระด้างเพราะมักออกไปช่วยชาวนาทำงาน ชีวิตของนางกับพี่สาวช่างแตกต่างกันเสียจริง

“ที่ข้าเรียกเจ้ามาพบเพราะอยากให้เจ้าพบกับน้องสาวฝาแฝดของเจ้า นี่จิวหลินนางเป็นน้องสาวที่คลอดตามเจ้าออกมา” ท่านแม่แนะนำให้ลูกทั้งสองได้รู้จักกัน จิวหลินดีใจมากจึงได้วิ่งเข้าไปหาจิวซิน

“ท่านพี่ ท่านพี่ของข้าช่างงดงามยิ่งนักข้าดีใจเหลือเกินที่เจอท่าน” แต่ทว่าใบหน้าของจิวซินกลับไม่ได้ดีใจอย่างที่จิวหลินคิดไว้ นางชักสีหน้ารังเกียจหญิงสาวที่มาจากบ้านนอก และผลักนางออกจากกายของตน

“อี้ !! ออกไปไกล ๆ ตัวของข้า เสื้อผ้าของข้าจะติดกลิ่นดินของเจ้า แม้เจ้าจะเป็นน้องฝาแฝดของข้าแต่เจ้าก็ไม่ได้เหมือนข้าแม้แต่น้อย ข้าไม่ได้ยินดีที่มีเจ้าหรอกนะ ท่านแม่หากหมดเรื่องแล้วข้าขอตัว ช่างเสียเวลานอนข้าเสียจริง” จิวหลินที่คิดในใจมาตลอดว่าพี่สาวของนางจะคิดถึงนางมากเพียงใดหากได้พบหน้ากันคงมีเรื่องราวมากมายมาเล่าสู่กันฟังและรักนางเหมือนที่นางนั้นรักพี่สาวของนาง แต่ทว่านางกลับถูกมองด้วยสายตารังเกียจและไม่ได้ดีใจเลยแม้สักนิดที่ได้เจอนางในครั้งนี้ จิวหลินใบหน้าถอดสีถอยหลังออกห่างจากจิวซินมือทั้งสองข้างประกบกันอย่างแนบแน่น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel