ตอนที่ 3
ซาร่ากับนีรดาพากันเดินทางมาถึงบ้านของพ่อหมอที่ตั้งอยู่ในอำเภอแห่งหนึ่งของจังหวัดอยุธยา
แม้ว่าจะขับรถออกมาจากกรุงเทพฯ ก่อนเที่ยง แต่กว่าจะถึงก็ตอนเย็น ไม่ใช่เป็นเพราะว่าระยะทางไกล แต่เป็นเพราะมีอุบัติเหตุรถพ่วงพลิกคว่ำขวางเส้นทางก่อนเข้าจังหวัดอยุธยา กว่าจะเคลื่อนย้ายออกจากเส้นทางจราจรก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง
สองสาวพากันก้าวออกมาจากรถที่จอดไว้ใต้ร่มไม้ภายในอาณาบริเวณบ้านที่ปลูกสร้างทรงเรือนไทยหลังย่อม หลังบ้านมีต้นไทรใหญ่ แผ่กิ่งก้านร่มครึ้มจนทำให้บรรยากาศดูลึกลับน่ากลัว เมื่อเหลือบไปเห็นพระอาทิตย์สีแดง ลอยต่ำลงทางด้านทิศตะวันตก ท้องฟ้าเป็นสีส้มใกล้ค่ำ ยิ่งทำให้บรรยากาศรอบกายดูวังเวง
“สวัสดีจ้ะลุง… ”
นีรดาร้องทักชายตัวดำ รูปร่างสูงใหญ่ เนื้อตัวกำยำไปด้วยมัดกล้าม ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราครึ้ม กำลังก้มๆ เงยๆ กวาดใบไม้แห้งอยู่ใต้ต้นหูกวางสูงใหญ่
“มาหาหาอาจารย์รึ… ”
ชายตัวใหญ่หยุดกวาดใบไม้ เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวทั้งสอง
“ใช่จ้ะ… ”
นีรดาตอบ
“ที่นัดไว้ใช่ไหม… ”
หัวคิ้วของชายร่างใหญ่ชิดเข้าหากัน แกมีชื่อว่า ‘ลุงดำ’
“ใช่จ้ะ… หนูคือคนที่โทรมาเมื่อวาน”
ซาร่าตอบ…
ลุงดำหรี่ตามองสำรวจเรือนร่างสุดเซ็กซี่ของสองสาว ผิวพรรณขาวออร่า ทรวดทรงเซ็กซี่สะดุดตา ไม่แปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใดพ่อหมอไกรจึงยกเลิกคิวนัดของช่วงบ่ายวันนี้ทั้งหมด ที่แท้ก็เป็นเพราะว่ารอสองสาวแสนสวยนี่เอง
“ต้องขออภัยด้วยนะจ๊ะที่หนูมาช้า… เป็นเพราะมีอุบัติเหตุระหว่างทางค่ะ รถติดนานมากก็เลยมาถึงช้า… ”
นีรดารีบบอกถึงสาเหตุที่ต้องทำให้ผิดเวลาอย่างไม่ตั้งใจ
“ไม่เป็นไร… ”
ลุงดำตอบ ตายังเผลอมองเรือนร่างสุดเซ็กซี่ของสองสาว เห็นสองเต้าคัพดีอวบใหญ่รัดรึงอยู่ใต้เสื้อบางๆ ถึงกับเผลอกลืนน้ำลายลงคอแห้งผากเสียงดังเอื๊อก
เพราะว่าไม่บ่อยนักที่จะมีหญิงสาวหุ่นทรงราวกับนางแบบหนังสือประเภทปลุกใจเสือป่าแวะมาที่นี่ ส่วนมากจะเป็นสาวแก่แม่ม่ายสูงวัยมากกว่า
“แล้วตอนนี้พ่อหมอว่างใช่ไหมจ๊ะ… ”
นีรดารีบถาม
“ใช่… ตามข้ามา… ”
ตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มเครืออยู่ในลำคอ ไม้กวาดทางมะพร้าวที่ถืออยู่ในมือวางพิงไว้กับลำต้นของหูกวาง ก้าวเดินนำหน้าสองสาวขึ้นมาบนเรือนไม้ทรงไทยหลังย่อมที่หลายคนเรียกว่า ‘สำนัก’
“เอ็งนั่งรออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวข้าไปบอกอาจารย์ก่อน… ”
ลุงดำชี้มือไปยังชานเรือน สองสาวพากันเดินมานั่งรอที่แคร่ไม้ไผ่ใต้ร่มเงาของต้นชมพูที่แผ่กิ่งก้านสูงขึ้นมาถึงหลังคาบ้าน
นีรดารู้สึกถึงความวังเวง หล่อนกวาดสายตาแลไปรอบๆ บ้าน แสงแดดสีทองของยามเย็นสาดลอดพุ่มกระดังงาเข้ามาที่ระเบียง ดอกกระดังงาสีเหลืองส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั้งบริเวณ
ครู่สั้นๆ ต่อมา
ประตูไม้ถูกผลักออกมาพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของลุงดำ แกเดินออกมาพร้อมด้วยผ้าถุงลายดอกสองผืนพับซ้อนกันไว้
“เดี๋ยวเอ็งสองคนอาบน้ำชำระล้างให้เนื้อตัวสะอาดสะอ้านทุกซอกทุกมุมแล้วสวมผ้าถุงกระโจมอก… ”
บอกพร้อมกับยื่นผ้าถุงมาให้ ซาร่ารู้สึกตกใจกับประโยคที่ได้ยิน จึงรีบย้อนถามด้วยความสงสัย
“เอ่อ… หนูตั้งใจจะสักยันต์ที่บ่านะคะ… ต้องถอดเสื้อผ้าด้วยหรือจ๊ะลุง… ”
ซาร่าสงสัย ตั้งใจจะสักยันต์ห้าแถวที่หลัง ค่อนไปทางบ่าข้างซ้าย
“หนูจะสักสาลิกาจ้ะ”
นีรดารีบบอก…
การสักยันต์เป็นความเชื่อโบราณที่มีมานาน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้นิยมเครื่องรางของขลัง ยันต์ที่ผู้หญิงนิยมก็คือสาลิกาลิ้นทองและยันต์ห้าแถว ถือเป็นของขลังที่ใช้เสริมเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ พูดอะไรใครก็ชอบพูดอะไรใครก็หลงก็เชื่อ
“พวกเอ็งต้องถอดเสื้อผ้าให้หมด… และที่ต้องให้อาบน้ำก็เพราะร่างกายจะได้บริสุทธิ์สะอาด ยันต์จะยิ่งขลัง น้ำในโอ่งที่เตรียมไว้ก็เป็นน้ำมนต์วิเศษที่ผ่านการทำพิธีมาแล้ว… ไม่ต้องกลัว… ”
ลุงดำรีบอธิบาย…