บทย่อ
บ้านหมีน้อยในดาวหอยใหญ่ โดย โอวหยางเล่อ (OuYangLe) ภูมิใจนำเสนอนิยายเรื่อง #พ่อสามีนางร้ายจะอุ้มท้องลูกของท่านเอง มารดาพวกท่านเถอะ! เป็นหญิงแพศยาแต่งกับลูกแต่ปีนขึ้นเตียงพ่อสามี ไร้ยางอายเยี่ยงไร ในเมื่อชาติภพใหม่ นางร้ายผู้นี้จะเปลี่ยนบทเอง ฮึ... ยกที่หนึ่ง ก็เริ่มจากการปล่อยท้องไปเลยสิคะ หมายเหตุ ระวังตกหลุมรักหนุ่มรุ่นพ่อโดยไม่รู้ตัว! #หลัวที่ดีคือสามีรุ่นพ่อ
1.ขึ้นเตียงกับพ่อสามี
รัชศก กู้อิน ปีที่สิบสอง เมืองหรูฉาง แคว้นต้าโจว
คืนนี้ซือหม่าปัน หรือ ปันเส้าเฟิง ผู้ซึ่งโสดมานานหลายปี เขามึนศีรษะอยู่สักหน่อย นั่นเป็นเพราะแม่ทัพเจิ้ง เพื่อนเก่ากลับมาจากเมืองหน้าด่าน มีความประสงค์อยากดื่มฉลองพร้อมพูดคุยถึงความหลังสมัยที่พวกเขาออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน
หลายปีที่ผ่านมา เจิ้งคัง ผู้เป็นแม่ทัพเมืองหน้าด่านไม่คิดกลับเมืองหลวง สาเหตุคือ นานแล้วเขาปฏิเสธการสมรสกับองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ ซึ่งไท่ซางหวงเป็นผู้แนะนำให้
กระทั่งหลานชายของเขากำลังจะรับตำแหน่งสำคัญในศาลหลักเมืองหรูฉาง ซึ่งมีฝ่ายรัชทายาทคอยให้การสนับสนุน เหตุนี้เจิ้งคังจึงเดินทางไกลนับพันลี้ มาร่วมแสดงความยินดี นอกจากกลับบ้านเกิดมาเยี่ยมครอบครัวแล้ว เจิ้งคังยังหอบหิ้วสาวงามมาหลายคน ซึ่งดูเหมือนว่าหนึ่งในนั้นคือสตรีที่อยู่ในห้องรับรองโอ่โถง ณ โรงเตี๊ยมอันดับหนึ่งของเมืองนี้และนางกำลังบ้าบิ่นถึงขั้นกล้าปีนขึ้นเตียงปันเส้าเฟิง
แต่น่าประหลาดใจ สตรีนางนั้นทั้งที่ต้องมารับแขกที่เป็นขุนนางชั้นสูง แต่กลับครองสติแทบไม่ได้ เพราะดื่มสุรามามิน้อย มิหนำซ้ำดูเหมือนต้องพิษราคะด้วย ผิวกายนุ่นนิ่มที่เป็นสีขาวจัด ยามเมื่อถูกมือใหญ่ ๆ ลูบไล้จึงกลายเป็นสีขาวอมชมพู ชวนให้ปันเส้าเฟิงเกิดความพิศวาส
เขาสัมผัสเนื้อนุ่ม จมูกก็ซุกซนยิ่ง ถึงแม้นางจะพอกผิวกายด้วยสมุนไพรให้นวลเนียนมากกว่าปกติ แต่สิ่งนี้ไม่เป็นปัญหา เขานิยมด้วยซ้ำ นานแล้วที่ไม่ได้เลือกสตรีมาอุ่นเตียงด้วย กระทั่งเจิ้งคังส่งตัวนางมาให้เขา
ดวงตาคมกริบลูกสีดำมองสาวงามด้วยความพึงใจ เอ่ยถามเสียงทุ้ม ๆ
“ยินยอมให้ข้าดูดน้ำจากเต้าหู้ขาวอวบของเจ้าจริง ๆ หรือ”
น้ำเสียงเขากระเส่า ริมฝีปากชื้น ๆ เคลื่อนรุกรานจุดที่ไวต่อแรงปรารถนา จนทำให้ยอดถันสีชมพูงามสั่นระริก
ฝ่ายนางก็อยากให้เขาครอบริมฝีปากลงไปแล้วขบ เม้ม ออกแรงดูดหนักหน่วง การกระทำนั้นคงส่งให้นางซาบซ่านจนสามารถขับน้ำหวานออกมาจากจุดคับแน่นได้
“อ๊ะ...อี๊ ๆ หากท่านรับผิดชอบข้า สตรีเบาปัญญาก็จะยอมพลีกายให้ท่านเคี่ยวกรำอย่างหนัก!”
“ช่างเจรจาเหลือเกิน เยี่ยงนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าสมปรารถนา” เมื่อปันเส้าเฟิงผู้เป็นพ่อหม้ายหนุ่มกล่าวจบ ก็คึกคักเหมือนเป็นหนุ่มน้อยอีกครั้ง
แม้ที่ผ่านมา พึงใจสาวใช้ที่แม่ใหญ่ (ฮูหยินหม้าย-มารดาเลี้ยง) คอยจัดหาให้ หรือหญิงงามเมืองไว้ปรนเปรอความสุขอยู่บ้าง แต่ไม่ติดใจใครเท่านางผู้นี้ ที่ทั้งยั่วยวน ร้อนแรง ที่สำคัญไม่ใช่แค่สองเต้าอวบอัดชวนให้นวดเฟ้นบีบคั้นน้ำนม ทว่ากลีบงาม ๆ ช่างมหัศจรรย์ เขาสำรวจนางด้วยนิ้วมือ เมื่อลองแยกพื้นที่แห่งความคับแน่นออกจากกันอย่างช้า ๆ ก็มีน้ำเมือกซึมเอ่อ จนหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ครางเสียงชวนให้เขากระสัน
ทวนทองของเขาพยายามดันเพื่อโผล่พ้นออกมาจากกางเกง จวบจนนางเคลื่อนร่างมานั่งซ้อนทับตักเขา ด้วยการหันหน้าเขาหากัน บนตั่งไม้ยกพื้นสูง ซึ่งบั้นท้ายหนั่นแน่นก็ชวนให้เขาใช้ทั้งฝ่ามือ และท่อนเนื้ออุ่นตบตีเบา ๆ เย้าหยอกเพื่อให้เกิดรอยจ้ำแดง
“ทะ… ท่าน... ดูดแรงกว่านี้ได้หรือไม่ ข้าต้องการสัมผัสความรู้สึกนั้นจากริมฝีปากของท่าน!” นางร้องขอ จึงทำให้เขาอยากแทรกลิ้นกับแก่นกายเข้าไปกระแทกในริมฝีปากและกลีบสวาทของนางที่ฉ่ำแฉะในตอนนี้!
ขณะที่ยอดถันหญิงสาวถูกริมฝีปากบางครอบครอง แล้วตามด้วยการดูดราวกับทารกหิวน้ำนมมารดา นิ้วมือแกร่งของปันเส้าเฟิง ก็แตะวน ๆ เหนือกลีบฉ่ำอวบอูมของนาง เรือนร่างนี้งดงามโดยแท้ และไร้ขนใด ๆ ปกคลุมพื้นที่พิศวาส
“เจ้าทำความสะอาดเนื้อนุ่มได้ดี ทั้งหอมด้วยกลิ่นกายสาวกับกลิ่นดอกไม้อ่อน ๆ สมแล้วที่แม่ทัพเจิ้ง ส่งตัวมาปรนนิบัติข้า”
คนที่ถูกเล้าโลมหนักหน่วงมิอาจเข้าใจคำพูดปันเส้าเฟิงทั้งหมด นางกำลังหวามใจ ก่อนหน้านั้นเดินทางมายังหอเซียนเมารักด้วยจดหมายและกลอนพลอดรักส่งถึงนาง บุรุษผู้นั้นช่างมากด้วยเสน่ห์
ทั้งคู่พบกันที่ศาลเจ้าเมื่อหลายวันก่อน ใช้เวลาพูดคุยทำความรู้จักเกือบครึ่งค่อนวัน และนางเสียจูบให้เขา หากยังยั้งใจทัน มิได้เผลอไผลพลีร่างให้อีกฝ่ายสับสะโพกใส่
ไป๋ลู่เถียนคิดถึงเรื่องราวที่นางกับชายหนุ่มผู้นั้น สื่อสารกัน
“เจ้างดงาม อ่อนหวาน ตัวข้าก็ยังไม่มีภรรยา...”
“คุณชาย ข้าเป็นสตรีบ้านนอก อีกทั้งเมืองหลวงเป็นที่ซึ่งใหม่ต่อข้า ผู้คนล้วนแปลกหน้าไม่รู้จัก”
“แต่เจ้ามีข้าแล้ว...”
เขาทอดเสียงทุ้มน่าฟัง และยิ้มอบอุ่นแก่นาง
“หากไม่ใช่คำลวง ข้าขอเชื่อท่านทั้งหัวใจ”
และจากการพูดคุยวันนั้น เขาบอกให้นางแต่งชุดสวยเพื่อพบกันที่หอเซียนเมารัก ด้วยเขาอยากมีเวลาศึกษากัน ซึ่งนางก็ต้องการบุรุษสักคนมาเยียวยาหัวใจ ช่วยทำให้ไป๋ลู่เถียนหลุดพ้นจากความเหงา ความน้อยเนื้อต่ำใจ หลังจากถูกชายที่ชื่อ เจิ้งเสี่ยวหยวน หลอกให้รัก ก่อนที่เขาจะทิ้งนางไปมีความสุขกับเฉินมี่ หญิงสาวจากสกุลใหญ่ ผู้มีหน้ามีตาในสังคม มิใช่สตรีบ้านนอกที่เดินทางมาเมืองหลวงครั้งแรกเพื่อทวงสัญญาหมั้นหมาย
ทว่าผ่านไปเกือบสองชั่วยาม คุณชายผู้นั้นกลับไม่ปรากฏตัวและฝ่ายนางโชคไม่ดีพบกับบุรุษที่เป็นรักแรก เจิ้งเสี่ยวหยวนมากับสตรีที่เป็นหนามทิ่มแทงหัวใจไป๋ลู่เถียน ทั้งคู่หัวเราะอย่างมีความสุข ซุกซบและล้วงเข้าไปร่มผ้าของกันและกันราวกับว่าอยากอุ่นเตียงบนโต๊ะอาหาร
ภาพดังกล่าวทำให้ไป๋ลู่เถียนโกรธ ชิงชัง คิดแค้นอยากแก้เผ็ดคนพวกนั้น นางจึงหาวิธีสกปรกสักหน่อย ด้วยการใช้เงินเกือบสองตำลึงเงินจ้างสตรีนางหนึ่งให้ไปแสดงตัวว่าฝ่ายชายมีความสัมพันธ์ด้วย และไม่ยอมรับผิดชอบนาง!
การแสดงละครฉากใหญ่ดังกล่าวสร้างสีสันและทำให้หนุ่มสาวคู่นั้นเสียหน้าอยู่มิน้อย ซึ่งเพียงเท่านั้นไป๋ลู่เถียนก็อารมณ์ดี แต่นางหารู้ไม่ในเวลาต่อมา กลับถูกเฉินมี่ตลบหลังวางยากระตุ้นการเสียสาวในสุราที่ไป๋ลู่เถียนสั่งมาดื่ม
นอกจากนั้น ชายที่นัดพบก็ไม่มาตามนัดเสียดื้อ ๆ หญิงสาวจึงเหว่ว้า และรู้สึกหงุดหงิดใจ จึงดื่มสุราหนักไปหน่อย และพิษราคะก็ทำงานของมันจนร่างกายร้อนรุ่ม วิญญาณคล้ายจะหลุดออกจากร่าง และช่วงเวลาดังกล่าวเกิดบางอย่าง คล้ายว่าในร่างกายนี้ มีอีกหนึ่งความคิดเข้ามาครอบงำ
นับจากนั้น นางร้ายในนิยายก็มีอีกหนึ่งชีวิตคอยขีดเส้นทางใหม่ให้ก้าวไปข้างหน้า และผู้ที่มาชักใยไป๋ลู่เถียนคือ สตรีที่มาจากโลกอื่น ซึ่งพร้อมจะฟาดทุกตัวละครที่เคยทำให้ชาติก่อน นางต้องตายอย่างอนาถ!