ตอนที่ 1
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2537
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น
..........
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
……….
นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา
ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์
ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง
ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง
*เราเตือนท่านแล้ว*
พ่อผัว
ในความลับ
กรุงเทพฯ มหานคร
ตอนเช้า ที่ห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ เสียงพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างลูกสะใภ้กับเพื่อนสาวของหล่อนที่อยู่ปลายสาย ทำให้ พ่อเลี้ยง ‘เพลิง’ ถึงกับชะงัก ต้องแอบฟังอย่างเสียมารยาท เพราะมันเหมือนเป็นการหยามเกียรติของลูกชายจนเขาทนไม่ได้
“ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปฉันลงแดงตายแน่ๆ… ไม่ไหวแล้วนะยัยเกด ฉันเบื่อผู้ชายที่ลีลาบนเตียงจืดชืดสุดจะทน”
‘ยูมิ’ ลูกสะใภ้ของเพลิง ระบายความในใจกับเกดสุดาที่อยู่ปลายสาย
“เฮ้ย… ใจเย็นๆ ยูมิ… เรื่องแบบนี้แกกับพายน์ต้องเปิดใจคุยกันตรงๆ… ไม่งั้นชีวิตคู่แกล่มแน่ๆ”
เกดสุดาบอกให้เพื่อนรักใจเย็น ‘พายน์’ คือลูกชายของเพลิง สามีของยูมิ
“ไอ้พายน์มันบ้างานจนไม่มีเวลาทำการบ้านใช่ไหม”
เกดสุดาเข้าใจว่าอย่างนั้น
“โอ๊ย… ไม่ใช่แค่เรื่องทำการบ้าน อันที่จริงปัญหามันเยอะกว่านั้น… ”
กล่าวอย่างเสียอารมณ์ ยูมิกำลังจะบอกในสิ่งที่คนอื่นๆ ไม่เคยรู้
“เยอะ… ยังไงอ่ะยูมิ… ฉันไม่เข้าใจ”
เกดสุดานึกสงสัย
“บอกตรงๆ ว่าตั้งแต่มาอยู่กับพายน์ที่เมืองไทย ไม่มีสักครั้งที่ฉันจะมีความสุขกับเรื่องบนเตียงอย่างเต็มที่ นอกจากลีลาจะจืดชืดไร้รสชาติ… พายน์ยังเล็กและสั้นโคตรๆ… แล้วยังหลั่งเร็วสุดๆ… ”
ความอัดอั้นของยูมิพรั่งพรูออกมาจนสิ้น เรื่อง ‘เล็ก’ และ ‘สั้น’ อันที่จริงก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะว่ายูมิชอบให้เบิร์น หล่อนมีความสุขกับการเสร็จสมคาลิ้น แต่ทว่าพายน์ก็ไม่ใช่สายเบิร์นอย่างที่ยูมิต้องการ
“โห… ขนาดนั้นเลยหรือวะ”
เกดสุดาตกใจ
“ก็เออสิวะ”
ยูมิตอบ ถึงขนาดนี้คงไม่มีอะไรต้องปิดบังกันอีกแล้ว
“ใจเย็นๆ ยูมิ… ทุกอย่างย่อมมีทางออก”
เกดสุดาให้กำลังใจเพื่อนรัก
“ฉันไม่รู้ว่าจะอดทนได้อีกกี่วัน… นี่ฉันตัดสินใจแล้วนะ… ว่าจะกลับไปอยู่กับแม่ที่ญี่ปุ่น”
ยูมิเป็นลูกครึ่งที่เกิดจากแม่ญี่ปุ่นและพ่อคนไทย
“ใจเย็นๆ เพื่อน… ”
เกดสุดาคุยกับยูมิต่อมาอีกครู่ใหญ่ๆ ก็ตัดสาย เพลิงรีบเดินออกไปจากหลังประตูห้องรับแขก ก่อนที่ลูกสะใภ้จะรู้ว่ามีคนแอบฟังเสียงสนทนาทางโทรศัพท์
อีกสัปดาห์ต่อมา
“อย่าไปนะพายน์… ถ้าพายไปเราเลิกกัน”
ยูมิยื่นคำขาด ในวันที่พายน์ตัดสินใจจะต้องเดินทางไปดูงานที่เวียดนามหนึ่งสัปดาห์ หลังจากบริษัทผลิตรถยนต์แบรนด์ดังของญี่ปุ่นเลื่อนตำแหน่งให้พายน์ขึ้นเป็นผู้จัดการทีมขายของเมืองไทย
“อย่าบ้าน่ะยูมิ… นี่เป็นโอกาสดีของผม โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ คุณรู้ไหมว่าผมต้องใช้ความพยายามสักแค่ไหน ต้องบริหารทีมเซลล์อย่างเหนื่อยหนักขนาดไหนจนทำยอดขายแซงทีมอื่น จนผมได้รับการโปรโมทขึ้นเป็นผู้จัดการทีมขาย”
พายน์อธิบายถึงเหตุผลที่เขาจะต้องเดินทางไปดูงานที่เวียดนาม และยืนยันว่าเขาจะไม่ปฏิเสธตำแหน่งผู้จัดการเด็ดขาด
“ตอนนี้ชีวิตคุณมีแต่งานกับงาน แล้วยูมิล่ะ? ตอนนี้ยูมิแทบไม่มีค่าอะไรในสายตาของคุณ… ถ้ารู้ว่ามาอยู่กับคุณที่เมืองไทยแล้วเป็นแบบนี้… ยูมิจะไม่มาเด็ดขาด”
ยูมิร้องไห้ น้ำตาไหลพราก พายน์นึกตอบในใจว่าถ้ารู้ว่ายูมิจะเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้ เขาจะไม่ชวนหล่อนมาด้วยอย่างเด็ดขาด ตอนแรกที่เจอกันนั้นยูมิอยู่ญี่ปุ่น ได้เจอกับพายน์ก็เพราะว่าพายน์ไปทำงานที่นั่น หลังจากคบหาดูใจกันได้ไม่นาน พายน์ก็ชวนยูมิกลับมาอยู่เมืองไทย ใช้ชีวิตร่วมกันโดยไม่ได้แต่งงาน
“พายน์… หนูยูมิ… มีอะไรกัน”
เพลิงผ่านมาได้ยินเสียงดังในห้องคล้ายคนกำลังทุ่มเถียงกัน จึงเข้ามาถามด้วยความห่วงใย
“ก็พี่พายน์น่ะสิคะคุณพ่อ… ฮือๆ พี่พายจะหนียูมิไปเที่ยวเวียดนาม… ไปนานเป็นอาทิตย์เลยค่ะ”
สะใภ้รีบฟ้องพ่อผัวเมื่อได้โอกาส
“อ๋อ… เรื่องนั้นน่ะเอง เจ้าพายน์มันไม่ได้ไปเที่ยวหรอกนะ มันไปดูงานน่ะ”
เพลิงรู้เรื่องนี้มาหลายวันแล้ว จากปากของพายน์
“ดูสิ… พ่อเพลิงเข้าข้างลูกชาย”
ยูมิทำหน้าง้ำ