3
“ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงแกเหมือนกันว่ะ ต้องไปหาอะไรอร่อย ๆ กระแทกปากกันหน่อย มา ๆ ฉันจะพาแกไปกินอาหารร้านอร่อย ๆ แกไม่อยู่หลายปี ที่นี่มีร้านอาหารเปิดใหม่หลายร้านเลยเพื่อน”
“งั้นไปกัน ฉันก็อยากชิมอาหารร้านที่แกแนะนำเหมือนกัน” เขาซ้อนมอเตอร์ไซค์คันเก่งของการันต์ไปยังร้านอาหารบรรยากาศดีนอกเมืองในทันที
“นายเป็นไงบ้าง” สิบทิศเอ่ยถามเพื่อนรักเมื่อเห็นท่าทีเบื่อหน่ายของการันต์
“ฉันเบื่อว่ะ ป๊ากับม๊าบังคับทุกอย่าง ทุกวันนี้ต้องทำตามคำสั่ง ขู่แต่ว่าจะไม่ยกสมบัติให้ ขนาดผู้หญิงที่ชอบยังเอามาทำเมียไม่ได้เลย” การันต์ถอนใจอย่างหนักหน่วง ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นซด
“ใจเย็น ๆ สิ พ่อแม่ของแกมีแกแค่คนเดียวก็ต้องรักแกมาก ๆ และตั้งความหวังเอาไว้กับแกเป็นธรรมดา แล้วแกชอบผู้หญิงคนไหนวะ ฉันพอจะรู้จักหรือเปล่า”
“พ่อแม่แกก็มีแกแค่คนเดียว ไม่เห็นตั้งความหวังอะไรเอาไว้กับแกเลย ส่วนผู้หญิงที่ฉันชอบ แกอย่าสนใจเลยว่ะ”
“มันไม่เหมือนกันนะโว้ย พ่อแม่ของฉันไม่อยู่แล้ว แต่พ่อแม่ของแกยังอยู่ เขาก็ย่อมตั้งความหวังเป็นธรรมดา”
“ฉันขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้แกเสียใจเรื่องพ่อแม่แบบนี้” การันต์ได้สติจึงรีบเอ่ยขอโทษขอโพยเพื่อนรักในทันที
“สรุปว่าแกจะไม่บอกฉันจริง ๆ ใช่ไหมว่าผู้หญิงที่แกชอบคือใคร”
“ช่างเถอะ” การันต์ตอบปัด ๆ เขาคิดว่าครอบครัวของสิบทิศไม่เหมือนครอบครัวของเขา พ่อแม่ของสิบทิศไม่เคยบังคับลูก ยายมีธุรกิจ แต่พ่อแม่อยากรับราชการชอบสอนหนังสือก็ปล่อยให้ทำงานที่ตัวเองรัก ส่วนสิบทิศเอง พ่อแม่ก็ไม่เคยคาดหวังว่าต้องรับราชการหรือรับช่วงกิจการใด ๆ ไม่เคยคาดหวังว่าต้องเป็นเจ้าคนนายคนหรือต้องร่ำรวย ขอให้เป็นคนดี ได้ทำในสิ่งที่ชอบก็พอ สิบทิศชอบวาดรูป บิดามารดาก็ปล่อยให้ได้เรียนวาดรูป
เขาเองบิดามารดามีเชื้อสายจีน อยากให้เป็นหมอ เขาสอบไม่ติดเพราะไม่ได้เรียนเก่งขนาดนั้น ก็บอกว่าเขาทำให้วงศ์ตระกูลอับอายขายหน้าที่สอบหมอไม่ติด เขาเลยต้องไปเรียนบริหารธุรกิจ แต่จบปริญญาตรีออกมาก็เป็นได้แค่พ่อค้าเขียงหมู ที่ต้องสืบทอดการขายหมูจากบิดามารดา
พวกท่านพูดแต่ว่าถ้าเขาไม่ขายหมูเหมือนพวกท่านก็อดตาย ไม่มีทางทำอะไรประสบความสำเร็จได้
แม้แต่ผู้หญิงที่แอบรักมาเนิ่นนาน เขาก็ยังไม่มีปัญญาได้ครอบครอง
การันต์เงยหน้ามองสิบทิศ อดีตเพื่อนที่เขาอิจฉามาตลอดถึงความโชคดีที่มีครอบครัวที่ดี พ่อแม่ที่น่ารัก ตอนนั้นเขาเป็นคนโกหกเวทิตาเองว่าเขาไปไม่ทันสิบทิศ อีกฝ่ายเดินทางไปกรุงเทพฯ เสียแล้ว ทั้ง ๆ ที่เขาขับรถไปที่บ้านของสิบทิศ และได้เจอเพื่อนกำลังจะออกเดินทาง
เขาไม่บอกเรื่องที่เวทิตาฝากบอกสิบทิศว่ายายของหล่อนป่วยหนัก เขายื่นมือเข้าไปช่วยเวทิตา ทำเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนดี คอยช่วยเหลือเจ้าหล่อน กำจัดสิบทิศออกไปได้ แต่ยังมีมารผจญคือบิดามารดาที่คอยขัดขวางเพราะไม่ชอบที่เวทิตาจน แถมยังมีลูกติดอีกด้วย
ตอนนั้นเขาเองก็ไม่รู้ว่าเวทิตามีลูกของสิบทิศติดท้องอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้รังเกียจเจ้าหล่อน มีแต่เจ้าหล่อนนั่นแหละที่เจียมเนื้อเจียมตัว แถมปฏิเสธเขาอีกว่าไม่คู่ควร ไม่อยากให้เขาต้องเสียเวลากับหล่อน
จริง ๆ หล่อนก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แค่เผอิญถูกล๊อตเตอร์รีรางวัลที่สองเท่านั้น แต่ก็ทำเป็นเล่นตัว ทั้ง ๆ ที่มีลูกติด มีผู้ชายดี ๆ แบบเขายื่นมือเข้าไปรับเธอกับลูกมาเลี้ยงดู ก็น่าจะพอใจแล้ว พ่อแม่เขาก็แก่มากแล้ว ทน ๆ เอาหน่อย ต่อไปทรัพย์สมบัติก็ต้องได้เขา เธอกับลูกก็จะสบายไปด้วย พอพ่อแม่ตายก็หมดอุปสรรค เธอจะจดทะเบียนสมรสกับเขา เขาก็ไม่ขัด
ตอนที่สิบทิศยังไม่กลับมาที่นี่ เขาก็ไม่ได้กังวลใจอะไร แต่พอสิบทิศกลับมาเท่านั้นแหละ เขาก็กังวลขึ้นมาในทันที
เรื่องราวระหว่างสิบทิศกับเวทิตา นอกจากเขาที่รู้แล้วก็ยังมีพลอยเพชรอีกคน
พลอยเพชรยอมร่วมมือกับเขาไม่บอกเวทิตาว่าสิบทิศฝากบอกว่ารออยู่ ระหว่างจะขึ้นเครื่องไปกรุงเทพฯ เพราะเวทิตาไม่มีโทรศัพท์ สิบทิศจึงต้องโทร. มาหาพลอยเพชรให้ช่วยบอกเวทิตาให้หน่อย เพราะสิบทิศตามหาเวทิตาไม่เจอ เนื่องจากเธอเฝ้ายายอยู่ที่โรงพยาบาล การันต์ตระหนักว่าการไม่มีโทรศัพท์คือเรื่องโชคร้ายของเวทิตากับสิบทิศในตอนนั้น แต่เป็นเรื่องโชคดีของเขา
สิบทิศอยากให้ที่อยู่กับเวทิตา จะได้ติดต่อกันทางจดหมาย หากต้องจากกันไปอยู่ไกล ๆ
ก่อนที่ทั้งสองจะจากกัน ได้มีเรื่องบาดหมางทะเลาะเบาะแว้งและหึงหวงกันก่อนหน้า นั่นทำให้เมื่อต่างฝ่ายต่างนัดให้มาเจอกัน แล้วอีกฝ่ายไม่มา จึงต้องจากกันโดยไม่ได้ร่ำลา
นั่นคือสิ่งที่เขารู้อยู่เต็มอก การันต์มองหน้าเพื่อนก่อนจะกรอกเหล้าเข้าปาก
“มองหน้าฉันมีอะไรเหรอรันต์”
“เปล่า แค่อยากรู้ว่าแกแต่งงานมีครอบครัวหรือยัง”
“ยังเลย”
“ยังลืมเวไม่ได้เหรอ”
“ตอนฉันจากเวไปกรุงเทพฯ เราทะเลาะกัน ฉันฝากเพชรไปบอกเวว่าให้มาหาหน่อย แต่เวก็ไม่มา ฉันรอจะให้ที่อยู่เขา เลยฝากเพชรเอาที่อยู่ไปให้แทน แต่พอโทร. มาหาเพชร เพชรบอกว่าเวไม่สนใจ แล้วเพชรก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ฉันเลยไม่ได้สานสัมพันธ์กับเขาต่อ”
“แกกับเวอาจะไม่ใช่เนื้อคู่กันก็ได้”
“แต่วันนี้ฉันเจอเว” ประโยคนั้นทำให้การันต์ชะงัก มือที่ถือแก้วเหล้าสั่นพอสมควร
“เจอเวแล้วยังไงวะ” การันต์แกล้งถาม ใจเขาสั่นรัวเสียยิ่งกว่าอะไร
“เวมีลูกแล้ว” ประโยคของเพื่อนทำให้การันต์กลอกตาไปมาเล็กน้อย
“ใช่ เวมีผู้ชายชอบเยอะ” คนพูดเบี่ยงไปอีกทาง
“เวมีผู้ชายชอบเยอะจริง ๆ ฉันจำได้ว่ามีคนมาจีบเวเยอะ ขนาดตอนนั้นคบกับฉันอยู่ก็ยังมีคนมาจีบเวอยู่ตลอด”
“อืมจริง” การันต์ครางในลำคอ
“ฉันอยากรู้ว่าตอนฉันไม่อยู่ เวคบกับใคร แล้วเด็กนั่นลูกใคร นายพอจะรู้ไหมว่าพ่อของเด็กคนนั้นคือใคร”
“ฉันจะไปรู้เหรอ ฉันไม่ได้ไปนอนใต้เตียงของเวกับผู้ชายคนนั้นนะ” การันต์เสียงดังใส่เพื่อน
“แกก็พูดไปโน่น เวท้องก็ต้องมีแฟนสิ ต้องมีคนเห็นว่าเวคบกับใครถึงได้ท้อง แกอยู่ที่นี่ไม่รู้เลยหรือไง ไม่น่าเชื่อ”
“ฉันไม่รู้หรอก”
“เด็กคนนั้นหน้าเหมือนฉัน” สิบทิศตัดสินใจพูดออกมาในที่สุด
“จะหน้าเหมือนแกได้อย่างไรกัน” การันต์เสียงดัง หัวใจร้อนรุ่ม
“ถ้าแกบอกว่าเวไม่ได้คบกับผู้ชายคนไหน ก็แสดงว่าเด็กนั่นลูกฉัน เพราะฉันคบกับเวจริงจังอยู่แค่คนเดียว”
“ก็ไม่แน่”
“อะไรของแก”
“ไม่มีอะไรหรอก แกถามมากฉิบ ฉันอยากกลับแล้ว” การันต์พูดขึ้นก่อนจะดึงเงินออกมาจ่าย
“อะไรของแกวะนี่”
“จะให้ฉันไปส่งไหม หรือแกจะกลับเอง”
“แกไม่ไปส่งแล้วฉันจะกลับเองยังไง ฉันซ้อนท้ายรถแกมานะ” สิบทิศโวยวายเสียงดัง ก่อนที่เขาจะรีบกระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อน
การันต์ไปส่งสิบทิศที่บ้านของอีกฝ่าย ก่อนจะกลับบ้านของตัวเอง พอถึงบ้านบิดามารดาก็โวยวายว่าออกไปทำอะไรมา
“ผมไปกินข้าวกับสิบทิศมาน่ะครับ”
“สิบทิศเพื่อนเอ็งสมัยเรียนน่ะรึ เป็นไงมาไงถึงกลับมาที่นี่ได้” สองสามีภรรยาเอ่ยถามอย่างสงสัย