คืนรัญจวน 3
เพื่อนในกลุ่มราวๆ หกคนกรี๊ดเสียงดังเมื่ออัทธ์ปรากฏตัว เขาส่งยิ้มทักทายรุ่นน้องอย่างไม่ถือตัว ร่วมทั้งถ่ายรูปด้วย แต่บาลีเขินไม่กล้าขอถ่ายรูป ได้แต่นั่งหลบมุมในห้องนั่งเล่น ซึ่งใช้เป็นห้องปาร์ตี้สำหรับค่ำคืนนี้
“ลี มาถ่ายรูปด้วยกัน” ปิยดาเดินมาดึงแขนเธอให้เข้าไปร่วมเฟรมจนได้
ตอนยืนข้างๆ อัทธ์ บาลียืนห่างมาก แต่เพื่อนๆ ที่เป็นคนถ่ายภาพบอกให้ยืนใกล้ๆ เธอก็ขยับเข้าไปใกล้ร่างสูงจนกลิ่นน้ำหอมโชยมาแตะจมูก เผลอสูดเข้าไปเต็มปอด กระทั่ง...
“ขออนุญาตนะครับ” แล้วท่อนแขนนั้นก็โอบบ่าเธอกับ
ปิยดาไว้
หัวใจบาลีเกือบวาย ไหนจะกลิ่นน้ำหอม ไหนจะกายอุ่นๆ ที่ทำให้ผิวหน้าเธอร้อนผ่าว
แม้จะถ่ายรูปเสร็จแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าแก้มยังร้อนผ่าว ขณะที่อัทธ์ถูกเจ้าของงานปาร์ตี้ เดินแขนไปที่ระเบียงห้อง เพื่อจะได้คุยหรืออยู่กันตามลำพัง ส่วนคนอื่นๆ ก็เปิดเพลงเต้น ดื่ม คุยกันอย่างสนุกสนาน
“อ้าว ไหนบอกไม่ดื่มไง” ปิยดาถาม
“ก็ไม่ได้ดื่มนี่” บาลียกแก้วน้ำอัดลมให้เพื่อนดู
“อ้าวเหรอ ก็เห็นแก้มแดงๆ นึกว่าแอบกินไวน์”
บาลียิ้มขำ แล้วแอบตีแก้มตัวเองเบาๆ ที่ยังร้อนผ่าว เพียงแค่แอบไปมองอัทธ์ ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนเขาจะคุยกับน้ำส้มอย่างเพลิดเพลินที่ระเบียงห้อง
ทั้งสองใช้เวลาด้วยกันตรงนั้นนานแค่ไหนไม่รู้ เพราะจู่ๆ หนังตาเธอก็หนักอึ้ง อาจเพราะคืนก่อนนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นเต้นที่คาดหวังจะได้เจอผู้ชายที่เพ้อหาในปาร์ตี้อำลาไปเรียนต่อของน้ำส้ม
และก็ได้เจอจริงๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
‘อยู่ที่ไหนนะ’
บาลีลืมตาขึ้นมาทั้งที่ยังงัวเงีย ขณะมองไปรอบห้องอย่างงงๆ ก่อนจำได้ว่าเป็นห้องนั่งเล่นในคอนโดฯ ของน้ำส้มนั่นเอง
แต่เพื่อนๆ ไปไหน ทำไมเธออยู่คนเดียว หันไปมองนาฬิกาแขวนติดผนัง
“นี่มันตีสามแล้วเหรอ” บาลีพึมพำ
เพื่อนๆ คงกลับหมดแล้ว คงเห็นว่าเธอเผลอหลับไป ทุกคนก็เลยปล่อยให้หลับต่อในห้องนั่งเล่น เพราะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่บาลีหลับในห้องนั่งเล่นคอนโดฯ ของน้ำส้ม ตอนทำรายงานกลุ่ม หรือวันว่างเธอกับปิยดาก็มาจอยกับน้ำส้มออกบ่อย
กำลังจะเอนตัวลงนอนต่อ ก็ได้ยินเสียงครางฮือๆ จากในห้องนอน เสียงเหมือนคนฝันร้าย หรือพร่ำบ่น และแปลกว่านั้น เสียงห้าวทุ้ม ไม่ใช่เสียงหวานใสของน้ำส้มแน่นอน
กลัวก็กลัว เพราะไม่รู้ว่าใคร หรือน้ำส้มพาใครมาค้างด้วย ก็อย่างที่รู้น้ำส้มเป็นสาวแซ่บ ยังไม่ได้คบหาใครอย่างจริงจัง แต่มีคนคุยอยู่หลายคน และหนึ่งในนั้นคืออัทธ์
ถึงจะกลัว แต่ความอยากรู้ก็เอาชนะ บาลีค่อยๆ ย่องไปยังห้องนอนที่ปิดประตูไม่สนิท ค่อยๆ มองลอดช่องประตูเข้าไป แสงจากโคมไฟหัวเตียงทำให้เห็นร่างใหญ่ของใครบางคนนอนอยู่ใต้ผ้านวมผืนใหญ่ นอนกระสับกระส่าย ปากก็พึมพำไม่หยุด
“หนาว”
แค่เห็นใบหน้าคนบนเตียงชัดเจน พร้อมอาการบงบอกว่าเขากำลังเป็นไข้ บาลีก็ไม่รั้งรอที่จะรีบเข้าไปในห้อง ถลาเข้าไปข้างเตียง ใช้หลังมืออังหน้าผากอีกฝ่าย ถึงกับสะดุ้งเมื่อเจอกับความร้อน บ่งบอกเจ้าตัวกำลังมีไข้สูง
บาลีรีบไปเอาหยิบยาลดไข้ที่มีติดตัวไว้ในกระเป๋า และไม่ลืมรินน้ำดื่มใส่แก้วมาด้วย
“เธอวางบนโต๊ะหัวเตียงแล้วค่อยๆ พยุงร่างใหญ่ให้ขึ้นเพื่อสะดวกกับการกินยาและน้ำ แต่ก็ทุลักทุเล เพราะคนป่วยทำท่าไม่อยากจะขยับตัว
“พี่อัทธ์คะ ลุกขึ้นกินยาก่อนค่ะ” เธอบอกเสียงอ่อนโยน อีกฝ่ายครางอือตอบรับ แล้วขยับตัวพิงพนักเตียง ดวงตาก็ไม่ยอมลืมขึ้น
บาลีหยิบยาลดไข้ป้อนใส่ปาก ตามด้วยแก้วน้ำจ่อปาก เมื่อเรียบร้อยก็พยุงให้เขาเอนตัวนอนตามเดิม จากนั้นเธอก็หาผ้าขนหนูผืนเล็ก ชุบน้ำก๊อกบิดจนหมาดแล้วมาเช็ดตัวให้ชายหนุ่ม เพื่อเขาจะได้ลดความร้อนจากอาการไข้สูง
ขณะเช็ดตัวให้ชายหนุ่มก็สงสัยว่าน้ำส้มไปไหน ทำไมปล่อยให้อัทธ์นอนไข้ขึ้นอยู่คนเดียว
ขณะกำลังสงสัย เสียงข้อความจากโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
น้ำส้ม : ถ้าตื่นแล้ว ก็ช่วยไปดูพี่อัทธ์ให้หน่อย เขามีไข้น่ะ
บาลี : แล้วแกอยู่ไหน
น้ำส้ม : อยู่กับคริส
อีกฝ่ายเอ่ยถึงผู้ชายคนใหม่ที่เพิ่งเจอในผับเมื่อไม่กี่วัน เป็นหนุ่มหล่อ ชาวอเมริกันที่เจอกันวันแรกก็เปิดห้องด้วยกันทันที น้ำส้มก็หลงเสน่ห์หนุ่มคนใหม่จนทิ้งหนุ่มเก่าอย่างไม่ใยดี เมื่อหนุ่มคนใหม่เรียก ก็รีบแจ้นไปหาทันที
บาลี : พี่อัทธ์มาหาแก แต่แกไปหาผู้ชายอื่น
น้ำส้ม : ช่วยไม่ได้ก็เขาป่วย เพราะคืนนี้ฉันอยากโดนจัดหนักน่ะ และฉันจะเดินทางไปเมกาพร้อมเขาด้วย
บาลี : ส่งสติ๊กเกอร์หมีส่ายหน้า
น้ำส้ม : ส่งสติ๊กเกอร์หมีส่ายก้น
บาลีหันมาสนใจกับการเช็ดตัวให้อัทธ์ เช็ดไปใจสั่นไป เมื่อแกะกระดุมเชิ้ตขาวออก เพื่อเช็ดตรงหน้าอก ซอกคอ
แค่หล่อก็ทำใจละลาย แต่รูปร่าง และกล้ามสวยๆ ทั้งแผงอก กล้ามแขน หน้าท้องเป็นลอน นอกจากใจบาลีจะสั่น มือก็สั่นไปด้วย
แต่สั่นสู้โว้ย!
ไม่เข้าใจว่าน้ำส้มใจทิ้งผู้ชายเพอร์เฟ็กต์แบบนี้ไปหาผู้ชายอีกคนได้อย่างไร
บาลีเช็ดตัวให้คนไข้สูงเช็ด กำลังจะหมุนตัวเอาผ้าขนหนูในมือไปตาก แต่ก็ถูกมือใหญ่รั้งข้อมือไว้ และดึงจนร่างเธอล้มลงบนตัวเขา
“หนาว...” อีกฝ่ายพึมพำข้างหู ก่อนร่างเธอจะค่อยๆ หล่นลงไปนอนข้างๆ ในอ้อมกอดของเขา
ใจเธอเต้นแรงจนกลัวว่าเขาจะได้ยิน นอนซุกหน้ากับอกกว้าง ไม่กล้ามองใบหน้าหล่อที่เอาคางเกยศีรษะเธอไว้
เขาจะรู้ไหมนะว่าผู้หญิงที่นอนกอดอยู่ในตอนนี้ ไม่ใช่ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของห้องนอน
“หอมจัง ฮือ”
บาลีแทบสะดุ้งเมื่อคิดว่าคนที่หลับใหลแถมไข้สูงกลับสูดดมที่เรือนผมเธอ อ้อมกอดก็กระชับแน่นขึ้น จนความร้อนผ่าวจากกายใหญ่แผ่กำจายมายังร่างเธอให้ร้อนขึ้นมาด้วย
แต่ไม่แน่ใจว่าร้อนเพราะอะไร อาจเป็นความรู้สึกข้างในที่วาบหวิวกับกายแกร่งที่แนบชิด
“นุ่มจัง หอม เปลี่ยนน้ำหอมเหรอ” เสียงพร่าทุ้มนั้น ยิ่งไม่แน่ใจว่าเขาลืมตาหรือยัง ถึงไฟในห้องจะสลัวราง เพราะมีแค่โคมไฟหัวเตียงวัตต์น้อย แต่ถ้าลืมตาขึ้นดูสักนิดจะรู้ว่าเธอไม่ใช่น้ำส้ม
อยากจะเงยหน้าขึ้นไปมอง แต่ก็ไม่กล้า ถึงแต่ซุกซบกับอกกว้างอย่างหวั่นไหว ละอายใจอยู่บ้างที่เหมือนฉกฉวยโอกาสนี้ใกล้ชิดอีกฝ่าย
ทั้งที่ควรลุกขึ้นโวยวายว่าเธอไม่ใช่น้ำส้ม หรือทำอะไรก็ได้ให้หลุดพ้นจากอ้อมกอดอันแสนร้อนผ่าวที่กำลังกลืนกินตัวตนของเธอ
ตัวตนที่ควรรักนวลสงวนตัวอย่างที่ถูกอบรมมาตลอดชีวิตจากป้ามอญ
ใช่ มันคือสิ่งที่ถูกต้อง อย่าให้อะไรมาเปลี่ยนแปลงมันสิ
แม้แต่ผู้ชายที่อยู่ในความฝันมาตลอดหลายปี ก็ไม่ควรยอม!
กำลังจะฮึดเอาแรงผลักร่างใหญ่ ทว่า...
“ฮือ”
ปากอุ่นจัดกลับจูบลงที่แก้มร้อนผ่าวของเธอ ความรู้สึกวาบหวิวจู่โจม เรี่ยวแรงที่พยายามฮึดเอาคืนมา กลับอ่อนระทวย และจางหายไปทันที
อีกทั้งเธอกลับครางเสียงหวานแผ่ว เมื่อมือใหญ่สอดเข้ามาในชายเสื้อลูบไล้เนื้อตัว ตั้งแต่รอบเอว สีข้าง ไล่ขึ้นไปกระทั่งถึงแผ่นหลัง และถูกโอกาสปลดตะขอบราเซียร์เธออย่างเชี่ยวชาญ และมือนั้นกำลังลูบไล้มายังเบื้องหน้า
“อย่า อ๊ะ” เหมือนจะช้าไป เพราะมืออุ่นนั้นแตะลงกับฐานทรวง ไล้เบาๆ ด้วยปลายนิ้ว แต่เธอกลับสะท้านตามประสาหญิงสาวที่เพิ่งแรกเริ่มสัมผัสจากเพศตรงข้าม
"""""""""""""""""