บทย่อ
พี่ชายในความลับพี่ชาย พี่แอบรักน้อง (นอกไส้) มา 20 ปี ดูแลประคบประหงม ยิ่งกว่าไข่ในหิน ทำตัวเป็นยักษ์ กีดกันผู้ชายทุกคนออกไปจากชีวิตน้อง สุดท้ายกลับอดใจไม่ไหว แอบกินน้องซะเอง ด้วยความอร่อยลิ้นร่วมกันไปอีกหน่อยผมก็โต เด็กที่เธอเคยเลี้ยงดู พอโตก็กลับมาตอบแทนบุญคุณด้วยการมอบร่างกายให้กับเธอ ตกลงคุ้มหรือไม่คุ้ม ดูจากลีลาก็ว่าคุ้มสุดยอดเลยล่ะ
ตอน 1 พี่ชายในความลับ
พี่ชายในความลับ
“นั่นทำอะไรน่ะลิน” เสียงทรงพลังแฝงความโกรธเคือง ดังมาจากไหนสักแห่ง ส่งผลให้หนุ่มสาว ที่กำลังคลอเคลียชะงักการเบียดกายเข้าหากันโดยพลัน ความจริงฝ่ายหญิงไม่ได้เบียด มีแต่ฝ่ายชายที่พยายามจะเบียดเข้าหา
“เอ่อ...พี่ใหญ่” ไพลินหันไปเจอพี่ชายมีใบหน้าถมึงทึง ขณะที่ตัวเธอรีบผลักตัวออกจากแฟนหนุ่ม ที่มาส่งหน้าบ้าน ก่อนจะเข้าบ้านแชมป์แค่ขอชื่นใจนิดหน่อยๆ ตามประสาคนรัก ทีแรกเธอเองไม่ยอม ด้วยยังไม่ตกลงปลงใจกับชายหนุ่ม จะอยู่ในสถานะไหน การที่เขาขอหน้าซื่อๆ เพราะเกรงแม่หรือพี่ชายออกมาพบ ด้วยพี่ชายเป็นคนหวงน้องอย่างรุนแรงไม่ชอบให้ผู้ชายเฉียดใกล้น้องสาว
“ว่าไง...” พี่ใหญ่ต้องการคำตอบ ยืนกอดอกจ้องมองผู้ชายที่คิดว่าน่าจะเป็นแฟนของน้องสาว เห็นอยู่เมื่อกี้กำลังจะจูบกัน ถ้ามาไม่ทันมีหวังไอ้หมอนี่กัดน้องเขาจนปากบวมแน่
“ไม่มีอะไรค่ะพี่ใหญ่” ไพลินก้มหน้าไม่กล้าสบตาพี่ชาย คือ...ข้อหาดิ้นไม่หลุดในเมื่อแชมป์จะจูบเธอจริงๆ
“ไม่มีอะไร แต่...ที่พี่เห็นกับตา” พี่ใหญ่ยังไม่ยอมลดละ ความโกรธทบเท่าทวี เพราะยังเห็นไอ้ผู้ชายที่จะกินน้องสาว ยังลอยหน้าไม่สะท้านกับสีหน้าและน้ำเสียงที่เขาเปล่งกร้าวกล้าออกไป เพื่อให้อีกฝ่ายรีบเผ่นออกจากหน้าบ้านซะ แต่มันยังหน้านิ่งยืนเฉย ช่างไม่กลัวตายใดๆ เลย
นี่เขาเป็นผู้ชายหวงน้องสาวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ใหญ่เองจำไม่ได้ด้วยซ้ำ รู้สึกหวงแหน และเป็นห่วงเป็นใยไพลินมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร รู้แต่ว่าไม่อยากให้น้องสาวมีแฟน หรือแม้แต่เข้าใกล้ผู้ชายคนไหนเลย ยกเว้นเขาเท่านั้น
“แชมป์กลับไปก่อนไป” ไพลินโบกมือไล่แฟนกลับไปก่อน อีท่านี้ปล่อยให้อยู่ประจันหน้ากับพี่ใหญ่รับรอง ไม่ใครก็ใครตายไปข้าง ดูหน้าพี่ใหญ่สิ หน้าแดง ควันออกหูแล้ว ไม่รู้จะหวงน้องอะไรนักหนา ก่อนหน้านั้นไม่ยอมให้พี่แฟนก็ว่ายังเด็ก ตอนนี้โตยังทำท่าหวงเห็นผู้ชายหน้าไหนเข้าใกล้เธอไม่เคยได้
“เป็นสาวเป็นนางไปยืนจูบลูบคลำ อยู่กับผู้ชายอย่างนั้นทำถูกแล้วหรือ มานี่...ต้องคุยกันหน่อยแล้วเรา” พี่ใหญ่ลากข้อมือไพลินเข้าไปในบ้าน เขาทำหน้าที่ผู้ปกครองไพลินตามคำสั่งแม่ ดังนั้นไม่ว่าไพลินจะทำอะไร เขาในฐานะพี่จำต้องสอดส่องดูแล โดยเฉพาะเรื่องแฟน แม้น้องสาวจะโตสะพรั่งสาวเต็มตัว ใช่ว่าจะอิสระในการคบหาผู้ชายอย่างนี้ได้ ถ้าผู้ชายคนนั้นรักจริง ต้องให้เกียรติไม่ใช่จะมายืน พลอดรักโจ่งแจ้งแบบนี้ เสื่อมเสียต่อผู้หญิงอย่างไพลินแย่สิ
“พี่ใหญ่เบาๆ สิคะ น้องไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมต้องฉุดกระชากอย่างกับเป็นนักโทษด้วย” ไพลินฝืนตัว พยายามบิดข้อมือจากการเกาะกุม บีบลากเดินจากพี่ใหญ่ ข้อมือเขาแข็งแรงและร้อนเร่า ความร้อนพวยพุ่งออกจากฝ่ามือพี่ใหญ่ผสานกับแววตาไม่พอใจอย่างยิ่งยวด ไพลินรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ
“ยังมีหน้ามาพูดว่าไม่ได้ทำผิดอะไร”
“แล้วน้องผิดอะไรละคะ”
“ไปยืนจูบกับผู้ชายขนาดนั้นนะ หรือไม่ผิดผู้หญิงดีๆ ที่ไหนเขาทำกันบ้าง”
“แล้วจะให้น้องจูบกับผู้หญิงด้วยกันเหรอคะ แชมป์ เขาเป็นแฟนน้องนะคะ”
“โห...ขึ้นเลย ขึ้น ยังกล้าพูดว่าเป็นแฟน เป็นตอนไหน ทำไมพี่ไม่รู้ ไม่เคยเห็นไอ้หมอนี่มาก่อน” ที่ผ่านๆ มาพี่ใหญ่เคยเจอผู้ชายที่มาขายขนมจีบกับน้องสาวราวสิบคน แต่ละคนก็โดนมรสุม พายุร้ายจากพี่ใหญ่พัดกระหน่ำซัดเซหายไปจนหมดสิ้น รายนี้คงจะเป็นรายล่าสุด
ทุกรายที่ผ่านๆ มา พี่ใหญ่ให้เหตุผลว่า ไพลินยังเด็ก ไม่สมควรมีแฟนก่อนวัยอันควร ตั้งแต่อายุสิบห้าจนมาถึงสิบแปด ตอนนี้ไพลินโตเป็นสาวเต็มตัว บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่ควรได้ยินคำว่าเด็กเกินไปอีกแล้ว กับแชมป์เป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกัน คบหากันมาหลายเดือนแล้ว การที่แชมป์จะมาส่ง หรือไปออกเดทก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะแชมป์ปฏิบัติกับไพลินดีมาตลอด ไม่มีเรื่องเสื่อมเสียใดๆ ทั้งสิ้น
พี่ใหญ่ใจร้ายหวงน้องราวกับจงอางหวงไข่ หรือเสือหวงลูกน้อยอย่างนั้นละ ไพลินยากจะเข้าใจความรู้สึกนี้ หากแต่...ไม่โกรธพี่ชาย ซ้ำยังรู้สึกดีมากๆ เวลาเห็นพี่ชายแสดงความหวงตัวเองจนหน้าเครียดขึงแบบนี้
เธอ...เคยรู้สึกแปลกๆ กับพี่ชายคนนี้อยู่หลายครั้ง เป็นความรู้สึกที่ไพลินบอกไม่ได้ ทำไมจึงได้มองพี่ชายในแบบที่แปลกไป โมโหทุกครั้งที่เห็นพี่ใหญ่คุยโทรศัพท์แสดงสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมน้ำเสียงหวาน มีคะ มีขา ลงท้าย ช่างน่าหมั่นไส้ ยิ่งโทสะพุ่งปรี๊ดในเวลาที่พี่ใหญ่เดินคลอเคลียกับผู้หญิง
ไพลินไม่ชอบเพื่อนสาวของพี่ชายแม้แต่คนเดียว ต่อให้ดีเลิศประเสริฐศรี สวยหยาดฟ้ามาดิน รวยล้นฟ้า ลูกผู้รากมากดีมาจากไหน หญิงสาวยังคงไม่ญาติดีเลยสักคน ยิ่งผู้หญิงของพี่ชายที่อยู่ในผับ รู้สึกเหมือนยาพิษเวลาที่เห็น สาวพวกนี้ออเซาะฉอเลาะกับพี่ชาย เธอคิดขนาดอยากกระโดดเข้าไปหักคอ ข่วนหน้า และจิกผมลากมาตบหน้าด้วยซ้ำ ทั้งหมดไพลินไม่เข้าใจตัวเองจนทุกวันนี้
“เอ้า...นั่นแม่มาพอดี” พี่ใหญ่หันไปทางแม่นวลกำลังเดินตรงมา
“พี่ใหญ่อย่าเล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟังนะ” เธอไม่อยากให้แม่นวลรู้สึกไม่สบายใจ ไพลินห่วงความรู้สึกของผู้ใหญ่ ซึ่งต้องมากังวลเกี่ยวเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่ใช่กลัวความผิด ในเมื่อเธอไม่ได้ทำอะไรผิด
“จะเหลือเหรอ” พี่ใหญ่ไม่ฟังใดๆ เขาโกรธที่ไพลินไม่เคยเชื่อฟังตนในฐานะผู้ปกครอง
“นะนะ ลินไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ พี่ใหญ่จะดุจะว่าลินยังไงก็ได้แต่อย่าเล่าให้แม่ฟัง ขอร้องนะ” ไม่อยากเห็นแม่เครียด หรือความดันขึ้น แม่นวลค่อนข้างเจ้าระเบียบ ทุกอย่างตรงเป๊ะ โดยเฉพาะกับเธอแล้ว ไม่ให้ผ่านสายตาได้สักเรื่อง
“อ้าว...ใหญ่ยังไม่ไปที่ผับอีกเหรอ” แม่นวลกลับจากทำงาน ปกติเวลานี้จะไม่เห็นลูกชายอยู่ที่บ้านแล้ว แต่วันนี้กลับยังเห็นใหญ่ยืนอยู่กับน้องสาว ราวกับมีเรื่องอะไรกัน สังเกตจากสีหน้าถมึงทึงผู้เป็นพี่
หลายปีมานี้แม่นวลเห็นว่าใหญ่โตเป็นผู้ใหญ่หนุ่มใหญ่เต็มตัวจึงปล่อยหน้าที่ดูแลไพลิน ที่อายุห่างกันกับใหญ่ถึงสิบปี ดูแลกันไปส่วนนางก็ปล่อยวางในการเจ้าระเบียบกับลูกๆ ไปมาก ใหญ่ดูแลน้องสาวดีทุกกระเบียดนิ้ว บางทีว่าดีเกินไปด้วยซ้ำ แม่นวลยังนึกหวาดๆ เกี่ยวกับการดูแลน้องดีเกินไปของใหญ่อยู่บ้างเป็นบางครั้ง
แม่นวลไม่เคยอยากให้ใหญ่เปิดกิจการแบบนี้ เพราะเป็นการมอมเมาทั้งเยาวชนและประชาชน หากแต่เมื่อใหญ่ยืนยันจะเปิดผับ โดยเงินที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงนางจึงคัดค้านไม่ได้ปล่อยให้เปิดตามที่อยากเปิด สามปีแล้วที่ใหญ่เปิดกิจการตรงนี้ ซ้ำไม่ใช่ที่เดียว ยังเปิดหลายสาขา ทำกำไรงอกงามทุกๆ ปี
“กำลังจะไปครับ ลินอยากไปทำงานกับพี่ไหม” เป็นครั้งแรกที่พี่ใหญ่ถามไพลินแบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ไพลินขอไปทำงานที่ผับกับพี่ชายเท่าไหร่เขากลับไม่เคยยอม
“หะ...หา...!! เกิดอะไรขึ้น ผีเข้าไหมพี่ใหญ่” ไพลินตกอกตกใจที่ได้ยินประโยคจากพี่ชายอย่างนั้น ปกติพี่ใหญ่สั่งห้ามเด็ดขาดห้ามไปที่ผับ ในตอนที่เธอกับเพื่อนอยากไปเที่ยวเลี้ยงฉลองวันเกิดให้เพื่อนอีกคน ตั้งใจไปเซอไพร้ส์พี่ใหญ่ถึงผับ อีกอย่างอยากอวดเพื่อนๆ ว่าตัวเองมีพี่เป็นเจ้าของผับหรูกลางกรุง ผลคือ...
แค่พี่ใหญ่เห็นเธอกับเพื่อนปรากฏตัวที่ผับ ก็โดนโวยยกใหญ่ แล้วลากออกจากผับ พาไปฉลองที่ร้านอาหารธรรมดา พร้อมออกค่าใช้จ่ายให้ทุกบาท ไม่รู้จะหวงอะไรนักหนากับผับนั้น แต่พอมาตอนนี้สิ่งที่ได้ยินราวกับผีหลอกหัวค่ำอย่างนั้นละ
“จะไปไหม ถ้าไปก็ขึ้นไปแต่งตัว พอดีพี่อยากได้พนักงานบัญชีสักคน ที่ผับขาดแคลนพนักงานบัญชี” ชายหนุ่มพูดเสียงขรึม