ตอนที่ 4 ทารุณ
ตอนที่ 4 ทารุณ
เฉิงเสี้ยงเสี้ยเห็นอ๋องเหลียงไปแล้ว ในใจหวาดกลัวขึ้นทันที มองไปอย่างองค์รัชทายาทซือถูเย่อย่างไม่รู้ตัว ซือถูเย่โมโหอย่างยิ่ง คิดไม่ถึงว่าเขาจัดการเรื่องได้ไม่ดีเพียงนี้ แม้แต่ลูกสาวตนเองยังไม่มีวิธีจัดการให้เรียบร้อย จะยอมอยู่ขายหน้าตรงนี้ได้ยังไง?
แล้วก็รีบขึ้นม้าอย่างเย็นชา ขี่ม้าจากไป
เจ้าบ่าวและองค์รัชทายาทของขบวนรับเจ้าสาวไปกันหมดแล้ว ขบวนก็ไม่เหลืออยู่แล้ว พริบตาเดียว ความคึกคักที่เต็มสำนักก็กลายเป็นความว่างเปล่า
เฉิงเสี้ยงเสี้ยและคุณนายหลินหลงแทบไม่รู้จะจัดการสถานการณ์ต่อหน้าอย่างไร กลับเป็นคุณนายใหญ่ที่เดินออกมาจากสำนัก กล่าวขอโทษต่อผู้คนอย่างเกรงขามและไม่เสียมารยาท “เรื่องของวันนี้ รบกวนทุกท่านแล้ว ทุกท่านเชิญกลับก่อนเถอะ วันหน้าข้าจะไปแสดงความขอโทษถึงบ้าน ”
ผู้คนเห็นคุณนายใหญ่ลงคำสั่งกันแขกแล้ว ก็รู้กันว่าความสนุกนี้คงดีต่อไม่ได้แล้ว แต่กับเสี้ยหลีโม่นั้น ปฎิเสธขึ้นเกี้ยวแต่งงานทำให้ท่านเสี้ยงเสียหน้าเสียตา ก็คงจะไม่มีชะตากรรมอะไรดีๆหรอก
แล้วก็ เป็นนางที่ปฎิเสธขึ้นเกี้ยวแต่งงาน ฮองเฮาต้องถามโทษ ก็ต้องถามนางอยู่แล้ว โดยวิธีการของฮองเฮาแล้ว… เหอ
หญิงสาวที่หน้าตาดีๆคนนึง คงจะชีวิตสั่นยามสาวแล้ว
ท่ามกลางแขกมีชายรูปหล่อวัยกลางคนผู้นึง มองหลีโม่หลายครั้ง ถึงขึ้นรถม้าจากไป
บุคคลนี้คืออ๋องอานชิน แต่ก่อนเคยรักใคร่หลี่ซื่อมาก่อน ถึงตอนนี้ยังไม่แต่งงาน เล่ากันว่า เขาเคยสาบานเพื่อหลี่ซื่อจะไม่แต่งงานตลอดชีวิต
ชายเย็นชาบนหอคอยตรงข้ามเก็บม้วนชุดคลุม “การแสดงดูจบแล้ว เข้าราชวังเถอะ!”
องครักษ์รีบร้อนตามขึ้นไป กล่าว “คุณหนูใหญ่ตระกูลเสี้ยนี้ คงต้องตายแน่เลยสินะ?”
ชายนั่นยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา “ตามนิสัยของเสด็จแล้ว จะปล่อยนางง่ายๆได้อย่างไร?ไม่ถึงสองชั่วยาม นางก็คงจะเรียกหลีโม่เข้าราชวัง ข้าอ๋องพนันกับเจ้าหนึ่งตำลึง เสี้ยหลีโม่จะตายระหว่างที่เดินทางกลับบ้าน
องครักษ์หัวเราะกล่าว ได้ พนัน การแสดงในวันนี้ เสี้ยหลี่โม่เตรียมการได้ดี คาดว่าเป็นหญิงสาวที่มีมันสอง ข้าน้อยก็พนันว่านางสามารถกระโดดโลดเต้นได้อีกสองวัน ”
แต่ว่า ท้ายสุดก็หนีความตายไม่พ้น
คุณนายใหญ่เห็นแขกไปกันหมดแล้ว สั่งการลงมา “ทุกคนกลับเข้าสำนัก ปิดประตูสำนัก!”
หลีโม่โดนล่ากลับไป ทิ้งไว้กลางลานบ้าน ยังไม่รอคุณนายใหญ่สั่งการ เฉิงเสี้ยงเสี้ยก็เข้าไปถีบนางไปหลายทีแรงๆ กล่าวด้วยความโมโห “อีชั่ว เจ้าทำให้ข้าขายหน้าหมด ข้าฆ่าเจ้าไปก็ไม่พอหรอก ”
หลีโม่บาดเจ็บหนักอยู่แล้ว โดนเขาทีบไปหลายทีอีก จะทนไหวได้อย่างไร?แทบจะเป็นลมไปกับที่ นางจับกำไลอย่างรวดเร็ว คิดอยากจะฆ่าเฉิงเสี้ยงเสี้ย แต่ก็พยายามอดทนสุดขีด
คุณนายใหญ่กล่าวเสียงดัง “ตอนนี้มีตีมีประโยชน์อะไร?ตอนนี้อ๋องเหลียงคงเข้าไปในราชวังแล้ว เจ้าไปคิดดีดีว่าจะเผชิญหน้ากับความโมโหของฮองเฮาอย่างไรเถอะ
เฉิงเสี้ยงเสี้ยเครียดเรื่องนี้ และไม่รู้จะทำอย่างไร รีบกล่าวถาม “ท่านแม่คิดว่าควรทำอย่างไรดี?”
คุณนายใหญ่เหลือกตามองเขาทีนึง “จะทำอย่างไรได้อีก?เรื่องนี้ต้องมีใครคนนึงออกมาแบกรับผลกระทบนี้ ก็ใช้ข้อหาทั้งหมดนี้โยนให้อีชั่วนี้ทั้งหมดก็พอ ฮองเฮ่ากับอ๋องเหลียงเพียงแค่จะลงโทษใครคนนึงเพื่อกู้หน้าคืนเท่านั้นเอง ก็คงไม่โทษเจ้าอะไรมากเกินไปหรอก มีเพียงเจ้า ไม่ใช่ท่านแม่ว่าเจ้า เรื่องใหญ่เช่นนี้ เจ้ากลับไม่ระวังเตรียมการไว้เลย มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยโดนคุณนายใหญ่ว่าไปกี่คำ ความโมโหในใจเพิ่มขึ้น ทีบหลีโม่ไปทีนึง กล่าว “ใครจะคิดว่านางจะเป็นอย่างนี้ละ?เมื่อคืนก็ตอบตกลงแล้วนี่ ”
คุณนายหลินหลงกล่าวด้วยความกลุ้มใจ “ท่านแม่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสืบสวน ส่งมอบนางออกไปก็สามารถยุติความโมโหของฮองเฮาแล้วหรือ?”
“เดินไปทีละขั้นละกัน ฮองเฮาต้องเรียกนางไปสอบสวนในราชวังแน่นนอนอยู่แล้ว พวกเจ้าต้องแสดงท่าทีพิฆาตญาติเพื่อคุณธรรม ออกมาให้ข้า ”คุณนายใหญ่กล่าวด้วยเสียงโหด
“ใช่! ”เฉิงเสี้ยงเสี้ยตอบกลับ
คุณนายหลินหลงก้มหัวไปดูหลีโม่ที่นอนอยู่บนพื้นทีนึง กล่าวด้วยความรังเกียจ “คิดไม่ถึงจริงๆว่านางจะมีเล่ห์เหลี่ยมที่ลึกถึงเพียงนี้ กลับปิดบังพวกเราทุกคนเช่นนี้ ”
เพิ่งพูดจบ เสี้ยโล่เย่วก็รีบพุ่งออกมา ในฐานะหญิงสาวในบ้านคนนึง นางไม่สามารถแสดงตัวต่อภายนอก หลังได้ยินคนรับใช้กล่าว ว่าเสี้ยหลีโม่ปฏิเสธขึ้นเกี้ยวแต่งงาน แล้วยังวุ่นวายที่หน้าประตูสำนักเสี้ย จนทำให้องค์รัชทายาทต้องเสียหน้า
นางโมโหรีบมากเลยพุ่งออกมา เห็นหลีโม่โดนตีอยู่บนพื้น นางคิดยังไม่คิด ด้วยความแค้นก็พุ่งเข้าไป อ้าขาทั้งสองข้างไปขี่อยู่บนตัวหลีโม่ แล้วตบหน้าไปหลายที
แล้วยังไม่หายแค้น กำลังคิดจะตบอีก ทันใดนั้นหลีโม่ก็ลืมตาขึ้นมา เธอใช้แรงทั้งหมดของร่างกาย ผลักเสี้ยโล่เย่วคว่ำไปด้านซ้าย แล้วกัดใบหูของนางไว้ กัดจนทั้งตัวสั่นไปหมด แล้วยังไม่ยอมปล่อยไป
เลือดไหลลงมาจากมุมปากของเธอ เสี้ยโล่เย่วเจ็บจนกรี๊ดเสียงดัง สองมือสองเท้าทุบตีหลีโม่ หลีโม่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ
คุณนายหลินหลงเห็นสถานการณ์ โมโหจนสั่นไปทั้งตัว ชี้คนรับใช้กล่าวด้วยความโมโห “ยังไม่รีบไปดึงนางออกไป?”
หลีโม่โดนคนรับใช้หลายคนลากออก คุณนายหลินหลงเข้าไปตบหน้าเธอหลายที ตบจนมือของตนเองรู้สึกปวดชา ปากของหลีโม่มีเลือดไหลออกมา เธอไม่สนใจอะไรทั้งนั้น กลับปล่อยเสียงหัวเราะ “ดี ตบเลย บีบจนข้าทนไม่ไหว ทุกคนก็กอดกันตายไปพร้อมกัน ไม่ต้องมีใครอยู่เลยสักคน
เฉิงเสี้ยงเสี้ยเห็นท่าทีนางยังอวดดีเช่นนี้ โมโหจนสั่นไปทั้งตัว “ไปคุกเข่าตรงหน้าป้ายวิญญาณบรรพบุรุษเดียวนี้ ไม่มีคำสั่งเจ้า ห้ามลุกขึ้นมา จนถึงกว่าคำสั่งของฮองเฮานั้นมาถึง ”
หลีโม่เงยหน้ามอง ในสายตามีแสงที่ดื้อแกร่งและเยือกเย็น เลือดบนหน้าผากยังคงไหลลงมา เป็นหยด เห็นแล้วรู้สึกตะลึงนัก
ป้าหลายคนจะลากเธอ เธอกล่าวอย่างเยือกเย็น “ใครกล้าแตะต้องข้า?”
ป้าทั้งหลายต่างตกอกตกใจกับท่าทีอันโหดเหี้ยมน่ากลัวของเธอ ไม่กล้าเข้าไปทันที
หลีโม่เปิดปาก จองเฉิงเสี้ยงเสี้ยอย่างน่ากลัว “วันนึง เจ้าต้องได้รับผลที่เจ้าได้กระทำลงไปทั้งหมด!”
พูดจบ ลากร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผล ไปยังหอวิญญาณ
เลือดบนร่างกายของเธอที่ไหลลงพื้นบานออกเป็นดอกไห่ถังตามทาง เงาหลังที่อ่อนแรงนั้นยืดได้ตรงมาก เธอกำมือไว้ ทนความเจ็บปวดเบาๆในใจ นี้ไม่ใช่ความรู้สึกของเธอ เป็นความรู้สึกที่หลงเหลือในสมองของเจ้าของเดิม เจ้าของเดิมคาดหวังความรักจากพ่อเสมอมา
แต่น่าเสียดาย นางถึงตายก็ไม่เคยได้รับ
ความแค้นนี้ เธอต้องช่วยเจ้าของเดิมเอาคืน
เฉิงเสี้ยงเสี้ยตะลึงไปชั่วครู่ สายตาของหลีโม่นั้นทำให้เขาตกใจและหวั่นใจเล็กน้อย
เสี้ยโล่เย่วถูกคนรับใช่ประคองกลับไป ถ้าหลีโม่ใช้แรงอีกนิด คงจะกัดหูของนางให้ขาดลงมาแน่ นางเกลียดหลีโมยิ่งนัก เกลียดจนอยากหันนางเป็นชิ้นๆ
คุณนายใหญ่ยกหนังตาที่ย่อนขึ้น ในสายตาเผยประกายความโหดเหี้ยมออกมา “พวกเจ้าฟังไว้ ฮองเฮาต้องสอบสวนถามโทษกับนางแน่นอน ถ้านางมีชีวิตออกจากราชวัง หลังสามวัน เจ้าก็เข้าราชวังทูลต่อฮองเฮาว่าอีคนชั่วนั้นเป็นโรคสิ้นไปแล้ว เช่นนี้ฮองเฮาก็จะเข้าใจความประสงค์ของเจ้าเอง ”
“ครับ ลูกเข้าใจแล้ว ” ถูกแล้ว ในราชวังเพียงแค่ต้องการคนคนนึงมารับผิดชอบ เมื่อคนคนนั้นตาย ฮองเฮาก็จะหายโกรธ
หลีโม่คุกเข่าอยู่หน้าป้ายวิญญาณบรรพบุรุษตระกูลเสี้ย มองที่ป้ายวิญญาณทุกๆป้าย ป้ายวิญญาณพวกนั้นมองเธอจากบนลงมา
เธอพูดเป็นคำว่า “พวกท่านจงดูไว้ ดูไว้ว่าข้าจะทำให้ตระกูลเสี้ยนี้วุ่นวัยจนพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน เพื่อแก้แค้นให้กับเสี้ยหลีโม่ที่ตายไป ”
น้ำเสียงโหดเหี้ยม เด็ดขาด ไม่เหลือเยื่อใยแม้แต่นิด
เธอหมุนกำไลสะกดจิตบนนิ้วมือ
เธอคือจิตรวิญญาณข้ามภพมา แล้วทำไมกำไลสะกดจิตถึงได้ข้ามตามมาด้วย จุดนี้เธอคิดไม่ออกเลย
วันนี้ไม่ใช่ว่าโต้กลับไม่ได้ แต่คือไม่สามารถโต้กลับ เพราะด้วยความสามารถของเธอ ยังไม่พอที่จะโต้แย้งกับสำนักเสี้ยงทั้งสำนัก
วันนี้ยังมีหนึ่งด้าน ต้องอึดสู้ผ่านไป ที่สำคัญก็คือใช้กำไลสะกดจิตและฝีมือทางการแพทย์ของเธอแล้ว