1/4 คำสั่งเด็ดขาด
“คุณปู่ มีอะไรจะคุยกับผมหรือครับ” ชัชนนท์รู้สึกแปลกใจ
“พรุ่งนี้แกไปจดทะเบียนกับหนูนิด”
“ฮะ!...”
“ถ้าแกไม่จด ปู่จะยกสมบัติทุกชิ้น แม้แต่บ้านหลังนี้ ให้หนูนิดคนเดียว”
ชัชนนท์ทำท่าจะพูดขอเหตุผล แต่เมื่อคุณปู่หันมามองเขาด้วยสายที่เอาจริง ชายหนุ่มก็รู้ว่าตัวเขาเอง รู้เหตุผลที่แท้จริงอยู่แล้ว
คุณปู่เป็นห่วงหนูนิดมาก เมื่อท่านรู้ว่ากำลังจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ท่านจึงต้องทำทุกอย่างให้หมดห่วง
เมื่อคุยทุกอย่างกับชัชนนท์จนรู้เรื่องแล้ว คุณปู่จึงบอกเรื่องนี้แก่หนูนิด
สายตาของชายหนุ่มจากที่เคยมองน้องสาวคนนี้ด้วยความรัก ก็กลับกลายเป็นสายตาที่ขุ่นเคืองอย่างที่หนูนิดแทบไม่กล้าจะสบตา
เมื่อทุกคนออกจาห้องไป คุณปู่ก็หลับตาและคิดทบทวนเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่วันที่หนูนิดเกิด
“คุณท่านค่ะน้าวิภาเสียแล้วค่ะ”
ส้มเด็กรับใช้ของบ้านวิ่งออกมาบอกเจ้านายที่นั่งรออยู่ใกล้ๆกับห้องคลอดของโรงพยาบาล
“คุณหมอบอกว่าน้าช็อกก่อนมาถึงโรงพยาบาล หมอพยายามช่วยเต็มที่แล้ว แต่น้าจากเราไปแล้ว”
ส้มเป็นสาวใช้ใหม่ที่เพิ่งมาทำงานได้ไม่นาน เพราะคุณท่านของบ้าน สงสารวิภาที่กำลังท้องต้องมาทำงานบ้านหนักอยู่คนเดียวอีก เลยรับส้มให้เข้ามาช่วยงาน
“แล้วลูกของมันล่ะ” เจ้านายผู้เป็นมากกว่านายจ้างถามด้วยความห่วงใย
“เด็กปลอดภัยค่ะ เป็นผู้หญิง ผิวขาวหน้าตาน่าชังเชียว” ส้มอธิบาย
“เอ็งเห็นแล้วเหรอ พูดเสียเป็นฉากๆ” คุณปู่เอ็ดเอา เพราะคิดว่าส้มคงพูดมั่วเอาเอง
“ส้มเห็นแล้วสิคะ ถึงได้บอกได้ นางพยาบาลพาวิ่งออกมาก่อน ที่คุณหมอจะออกมาบอกส้มเรื่องน้าวิภา”
“วิภาเอ๋ย เองนี่มันมีกรรมจริงๆ ท้องไม่มีพ่อ พอจะได้เห็นหน้าลูกให้ชื่นใจ ก็มาตายจากลูกไปอีก”
วิภาเป็นสาวใช้เก่าแก่ของที่บ้าน เธอท้องโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอท้องกับใคร คุณท่านของบ้านต้องการให้เธอรักษาเด็กในท้องไว้ ท่านจะเป็นคนรับเลี้ยงเอง
“แล้วเราจะส่งลูกน้าวิภา กลับไปบ้านนอกไหมคะ”
ส้มอดเป็นห่วงชีวิตของเด็กน้อย ที่ลืมตามาปุ๊บก็กำพร้าแม่ทันทีไม่ได้
“นางส้ม แกเห็นฉันเป็นคนใจไม้ใส่ระกำขนาดนั้นเลยเหรอ” คุณปู่โมโห
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ ส้มก็แค่เป็นห่วงเจ้าเด็กน้อย”
“วิภามันอยู่ดูแลเมียฉันตอนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ถ้าไม่มีมันเมียฉันคงไม่มีชีวิตอยู่ยืนยาว กว่าที่หมอบอกไว้ ฉันไม่มีทางทิ้งลูกของมันหรอก”
วิภาถูกจ้างให้มาดูแลร่มไทร ภรรยาของคุณปู่ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง จากที่หมอบอกให้ทำใจ เธอจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงสองเดือน แต่การดูแลทั้งทางร่างกาย ความสะอาด และกำลังใจ ทำให้ร่มไทรมีชีวิตอยู่ได้เกือบปี
“เอ้ามาแล้วเหรอตาชัช”
ชัชนนท์หลานเพียงคนเดียวของบ้าน เพิ่งกลับจากโรงเรียน รู้ข่าวจึงให้คนรถพามาส่งที่โรงพยาบาล
“น้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายครับ”
ชัชนนท์ เด็กชายผู้มีชีวิตไม่ต่างจากลูกกำพร้า แม่ของเขาทิ้งเขาไปมีครอบครัวใหม่และไม่เคยกลับมาหาเข้าอีกเลย ส่วนพ่อก็เมาจนในที่สุดก็เสียชีวิตด้วยโรคตับแข็ง
“ผู้หญิง” เสียงตอบแบบเศร้าๆของคุณปู่ทำเอาชัชนนท์ใจหาย
“แล้วน้าวิภาอยู่กับน้องเหรอครับตอนนี้”
เด็กชายถามทั้งที่รู้ว่า ต้องมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ ถ้าไม่เกี่ยวกับน้องที่เพิ่งเกิด ก็ต้องเกี่ยวกับน้าวิภา
“น้าวิภาเสียแล้วค่ะคุณชัช”
ส้มทำหน้าที่ตอบแทน เพราะเห็นแววตาของเจ้านายที่ตอนนี้ เริ่มมีน้ำตาคลอ คงไม่พร้อมจะตอบ
“ไม่จริง น้าวิภาต้องไม่ตาย ฮื่อ ๆ”
นอกจากดูแลร่มไทรผู้เป็นย่าแล้ว วิภายังดูแลชัชนนท์มาตั้งแต่เกิดด้วย
ความเสียใจ ในการสูญเสียวิภาในครั้งนี้ ทำให้บ้านทั้งบ้านมีแต่ความเงียบเหงา
หลังจากเสร็จสิ้นงานศพ คุณปู่พูดคุยตกลงกับทางครอบครัวของวิภาซึ่งมีฐานยากจน เพื่อขอดูแลหนูนิดลูกของวิภาเอง
ซึ่งพ่อแม่ของวิภาก็ยินดี เพราะตัวเองก็แก่มากแล้ว ฐานะก็ยังยากจนอีก คงดูแลหลานได้ไม่ดีเท่ากับคุณท่านผู้เป็นเจ้านายของลูกสาว
“โชคดีของอีหนูมัน ที่ยังมีคนดีๆอย่างคุณท่านเอ็นดูมัน” มารดาของวิภาคิดอย่างที่พูดจริงๆ
หลังจากเสร็จสิ้นธุระเกี่ยวกับวิภาและลูกเสร็จสิ้น คุณปู่ก็กลายเป็นคุณปู่ที่มีหลานสองคนทันที